ตอนที่4. จะฆ่าตัวตายหรือ?
หลิวเข่อซิงเห็นเขาเอนตัวไปด้านหน้านอกราวสะพาน นางรวบรวมเรี่ยวแรงพุ่งเข้าใส่กอดรั้งร่างใหญ่ไว้ไม่ให้เขากระโดดลงแม่น้ำไป
ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่ามีคนเข้ามาใกล้ แต่หานหรงเหยาหาได้ใส่ใจไม่ จนกระทั้งจู่ๆ ก็มีมือเล็กสอดเข้ามากอดเอวเขาแน่น เขาเอี้ยวตัวหันไปมองก็เห็นหญิงสาวร่างเล็กในชุดผ้าต่วนสีครามเงยหน้าขึ้นมาพอดี
“เจ้าจะฆ่าตัวตายหรือ?”
แม้รู้ตัวว่ามีคนโผเข้า แต่หานหรงเหยาไม่คิดว่าจะถูกกอดจากด้านหลังเช่นนี้ เมื่อเอี้ยวตัวหันกลับไปมองจึงเห็นเพียงหญิงสาวท่าทางไร้เดียงสา เขาถูกเข้าใจผิดจนชาชิน กำลังจะอ้าปากปฏิเสธแต่อีกฝ่ายกลับแสดงท่าทียินดีเสียเต็มประดา
“เช่นนั้นเจ้าจงรีบฆ่าตัวตายเสียเถิด แต่ดวงจิตของเจ้า ข้าขอเถอะนะ ข้าหิวมาก”
ดวงตาที่เคยสงบนิ่งของหานหรงเหยามีแววไหวระริก ร้อยทั้งร้อยมีแต่คนห้ามมิให้คนฆ่าตัวตาย มีนางเป็นคนแรกที่มีสีหน้าดีอกดีใจซ้ำอยากกินดวงจิตบ้าบออะไรอีก
“แม่นาง...เจ้า...”
ยังไม่ทันทีเขาจะเอ่ยอะไรได้จบประโยค ร่างของหญิงสาวก็อ่อนยวบทรุดลงไป เขารีบประคองนางไว้ แต่ดวงตาของนางก็ปิดสนิทลง เหลือเพียงรอยยิ้มดีใจไว้บนใบหน้า
“แม่นาง” หานหรงเหยาเรียกหญิงสาวแปลกหน้าอีกหลายครั้ง ไม่วี่แววว่านางจะฟื้นได้สติ เขาจึงช้อนตัวนางอุ้มขึ้นอย่างไม่มีหนทางอื่น ในเสี้ยววินาทีนั้นเขาเห็นละอองสีขาวโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
หิมะแรกแห่งปีมาแล้ว
เขาก้มมองร่างเล็กในวงแขน ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง ไม่อาจทิ้งนางไว้ที่นี่ได้ และไม่รู้นางเป็นใครจึงไม่อาจพานางไปส่งได้ จำเป็นต้องอุ้มนางขึ้นหลังม้ากลับมาจวนแม่ทัพซุน หวังเพียงให้นางตื่นฟื้นแล้วส่งตัวนางไปในที่ของนาง
ทว่าแววตาดีอกดีใจที่เห็นเข้าใจผิดคิดว่าเขาจะฆ่าตัวตายนั้น ทำให้บุรุษน้ำแข็งพันปีอย่างเขาเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัว.
หานหรงเหยานั่งลงข้างเตียง เฝ้ามองจิ้งจอกแดงแสนสวยหลับอย่างสบายบนเตียงนอนของเขา คนทั่วไปอาจหวาดกลัวหรือตื่นตระหนก แต่เขาผู้ได้ยินและได้เห็นเรื่องราวมากมายในใต้หล้ากลับเห็นเป็นธรรมดาสามัญ
หญิงสาวแปลกหน้าหมดสติในอ้อมแขนของเขา ด้วยเกรงว่าจะทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงใช้เสื้อคลุมของตนคลุมร่างของนางแล้วอุ้มขึ้นหลังม้า ทว่าระหว่างที่เดินทางกลับมาที่จวนแม่ทัพซุน ร่างที่เขาโอบเอวไว้กันนางหล่นกลับค่อยๆ เล็กลงไปเรื่อยๆ เสื้อคลุมยวบลงไปตามขนาดของเจ้าของร่างก่อนจะประตูจวน เขาก้มมองด้วยแววตาประหลาดใจ แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของผู้อื่นจึงอุ้มร่างน้อยเข้ามาในห้องตัวเองและปล่อยให้นาง เอ่อ... จิ้งจอกแดงตัวน้อยหลับใหลบนเตียงของเขา
ถูกแล้ว หญิงสาวผู้นั้นกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดง
หรือจิ้งจอกแดงกลายร่างเป็นหญิงสาวกันล่ะ
เขายื่นปลายนิ้วเขี่ยปลายจมูกของจิ้งจอกน้อย เขาเองก็ไม่คิดว่าคืนนี้จะต้องแบ่งปันเตียงนอนให้ผู้อื่นจึงไม่ได้เตรียมที่นอนสำรองไว้ หรือคืนนี้เขาต้องนอนกับเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้แล้ว
เพราะสัมผัสอ่อนโยนทำให้หลิวเข่อซิงรู้สึกตัว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง จนเมื่อดวงตาปรับกับสิ่งรอบตัว จึงเห็นว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
“แง้วๆ”
“หือ?”
“แง๊วๆๆ” จิ้งจอกแดงตัวน้อยตกใจกับเสียงตัวเองแล้วยื่นขาคู่หน้า นางร้องโวยวายแล้วกระโดดออกจากผ้าห่มที่คลุมร่าง หมุนตัวบนเตียงเพื่อดูหางของตน
‘ทำไมเป็นเช่นนี้ หรือเพราะนางไม่ได้กินพลังชีวิต’
จิ้งจอกแดงตัวน้อยลนลานทำอะไรไม่ถูก กว่าจะได้ร่างมนุษย์มานั้นช่างแสนยากเย็น ยามนี้กลับกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดงเช่นนี้ได้ นางจะทำอย่างไร จะกลับหุบเขาจื่อเซ่อไปหาท่านแม่ได้หรือไม่ อะ จริงสิ นางต้องไปที่หอชมบุหลันนี่นะ
หานหรงเหยาเห็นจิ้งจอกน้อยท่าทางลุกลี้ลุกลนก็นึกสงสาร ยื่นมือไปอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นหมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ
“ไม่เป็นไร อย่ากลัวไปเลย ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”
