สุดเสน่หาสามีฝรั่ง

กุลธิดามางานเลี้ยงรุ่นด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนมาได้เดือนกว่า ทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันได้เดือนเดียวเอง นทีบอกเลิกกับเธอด้วยเหตุผลที่ฟังแล้วเธอถึงกับอึ้ง

“ผมเบื่อที่ต้องนอนกับท่อนไม้ทุกคืน”

เธอผิดด้วยเหรอที่หวาดกลัวการมีเซ็กส์ หลังจากคืนแรกที่เข้าหอกับเจ้าบ่าวที่พ่อแม่เป็นคนเลือกให้ นทีทำให้เธอรู้จักว่านรกมันเป็นยังไง เธอเจ็บปวดเจียนตาย เจ็บแสบแทบขาดใจ แต่เขาก็ไม่หยุดทรมานเธอ

คืนต่อๆมาเขายังคงทำหน้าที่สามีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เขาขอมีอะไรกับเธอทุกคืน คืนไหนที่เธอไม่ยอม เขาก็จะอารมณ์เสียทั้งวัน จะมีใครรู้บ้างว่าเจ้าสาวหมาดๆอย่างเธอ ในช่วงเวลาข้าวใหม่ปลามัน ทุกวันเวลา เธอหาความสุขไม่ได้เลย

ใครๆก็หาว่าเธอโง่ ที่ยอมเลิกกับผู้ชายที่ทั้งหล่อและรวยไปแบบง่ายๆ แต่เธอยอมโง่เพื่อให้หลุดพ้นจากนรกขุมนั้น และเรื่องนี้มีเพียงงามตาเท่านั้นที่เธอกล้าเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังอย่างละเอียด ส่วนคนอื่นก็บอกเพียงว่าเธอกับนทีเลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้เท่านั้น

คืนนี้งามตาชวนเธอมางานเลี้ยงรุ่น เพื่อนผู้หญิงบางคนก็ยังโสด บางคนก็เพิ่งแต่งงาน บางคนก็มีลูกโตๆกันแล้ว และบางคนก็แต่งงานไปกับหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าว

งานเลี้ยงคืนนี้ดูครึกครื้นมาก มีหนุ่มโสดมากมายที่หันมามองเธออย่างสนใจ หนึ่งในนั้นมีหนุ่มฝรั่งผมบลอนด์ด้วย แล้วเขาก็กำลังเดินตรงมาหาเธอ ขณะที่งามตากำลังนั่งดื่มและพูดคุยกับเพื่อนรอบข้างอย่างอารมณ์ดี

“สวัสดีครับ” เขาทักทายด้วยภาษาไทย กุลธิดามองซ้ายมองขวาว่าเขาทักทายเธอหรือเพื่อนคนไหนหรือเปล่า กลับได้รับรอยยิ้มกว้างจากหนุ่มตาน้ำข้าวกว้างขึ้นไปอีก

“คุณหมายถึงฉันเหรอคะ” หญิงสาวชี้มาที่ตัวเอง

“ครับ ถ้าคุณคือธีด้า”

“เอ่อ ธิดาค่ะ ไม่ใช่ธีด้า” หญิงสาวแก้ให้

“ผมขออนุญาตเรียกคุณว่า ธีด้านะครับ มันเรียกง่ายกว่า โปรดสงสารฝรั่งหัดพูดอย่างผมบ้างนะครับ”

แหม พูดไทยเก่งขนาดนี้ เขาน่าสงสารตรงไหนเนี่ย

“ก็ได้ค่ะ”

“เพื่อนของคุณ กลุ่มโน้น บอกว่าคุณเพิ่งโสด”

ข่าวของเธอแพร่สะพัดไปเร็วจริงๆ

“ค่ะ ฉันเพิ่งโสดจริงๆ”

“ผมก็เพิ่งโสดเหมือนกัน เรามาดื่มฉลองความโสดด้วยกันดีไหมครับ”

“ค่ะ” ตอบรับชายหนุ่มยิ้มๆ คืนนี้เธอควรสดใสเข้าไว้ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะมานั่งอมทุกข์ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

งามตาหลิ่วตาให้เธอก่อนจะเดินไปทักทายเพื่อนๆที่เพิ่งเดินทางมาถึง เพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มฝรั่งยืนคุยกับเธอได้สะดวกขึ้น

“ธิดา แฟนใหม่เหรอ หล่อจัง” อารยาที่เพิ่งมาถึงรีบเดินเข้ามาทักทายเสียงดัง ทำให้เพื่อนๆหลายคนหันมามองเธอกับเขาเป็นจุดเดียวด้วยความสนใจ

“เปล่า เพิ่งทักทายกันเมื่อกี้เอง”

“ลองของนอกดูสิ เผื่อจะติดใจนะ” อารยาที่ก๋ากั่นเอี้ยวตัวมากระซิบกระซาบที่ใบหูเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน

“บ้าน่ายา ฉันยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย”

“ผมชื่อเฮนริโก้ เรียกเฮนรี่ก็ได้ครับ”

“นั่นไงเขาบอกว่าเขาชื่อเฮนรี่” อารยาหันมาบอกตาใสวิบวับ

“ได้ยินแล้ว ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกหรอก”

“ไปนะ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอ” อารยาทำหน้าทะเล้น ส่งยิ้มสดใส ก่อนจะไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆที่กวักมือเรียกอยู่โต๊ะถัดไป

“คุณธีด้าอยากไปนั่งตรงไหน นำผมไปเลยครับ”

กุลธิดาเดินนำร่างสูงเกือบสองฟุตไปยังโต๊ะที่งามตานั่งอยู่กับเพื่อนๆที่เธอก็สนิทกับกลุ่มนี้ที่สุด

ตลอดงานเลี้ยง กุลธิดาดื่มสปายไปแค่สองแก้วเท่านั้นเพราะกลัวเมา ตรงข้ามกับงามตาที่ดื่มเอาๆจนเริ่มคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง ขณะที่เฮนริโก้ดื่มไม่มาก กระทั่งงานเลิกเฮนริโก้ก็ขออาสาขับรถไปส่งสองสาวกลับอพาร์ทเม้นท์ที่พวกเธอพักอยู่

“ขอบคุณมากนะคะคุณเฮนรี่ที่มาส่งเราสองคน”

“เฮนรี่หนาย ผัวใหม่แกเหรอ” คนเมาเริ่มพูดจาเลอะเทอะอีกครั้ง แต่คนฟังกลับหน้าร้อนผ่าวมองไปทางเฮนริโก้ ไม่รู้ว่าเขาฟังเข้าใจหมดทุกคำไหม

“พี่ตานี่เลอะเทอะใหญ่ ป๊ะ... รีบเข้าห้องเรากันเถอะ”

ชายหนุ่มมองกุลธิดาประคองงามตาเข้าห้องไปอย่างทุลักทุเล เขารู้สึกถูกชะตากับกุลธิดามาก