ตอนที่ 5 เจ้าสาวของซาตาน ep.5
นริศฌากรีดร้องเสียงระงมด้วยความเจ็บปวดที่พงศธรอัดร่างของเขากระหน่ำเบียดเข้าไปด้วยความเร็วและหนักหน่วงรุนแรง
“ไอ้สารเลว..”
นริศฌากรีดร้องไม่เป็นจังหวะ แต่หล่อนก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดได้ไม่นาน เมื่อความรู้สึกหนึ่งมันเริ่มประเดประดังเข้ามาประสานกับความเจ็บปวด
เสียงร้องครวญครางเจ็บปวดเลือนหายไป เสียงที่โหยไห้ผ่านเล็ดออกมาเรียวฝีปากบาง ในขณะที่พงศธรยังคงกระหน่ำร่างของเขาอย่างหนักรวดเร็วและรุนแรง
เขาเริ่มผ่อนแรงขยับเมื่อเดินทางมาถึงที่สุดก่อนจะค่อย ๆ ถอนร่างออกไปจากร่างบางของหล่อนที่กระเสือกกระสนคลานหนีไป
หล่อนจ้องหน้าพงศธรที่เอนร่างลงนอนเหมือนคนหมดเรี่ยวหมดแรง หล่อนมองหาบางอย่างที่อยู่ใกล้มือ แล้วก็เจอกับขวดเหล้าที่หัวเตียง หล่อนไม่ยอมปล่อยให้เวลาแห่งความเจ็บแค้นเลือนหายไป เมื่อคว้าขวดเหล้าฟาดลงไปที่หัวของเขาเต็มแรง จนแตกทั้งขวด แตกทั้งหัวของเขา
“โอ๊ะ!นริศฌา”
พงศธรลุกขึ้นยื่นมือจิกผมของหล่อนแล้วตวัดฝ่ามือใส่หน้าหล่อนอย่างไม่ยั้ง ทำให้นริศฌารู้สึกแค้นเคืองที่เขากล้าทำแบบนี้ หล่อนจึงปักปากขวดที่ถืออยู่ในมือใส่พุงของเขาอย่างจัง
“โอ๊ะ!”
พงศธรจ้องหน้าหล่อนพร้อมกับวางมือลงที่บาดแผล ทำให้นริศฌารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก หล่อนกระชากปากขวดออกมาแล้วปักลงไปที่อกของเขา
“เอื้อก!”
ร่างของพงศธรซบลงกับที่นอน เลือดสีแดงทะลักออกมา
“..ไม่..ไม่..ไม่..”
นริศฌาตกใจสุดขีดเมื่อเห็นสภาพที่น่าอนาถของพงศธร เขากระเสือกกระสนอย่างทรมาน เมื่อสองมือใหญ่พยายามจะยื่นมาหาหล่อนที่รีบก้าวหนีอย่างรนราน
แต่เพียงไม่นานนักร่างที่ทุรนทุรายของพงศธรก็ค่อย ๆ สงบแล้วนิ่งเงียบ ในขณะที่หล่อนซุกกายนั่งอยู่ที่ข้างประตูพร้อมกับร้องไห้ออกมาราวกับคนบ้า
หล่อนสะอื้นไห้อยู่นั้นเนิ่นนานกว่าจะค่อย ๆ หยุดแล้วเงยหน้าดูสภาพของพงศธรเมื่อหล่อนได้สติกลับคืน หล่อนส่ายหน้าไปมาก่อนจะยกสองมือมองดูเลือดที่แดงที่เกรอะกรัง
“ไม่!ไม่..ไม่..”
หล่อนส่ายหน้าไปมา
“ไม่จริง ไม่จริงฉันไม่ได้ทำ..ไม่ได้ทำ..แม่ แม่ขา แม่!แม่อยู่ไหน แม่..”
นริศฌาสะอื้นไห้ออกมาราวกับคนบ้า ยามนี้หล่อนคิดถึงแม่ของหล่อนจับใจ
“ไอ้สารเลวแกกล้าทำร้ายฉัน แกสมควรแล้วที่ได้รับโทษแบบนี้ มันสาสมแล้ว..”
หล่อนยังคงสะอื้นไห้
“จะทำไงดี ทำไงดี”
หล่อนพยายามครุ่นคิดด้วยความหวาดกลัว
“รักษ์ ..รักษ์สิยา..”
เมื่อนึกถึงเจ้าของใบหน้าเรียวสะอาดหมดจดขึ้นมา ความร้อนรุ่มของหล่อนก็เลือนรางไป เพราะหล่อนใช้ชื่อรักษ์สิยาในการเปิดห้องนี้..
“ไม่ใช่นริศฌา..แต่เป็นรักษ์สิยา ใช่..รักษ์สิยา”
หล่อนลุกขึ้นยืนเมื่อนึกถึงหนทางรอด แต่เมื่อหันกลับไปมองสภาพของพงศธรหล่อนก็ต้องรีบยกมือปิดตาด้วยความหวาดกลัว เพราะดวงตาของพงศธรเหลือกมองมาหาหล่อนจนแทบถลนออกมานอกเบ้า
“ไอ้สารเลวแกกล้าทำกับฉัน แกต้องได้รับผลกรรมแบบนี้ สาสมแล้ว..”
นริศฌาสวมใส่เสื้อผ้าแล้วหนีออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
รักษ์สิยานั่งอยู่ในห้องหอด้วยหัวใจที่สั่นระรัว เธอไม่ยอมดับไฟนอนแม้จะผ่านครึ่งคืนมานานแล้ว และไม่กล้าแม้แต่จะหลับตาลง เพราะเธอยังหวาดกลัวและกริ่งเกรง เกรงว่า ค่ำคืนที่ส่งตัวเข้าหอจะเป็นเหมือนนรกขุมที่ลึกสุดเหมือนการแต่งงานที่ผ่านมา
เหตุการณ์ในคืนนั้นยังตามหลอกหลอนเธอ ให้หวาดกลัวผู้ชายจนไม่กล้าออกจากบ้านหรือพบหน้าใคร และไม่คิดว่า ค่ำคืนนี้เธอจะต้องมาเข้าหออีกครั้ง มันทำให้ความหลังที่เธอพยายามจะลืมเลือนกลับชัดเจนขึ้นมา
เมื่อเสียงบานประตูถูกไขเหมือนมีคนกำลังจะเข้ามา หัวใจของเธอยิ่งร้อนรุ่มกระวนกระวาย ใบหน้าหวานเผือดซีดราวแผ่นกระดาษ มือไม้สั่นเทาหัวใจเต้นแรง
“ยังไม่นอนอีกหรือ..”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มกังวานดังขึ้นเบา ๆ เมื่อพฤกษ์ก้าวผ่านประตูเข้ามาแล้วหยุดมองทางด้านหลังเธอ จนกระทั่งเขาเดินอ้อมมาหยุดตรงหน้าของเธอ ด้วยสายตาที่เฉียบคมทำให้เขามองเห็นมือบางที่สั่นจนเธอต้องกำกระโปรงที่นุ่งเอาไว้ อีกทั้งใบหน้าหวานยังเผือดซีด
“ไม่สบายหรือเปล่า..”
เขายื่นมือหมายจะแตะที่หน้าผาก แต่ทันใดนั้น รักษ์สิยาก็กรีดร้องออกมาแล้วกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปซุกกายที่สั่นเทาอยู่ที่ข้างประตู อาการของเธอทำให้เขาแปลกใจอย่างมาก
“ทำไมต้องกลัวฉันถึงขนาดนั้น..”
เขาเอ่ยถามพลางพิศมองเครื่องหน้าที่หวานหมดจดของสาวน้อยที่งดงาม
“ฉันเพียงแค่เข้ามาดูว่าทำไมเธอยังไม่นอนอีกก็เท่านั้น..”
เขาพยายามมองใบหน้าของเธอผู้หญิงที่เป็นฆาตกร ฆ่าพ่อของเขาและหวังจะยึดครองมรดกมหาศาล เพียงแค่รอวันเปิดพินัยกรรมเท่านั้น แต่เขาผู้เป็นทายาท
