บทนำ
ปาญา หรือ ปุยนุ่น เด็กสาวกำพร้าวัย 19 ปี พ่อแม่เธอเสียชีวิตพร้อมกันด้วยอุบัติเหตุ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตลำพังกับน้องชายวัย 5 ขวบ มีเพียงบ้านและเงินประกันชีวิตที่พ่อแม่ทำและทิ้งเอาไว้ให้เธอกับน้อง
ป้า พี่สาวของพ่อ ท่านเป็นญาติเพียงคนเดียว ทำให้ได้สิทธิ์ในการดูแลมรดกแทนจนกว่าปาญาจะบรรลุนิติภาวะ
เธออาศัยอยู่กับน้องที่กรุงเทพ 2 คน ดูแลกันเอง เติบโตกันเอง ป้าเธอที่อยู่ต่างจังหวัดจะส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน เดือนละ 3,000 บาท
ค่าเล่าเรียนเธอใช้ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ส่วนสำหรับค่าใช้จ่ายของน้องชาย เธอทำงานพิเศษรับจ้างแปลภาษาอังกฤษ และจีน ในอินเตอร์เน็ตเป็นรายได้เสริม
บ้านไม่ต้องเช่า เพราะเป็นของพ่อและแม่ เธออดทนรออีกสองปี ที่เธอจะบรรลุนิติภาวะ และจะได้รับเงินประกันชีวิตที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ แลกกับการจากไปของพวกท่าน
เธอไม่ได้อยากได้เงินนั่นหรอก แต่ชีวิตเธอไม่มีใครแล้ว เธอต้องนำเงินพวกนั้นมาต่อยอดให้ชีวิตตัวเองและน้องได้เรียนหนังสือ มีการศึกษา และจะไม่ให้น้องต้องลำบากยากแค้น อดมื้อกินมื้อแบบทุกวันนี้
“พี่นุ่น...นายหิวปลา อยากทานปลา” มือเล็กลูบหัวน้อง
“วันนี้มีแค่ไก่นะครับ พี่เบิกเงินได้แล้ว พี่จะซื้อปลาให้นายทานนะครับ” เด็กชายพยักหน้ารับ เธอน้ำตาซึม
ในหนึ่งอาทิตย์น้องชายเธอจะได้ทานปลาหนึ่งวัน เพราะเรามีเงินไม่ได้มากพอขนาดที่จะกินดีอยู่ดีทุกวัน เธอรับจ้างแปลภาษาจากหนังสือ คนจ้างจะจ่ายเงินให้เป็นรายอาทิตย์ ๆ ละ 500 บาท
“เก่งมากครับเด็กดี” เธอก้มลงหอมแก้มน้อง
“รีบทาน รีบไปโรงเรียนกันนะครับ” หลังจากเธอป้อนข้าวน้องจนเสร็จ ก็ปิดบ้านและเดินทางไปโรงเรียน เราเดินทางด้วยรถประจำทางบ้าง เดินเท้าเอาบ้าง นายเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่งอแง ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็เชื่อฟังทุกอย่าง
เธออาศัยอยู่ในกรุงเทพกับน้องเพียง 2 คน ที่เราไม่ไปอยู่กับป้า เพราะลุงเคยมองเธอด้วยสายตา ที่ใครมองก็รู้ว่าไม่หวังดี จึงเลือกขออยู่ที่บ้านเดิม บ้านที่พ่อกับแม่เคยอยู่ ซึ่งป้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงเธอและน้อง ไม่สร้างภาระให้ท่านมากกว่านี้ก็พอ
การอยู่ลำพังโดยไร้ที่พึ่งพิง ยามน้องป่วยไข้ เธอเคว้งคว้างมาก เรามีกันสองคน แค่นั้นจริง ๆ เธอขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน ให้เธอสุขภาพแข็งแรง อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยเลย เพราะนายยังเด็กมากนัก
โลกที่กว้างใหญ่ใบนี้ มันอาจจะเหน็บหนาวในบางครั้ง แต่เธอก็ต้องสู้! เพื่อน้องชายของเธอ!
#โรงเรียน XXX
“แกคิดไว้รึยัง ว่าจะต่อคณะอะไร?” มีนาเพื่อนสนิทของเธอเอ่ยถาม เธอไม่ได้ตอบคำถามเพียงส่งยิ้มให้เพื่อนบาง ๆ
“แกคิดได้แล้วนะ ใกล้แล้ว และจะไปติวกับพวกฉันไหม?” คณิตเพื่อนสนิทอีกคนถามย้ำ
“พวกแกไปติวกันเถอะ”
“ทำไม? ก็ไปด้วยกันสิ คอร์สละ 30,000 เอง ถ้าแกไม่ติว จะสอบติดเหรอ!” มีนาสะกิดคณิต
“แกก็รู้ว่าปุยนุ่นมีปัญหาอะไร ยังจะพูดมากอีก” ดวงตากระปุกกระบอกตาร้อนผ่าว ก่อนจะกลืนก้อนสะอื้นลงคอไป
“เรียนจบ ฉันจะหางานทำ คงไม่ได้เรียนต่อ” เธอกำมือตัวเองแน่น
“ใจเย็น ๆ อีกตั้งหลายเดือน ตอนนี้แกอ่านหนังสือเองไปก่อน พวกฉันจะเอาที่ติวข้างนอกมาสอนแกเอง แกหัวดี หัวกะทิ ยังไงก็ต้องติดหมออย่างที่แกอยากเรียนแน่ ๆ” เธอส่ายหัวอย่างไม่ต้องคิด ถึงติดจริง ๆ เธอจะเอาเงินจากไหนไปเรียนล่ะ ถ้าพ่อแม่ยังอยู่มันคงดีกว่านี้
“แกไปห้างกับฉันไหม…”
“ฉันต้องไปรับน้องน่ะ ไปก่อนนะ” เธอตอบเพื่อน และหันหลังรีบเดินออกจากโรงเรียนไปรับน้องชาย เพราะฝากกับครูประจำชั้นไว้ตั้งแต่บ่ายแล้ว
เธอไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นที่ไหน แต่เธอก็พอใจในสิ่งที่เธอมี เธอจะพยายามให้มาก อดทนให้มาก หางานทำและจะกลับมาเรียนต่อให้ได้
นายเลิกบ่ายสาม ส่วนเธอเลิกห้าโมงเย็น ดีหน่อยที่ครูประจำชั้นของนาย เมตตาเราช่วยดูแลนายจนกว่าเธอจะเลิกเรียนและมารับ
“พี่นุ่น นายหิวขนมแล้ว” เด็กชายวิ่งกระโดดมากอดขาเธอ
เธอส่ายหัวทันที เพราะเราเงินไม่พอขนาดนั้นหรอก อย่างมากสุดของหวานของเราก็คือ น้ำแดงเฮลซ์บลูบอยละลายน้ำ ที่ขวดหนึ่งจะกินได้ทั้งอาทิตย์
“ขอบคุณคุณครูมากนะคะ” เธอยกมือไหว้ครูประจำชั้นนาย ท่านรู้เรื่องราวทุกอย่างและคอยช่วยเหลือเธอกับน้องเสมอ
“นี่นมโรงเรียนหนูเอากลับไปนะลูก ไปให้นายดื่มก่อนนอน” ร่างเล็กยกมือไหว้ท่าน น้ำตาคลอหน่วย มองลังนมสองลัง คำนวนแล้วนายจะได้ดื่มนมไปอีก 2-3 อาทิตย์ เธอดีใจจริง ๆ
“นายขอบคุณ คุณครูแก้วสิครับ” เธอเอ่ยบอกน้อง
“ขอบคุณครับครูแก้ว ผมรักครูแก้วครับ”