บท
ตั้งค่า

บทนำ

คำโปรย

ว่ากันว่า...

เหล่าปีศาจจะกิน ‘พลังชีวิต’ จากมนุษย์เพื่อให้ตนมีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าได้เสพ ‘พลังหยาง’ จากบุรุษจะเพิ่มอิทธิฤทธิ์ให้ตน แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้มนุษย์ผู้นั้นอายุไขสั้นลงหรือตายได้ ในขณะเดียวกัน ‘หัวใจ’ของปีศาจจิ้งจอกแดงเป็นตัวยาหายากชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าสามารถรักษาได้ทุกโรค

ปีศาจจิ้งจอกแดงจึงเป็นทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่าเช่นกัน

แนะนำตัวละคร

หลิวเข่อซิง-เข่อซิง : ปีศาจจิ้งจอกแดงอายหนึ่งร้อยสิบหกปี

หานหรงเหยา : ที่ปรึกษา(กุนซือ)ของกองทัพ มาทำงานร่วมกับซุนเจ้าเฟิง แม่ทัพใหญ่ที่อยู่ชายแดน

หลิวชิงเซียง -ชิงเซียง : ปีศาจจิ้งจอกแดงอายุห้าร้อยห้าสิบปี เป็นศิษย์พี่ของหลิวเข่อซิง

ซุนเจ้าเฟิง : องค์ชายสามและเป็นแม่ทัพใหญ่ประจำชายแดน เป็นสหายรักของหานหรงเหยา

.....

บทนำ

พิธีแต่งงานจัดอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นงานมงคลของตระกูลหานและเจ้าสาวแสนงามดุจบุปผาสวรรค์ เสียงดนตรี คำอวยพร ของขวัญ วิจิตรตระการตาราวกับงานรื่นเริงของเหล่าปวงเทพ งานมงคลยิ่งใหญ่นี้คงกลายเป็นที่กล่าวถึงไปอีกนานแสนนาน

ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวในชุดสีแดงสวยงดงาม ขณะที่เจ้าสาวค้อมเอวคำนับเจ้าบ่าวแล้วเงยตัวขึ้น สายลมพัดผ่านทำให้ผ้าคลุมหน้าสีแดงขยับไหวเผยเห็นรอยยิ้มเปี่ยมสุขของหญิงสาว

ทว่ารอยยิ้มนั้น ไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว

ชายหนุ่มกล่ำกลืนความปวดร้าวในอก ฝืนทนจนเจ้าสาวเดินผ่านสายตาเข้าห้องหอแล้ว เขาจึงหมุนตัวเดินจากจวนตระกูลหาน เขาเกิดที่นี่ เติบโตที่นี่จวบจนวันนี้ที่เขาอายุสิบเจ็ดปี เขาจึงก้าวเท้าออกจากสถานที่ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ อย่างไม่รู้ว่าจะหวนกลับเมื่อใดคิดจะหวนกลับ

จะให้เขาอยู่อย่างไร ในเมื่อหญิงสาวที่เขาหลงรักและเติบโตมาพร้อมกัน มาบัดนี้นางได้กลายเป็น ‘พี่สะใภ้’ ของเขาไปแล้ว

ตอนที่1.

บานประตูห้องทำงานเปิดออกอย่างไม่เกรงใจคนในห้อง ตามมาด้วยเท้าหนักๆ ที่เดินยำเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะไม้สลักลายงดงาม บุรุษหนุ่มตวัดมือร่างแบบบนกระดาษเสร็จพอดีจึงเงยหน้าขึ้น สีหน้าเรียบนิ่งราวกับแผ่นน้ำแข็งแห่งฤดูเหมันต์ไร้อารมณ์ แต่กระนั้นก็ไม่อาจลดทอนความหล่อเหลาบนใบหน้าได้แม้แต่น้อย

“หน้าตาเจ้านี่มันไร้อารมณ์สิ้นดี” องค์ชายสามหรือองค์ชายซุนเจ้าเฟิง ผู้รับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำชายแดนตะวันตก เขาส่ายหน้าไปมาด้วยท่าทีอ่อนใจพลางเอื้อมมือไปรินน้ำชาให้ตนเอง “ข้าให้เจ้าหาเด็กรับใช้ข้างกายสักคน เหตุใดยังไม่มีใครมาปรนนิบัติเจ้าอีก”

“จะให้ข้าต้อนรับท่านแม่ทัพอย่างไรดี จุดประทัดดีหรือไม่” หานหรงเหยา คลี่ยิ้มเพียงเล็กน้อย มันน้อยเสียจนแทบมองไม่เห็นเป็นรอยยิ้ม หรือคนผู้นี้อาจหลงลืมการยิ้มไปแล้วว่าควรทำเช่นไร

“อยู่ค่ายทหารไม่จำเป็นต้องมีบ่าวข้างกาย” ชายหนุ่มวางพู่กันแล้วหยิบผ้ามาเช็ดมือ

“แต่สุขภาพของเจ้า...”

องค์ชายสามชะงักปากไป เป็นสหายกันมานาน รู้จักกันตั้งแต่เด็กเพราะหานหรงเหยาเองก็เป็นสหายร่วมเรียนกับเขา และสกุลหานเองรับใช้ราชสำนักมาหลายชั่วอายุคน หานหรงเหยาเป็นบุตรชายคนรองของสกุลหาน รูปร่างผอมบางไปสักหน่อยแต่ใบหน้าหล่อเหลาและโดดเด่นด้วยความรู้ความสามารถไม่ด้อยไปกว่าคุณชายตระกูลใดในเมืองหลวง ทว่าหัวใจของหานหรงเหยาไม่แข็งแรงมาตั้งแต่กำเนิด หมอทั่วแคว้นต่างลงความเห็นเดียวกันว่าไม่อาจรักษาได้ ทำได้เพียงพยุงให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ปีต่อปี

ไม่ใช่แค่ ‘หัวใจ’ เท่านั้น แต่หานหรงเหยายังเป็น ‘โรคใจ’ อีกด้วย นั้นเป็นเหตุผลที่หานหรงเหยาเขียนจดหมายมาถึงซุนเจ้าเฟิงเพื่อรับตำแหน่ง ‘ที่ปรึกษา’ หรือ ‘กุนซือ’ ณ ค่ายทหารแห่งนี้

“ข้าสบายดี” หานหรงเหยารู้ทันความคิดขององค์ชายสาม ด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย ทั้งสองจึงพูดคุยสนทนากันอย่างเป็นกันเอง ซึ่งจะว่าไปก็เป็นความคิดของซุนเจ้าเฟิงที่ไม่ยินยอมให้เขาพูดจาแบ่งฐานะชัดเจน

‘เก็บถ้อยคำเหล่านั้นไว้ใช้ที่เมืองหลวงเถอะ! ข้าอยู่ห่างไกลเสด็จพ่อขนาดนี้ คงไม่มีใครเอาไปฟ้องว่าเจ้าพูดจากับข้าเสมอเท่าเทียมกัน’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel