ตอนที่ 11 ความเจ็บแสบของความรู้สึก ep.6
“ตามฉันมา..”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ดังอยู่นั้นปลุกให้เธอตื่นจากความหวาดกลัวสุดชีวิต เพ่งสายตามองตรงไปยังเบื้องหน้า เธอเห็นเขาถือไฟฉายกระบอกใหญ่แล้วกำลังหันหลังเดินห่างออกไป เพียงเท่านั้นเธอไม่รอช้ารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามเขาไปทันที
“รอด้วยค่ะนายหัว รอด้วย..”
เธอร้องบอกเขาทั้งที่ยังวิ่งแทบไม่หยุด แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดยังคงเดินต่อไป ทำให้เธอรีบเร่งฝีเท้า สายตามองไปที่ร่างของเขาจนไม่ได้ดูที่เท้า เมื่อจังหวะที่เธอก้าว หากเธอก้าวสูงอีกนิดก็จะพ้น แต่เพราะความอ่อนล้า ทำให้เท้าเรียวสะดุดกับรากไม้เข้าอย่างจัง
“โอ๊ย!..”
ร่างบางถลันกลิ้งคะมำไปเบื้องหน้า ฝ่ามือทั้งสองไถลไปกับพื้นเมื่อยื่นขึ้นค้ำยัน มันไปสัมผัสเข้ากับกิ่งไม้แห้งที่ตกลงมาจากต้น จนเลือดไหลซึมออก
เสียงนั้นทำให้ปลายเท้าเรียวหนักหยุดก่อนจะขบกรามแน่นเมื่อรู้ดีว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอสักอย่าง ใจของเขาอยากจะเดินต่อไปแล้วทิ้งให้เธอเดินตาม
“เป็นอะไรไป..”
เขาค่อย ๆ หันกลับมาแต่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“ฉันสะดุดอะไรไม่ทราบค่ะ..”
เธอค่อยยันกายลุกแล้วร้องบอกเขา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะกลับมาช่วยพยุงให้เธอลุกขึ้น แต่เปล่าเลย เขาเพียงแค่ส่องไฟมามอง
“ลุกขึ้น แล้วตามมา..”
“นายหัวคะ?..”
เขาเตรียมจะหันหลังเธอจึงเรียกเขา เพราะรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าอย่างมาก
“มีอะไร..”
“ฉันลุกไม่ขึ้นค่ะ ปวดที่ข้อเท้ามาก ที่มือก็แสบ..”
“จะให้ฉันอุ้มเธอไปหรือ..”
คำถามนั้นทำให้เธอนิ่งงัน ก่อนจะพยายามที่จะทรงกายยืนด้วยความยากลำบาก แต่พอยืนได้ เมื่อขยับจะก้าวเดินก็ต้องทรุดลงอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปบีบนวดที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง
พฤกษ์ เดินกลับมาพร้อมกับหันไปจับกิ่งไม้ที่ยังสด เขาฉวยเอามีดที่เหน็บอยู่ด้านหลังของเขาออกมาแล้วตัดไม้กิ่งนั้นโยนมาให้เธอ ก่อนจะหันหลังเดินห่างออกไป
“ใช้ไม้นั่นพยุงตัวขึ้น..”
เขาบอกเธอโดยไม่ยอมหันมามอง แต่เธอก็ยอมทำตามด้วยการหยิบไม้นั้นมาพยุงตัวก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเดิน แต่เขากลับเดินจ้ำไปเบื้องหน้าอย่างไม่คิดจะสนใจ ทำให้เธอรีบเร่งที่จะเดินให้ทันเขา แต่ก็พลัดเมื่อกิ่งไม้ที่เธอใช้ค้ำยันร่างมันปักลงไปในหลุมเล็ก ๆ อาจจะเป็นที่ชื้นแฉะมีน้ำขัง มันจึงทรุดทำให้ร่างบางเสียหลักล้มลง
“โอ๊ย!..”
เสียงร้องนั้นทำให้เขาหยุดกึกก่อนจะหันกลับไปพร้อมกับสาดแสงไฟส่อง เห็นเธอล้มอยู่กับพื้น มันทำให้เขาขบกรามแน่น ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปแล้วช่วยเธอให้ลุกขึ้นพากลับไปยังบ้านพัก แต่อีกใจก็อยากจะให้เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมาน ให้สาสมกับบาปเวรที่เธอทำให้พ่อของเขาต้องตาย
“หากเธอขืนชักช้าแบบนี้ อาจจะเจอสัตว์ร้ายที่ออกหากินตอนกลางคืน เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่ตัวเธอก็จะต้องกลายไปเป็นอาหารของพวกมัน..”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ก็ทำให้เธอนึกถึงสัตว์เลื้อยคลานตัวนั้น จึงรีบยันกายลุกนั่งแล้วใช้ไม้เท้าค้ำยันรีบเดินตรงมาหาเขา แต่เขาก็ไม่ยอมรอ ก้าวเดินต่อไป
“รอด้วยค่ะนายหัว รอด้วย..”
เธอร้องเรียกเขา แต่เขาก็เพียงแค่รับฟังแต่ไม่ยอมหยุด
“คนใจร้าย..ใจดำ..”
เมื่อรู้สึกว่าที่เท้ามันทั้งเจ็บทั้งปวดจนระบมแทบจะเดินไม่ไหว เธอก็ตะโกนไล่หลังเขาพลางสะอื้นไห้เบา ๆ ทำให้เขาหยุดแล้วหันมามอง พร้อมกับส่องไฟมาหา
“การที่คุณไปสู่ขอผู้หญิงมาเป็นภรรยา แล้วดูแลเธอด้วยวิธีนี้หรือคะ..”
“สำหรับผู้หญิงที่ดี ที่ผู้ชายปรารถนาจะเอามาทำเมีย แน่นอนเขาต้องดูแลเธออย่างดี..”
“แล้วทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้ล่ะคะ..”
“ฉันทำอะไรเธอ ฉันยังไม่ได้แตะต้องเธอแม้แต่ปลายก้อยด้วยซ้ำ..”
เธอเม้มปากแน่น ใช่ เขาไม่ได้แต่ต้องเธอแม้แต่ปลายก้อย แต่การกระทำของเขาในระยะห่างนี่แหละที่ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก
“หรือจะให้อุ้ม..เอาอย่างนั้นหรือ..”
เมื่อเขาย้อนคำถามมาอีกครั้งทำให้เธอจำใจก้าวเดินต่อไปทั้งที่รู้สึกปวดจนร้าวไปทั่วทั้งขา
“ไปสิคะ..”
เมื่อเดินไปหยุดใกล้ ๆ เขาเธอก็มองหน้าเขาแล้วร้องบอก
“ออกหน้า..”
เขาหลีกทางพร้อมกับส่องไฟไปด้านหน้าทำให้เธอก้าวเดินด้วยความยากลำบาก โดยมีเขาเดินตามแล้วทำหน้าที่ส่องไฟให้
“ซ้าย..”
เขาร้องบอกเมื่อมาถึงทางแยกที่จะขึ้นเขาอีกลูกและเป็นทางลาดลงเขา
“ฉันไม่รู้ทางนี่คะ..”
“เวลาฉันออกหน้าเธอก็ตามไม่ทัน อ้างโน่นอ้างนี่ พอให้ออกหน้าเธอก็บอกไม่รู้ทาง สรุปว่าจะเอาอย่างไง..”
เขาก้าวมาหยุดตรงหน้าแล้วพูดออกมาอย่างติดรำคาญ
“คุณก็เดินออกหน้าสิคะแต่รอฉันบ้าง ฉันเดินไม่ค่อยถนัด เพราะว่าเจ็บที่ข้อเท้าตอนนี้มันลามไปทั่วทั้งขา แล้วที่มือก็..”
“ฉันไม่อยากรู้อาการของเธอ ฉันไม่ใช่หมอ ไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงอาการของเธอให้ฉันฟัง..”
เขาตัดบทพร้อมกับก้าวเดินนำหน้าแล้วก็ไม่ยอมรอเธอ จนกระทั่งเขาผ่านทางลาดชันที่จำเป็นต้องกระโดดข้ามเพราะมันเป็นรอยต่อของเขาสองลูก หากพลัดตกลงไปก็ยากจะรอดชีวิต
เขาขบกรามแน่นเมื่อหันไปมองเธอที่กำลังเดินตามมาแล้วก็หยุดกึกตรงรอยต่อนั้น เธอมองหน้าเขา พลางมองรอยต่อที่เป็นเหวลึกนั้นอย่างชั่งใจ
“มัวมองอะไรอยู่..ส่งมือมา..”
เขาร้องบอกพร้อมกับยื่นมือไปให้เธอ ที่ค่อย ๆ ยื่นมือบางมาหามือใหญ่ของเขาที่รวบไว้แล้วกระตุกร่างบางของเธออย่างเร็วและแรงจนร่างบางของเธอเซถลาไปกับอกกว้างของเขา
ใบหน้าหวานละไมซุกซบกับอกกว้างที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ในหัวใจรู้สึกหวาดหวั่นและสั่นไหวอยู่ลึก ๆ ไม่ต่างจากเขามากนักที่ได้สัมผัสกับเนื้อกายที่อ่อนนุ่มและหอมกรุ่นของกลิ่นสาบสาว ทำให้เขาต้องขบกรามแน่นก่อนจะผลักร่างบางออกห่างแล้วเตรียมจะเดินต่อ แต่เธอก็ทรุดกายลงพร้อมกับยกมือคลำที่ข้อเท้า
“โอ๊ย”
เขาหันกลับมาอย่างนึกรำคาญ
“อะไรอีกล่ะ..หรือนี่เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจ..”
รักษ์สิยาเม้มปากแน่นก่อนจะค่อย ๆ ทรงกายยืนหยัดแล้วก้าวเดินด้วยการกางมือทั้งสองออก หวังว่าไม่ว่าจะเอียงด้านใด ก็จะทิ้งน้ำหนักตัวมาอีกด้านเพื่อให้มันสมดุลกัน
พฤกษ์มองดูท่าทางของเธอก่อนจะเดินต่อไปแล้วไม่หันกลับมาสนใจอีก เพราะเมื่อลงจากตรงนั้นมาจะเป็นทางเรียบริมหาดทราย เขาจึงเดินลงไปรอด้านล่าง แล้วก็ต้องวนไปวนมาอยู่พักใหญ่กว่าจะมองเห็นเธอเดินตามลงไป
“คนใจร้าย ใจดำ ฉันจะจำไว้..”
เธอคิดในใจเมื่อมองเห็นเขาแล้วก็รีบโขยกเขยกเดินมาใกล้
“เดินเลาะชายหาดไปอีกหนึ่งกิโล เฉลารออยู่..”
เขาบอกเธอแล้วก็เดินไปอีกทางทำให้เธอทำได้เพียงแค่มองตามไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่ก็จำเป็นต้องอดทนเดินตามทิศทางที่เขาบอกไปอีกหนึ่งกิโล เมื่อมาถึงก็ดีใจที่เห็นเฉลาวิ่งมาประคองแล้วพาเธอเข้าไปพักผ่อน
