สามีร้อนสวาท ซีรีส์ชุด ชุด The Billionaire demon's virgin mistress Erotica Vol.2

113.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
55
บท
60.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะต้องการเงินมาช่วยจุนเจือครอบครัว ทำให้วาดดาวต้องปีนเข้าไปในบ้านของมหาเศรษฐีเซ็กซี่หล่อร้ายคู่กัดอย่างเมเตโอ แฟร์มาเลน เพื่อหาของบางอย่างตามที่ถูกว่าจ้างมา แต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะถูกคุณปู่ของเมเตโอจับตัวเอาไว้ได้เสียก่อน และแน่นอนว่ากำลังจะถูกจับส่งตำรวจ โชคดีที่เมเตโอกลับมาพอดี เธอจึงได้โกหกคำโตว่าตัวเองเป็นเมียของเขาเพื่อเอาตัวรอด เมเตโออยากจะอ้าปากปฏิเสธให้ดังลั่นนัก ว่าเขากับแม่เด็กจรจัดแต่งตัวขะมุกขะมอมอย่างวาดดาวไม่ได้เป็นสามีภรรยากันหรือแม้แต่คนรักก็ไม่ใช่ แต่อาจจะเป็นเพราะแววตาใสซื่อที่เต็มไปด้วยการวิงวอนคู่นั้น ทำให้เขาเลือกที่จะเดินตามเกมบ้าๆ นั่น ยอมเป็นสามีช่วยให้เธอไม่ต้องติดคุก แต่อย่าหวังเลยว่าเขาจะยอมเป็นเหยื่ออย่างที่ต้องการ เพราะคนอย่างเมเตโอต้องเป็นคนคุมเกม ไม่ใช่เหยื่อ! และแน่นอนว่าเขาจะเรียกค่าจ้างจากหน้าที่ให้อิ่มแปล้เลยทีเดียว

นิยายรักโรแมนติกแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆดราม่าเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

เอี๊ยดดดด.... โครม!!!

เสียงล้อรถครูดกับพื้นถนนดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับร่างเล็กในชุดขะมุกขะมอมล้มกลิ้งอยู่ด้านหน้า

“เฮ้ย... โผล่มาจากไหนวะ”

เมเตโอ แฟร์มาเลน มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อสบถเสียงดังลั่นในรถ ทั้งตกใจ ทั้งแคลงใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะรีบกระโจนลงไปจากรถเพื่อดูคนเจ็บ

ภาพที่เห็นก็คือเด็กผู้ชาย... ไม่สิ... นี่มันเด็กผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นผู้ชายต่างหาก เมเตโอหรี่ตาแคบมองสภาพของคนเจ็บที่ร้องโอดครวญดังเกินกว่าเหตุอย่างรู้ทัน

“เป็นยังไงบ้างล่ะไอ้หนู”

“ก็เห็นอยู่ว่าเจ็บหนักเนี่ย!”

วาดดาว บุญตานนท์ เด็กสาวจรจัดวัยสิบแปดปี แต่ความสามารถในการดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกใบนี้ล้ำหน้าเกินกว่าอายุมากนัก เพราะหล่อนปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เล็ก ท่ามกลางความเห็นแก่ตัวของทุกคนบนโลก

จะว่าไปแล้วชีวิตของวาดดาวก็น้ำเน่าไม่แพ้นางซินเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เกิดมา หน้าแม่หน้าพ่อแท้ๆ เป็นเช่นไรหล่อนยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย จำได้ว่าตอนเด็กๆ มีเศรษฐีใจบุญชาวอเมริกาที่มีภรรยาเป็นคนไทยมาขออุปการะ ชีวิตของหล่อนก็แลดูเหมือนจะมีความสุขใช่ไหม แต่ไม่ใช่เลย เมื่อมารดาบุญธรรมเกิดคบชู้ พ่อบุญธรรมจึงขับไล่ไสส่งมารดาออกจากบ้าน รวมถึงหล่อนด้วย

มารดาบุญธรรมพาหล่อนมาทิ้งเอาไว้ข้างทาง ก่อนจะหนีหายไปกับชู้รักวัยละอ่อน และถ้าไม่ได้ตาฝรั่งแก่ๆ เก็บมาอุ้มชู ป่านนี้ชีวิตของหล่อนก็คงจะไม่เหลือแล้ว

“ถ้ารู้ว่าเจ็บ แล้วทะเล่อทะล่าวิ่งตัดหน้ารถทำไมกันล่ะ”

“เอ๊ะ นี่นาย... ชนคนเจ็บแล้วคิดไม่รับผิดชอบหรือไง”

วาดดาวโกรธจนลืมอาการเจ็บ หล่อนผุดลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับผู้ชายตัวสูงมากที่เป็นเจ้าของรถ ต้องการจะข่มขู่เขา แต่ให้ตายเถอะ ความสูงของหล่อนได้แค่บ่ากว้างของผู้ชายตรงหน้าเท่านั้นเอง

“ฉันก็ยังไม่ได้บอกนี่ว่าจะไม่รับผิดชอบ”

เมเตโอกวาดตามองชุดมอมแมมคล้ายกับว่าลืมซักมาสักเดือนของเด็กทะโมนตรงหน้าเห็นใจ

“แต่นายจงใจบอกว่าฉันกระโดดมาขวางหน้ารถนายนี่”

วาดดาวยกมือขึ้นปัดเส้นผมที่หลุดออกมาจากยางมัดสีดำอย่างหงุดหงิด พลางจ้องหน้าผู้ชายตัวสูงอย่างพิจารณา ก่อนที่ความรู้สึกบางอย่างวิ่งพล่านในอก

รู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องอย่างประหลาด

บ้าจริง! วาดดาวสบถในใจ ก่อนจะรีบตั้งสติ

“หรือไม่จริงล่ะ”

“ไม่จริงสักหน่อย! นายต้องรับผิดชอบกับบาดแผลที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฉันทั้งหมด”

เมเตโอส่ายหน้าน้อยๆ เอือมระอากับเด็กสาวตรงหน้า ไม่ต้องให้หล่อนสารภาพ เขาก็รู้ทันว่าตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แต่เพราะเจ้าหล่อนน่าสงสาร เขาจึงเลือกที่จะไม่ใจแข็ง

“แล้วต้องการค่าทำขวัญเท่าไหร่ล่ะ”

“สองพันเหรียญ ไม่มากไปใช่ไหม”

ไหล่กว้างของเมเตโอไหวน้อยๆ “สำหรับฉันมันไม่มากไปหรอกกับเงินจำนวนเล็กน้อยแค่นี้น่ะ”

วาดดาวลอบยิ้มยินดี ก่อนจะรีบซ่อนเร้นเอาไว้ “งั้นก็จ่ายมาสิ เราจะได้แยกย้ายกันกลับ”

“พูดเหมือนขายขนมเลยนะ”

“ฉันไม่ได้ขายขนม แต่ฉันกำลังทวงค่าเสียหายที่ตัวเองสมควรจะได้รับ” วาดดาวยื่นมือออกไปข้างหน้า และแบมือออก “สองพันเหรียญ อย่าชักช้าสิ ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะเปลี่ยนใจขึ้นไปสามพันเหรียญก็ได้นะ”

เมเตโอหัวเราะขบขันในลำคอ “เธอนี่มันเขี้ยวจริงๆ เลย ถามหน่อยเถอะ ซ้อมนานไหมไอ้ท่ากระโดดตัดหน้ารถแล้วให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุดน่ะ”

เมื่อถูกถามแทงใจดำทำให้ดวงหน้านวลซีดลง แต่ไม่ช้าวาดดาวก็รีบกลบเกลื่อน

“ซ้อมบ้า ซ้อมบออะไรกันล่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ นายก็เห็นนี่”

“อย่างนั้นหรือ”

“ใช่ จ่ายเงินมาได้แล้ว ฉันจะรีบกลับบ้าน”

ชายหนุ่มแค่นยิ้มบางๆ ไม่พอใจนักกับการถูกข่มขู่ แต่เพราะสงสารจึงไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วย มือใหญ่หยิบกระเป๋าสตางค์สีดำออกมาจากกางเกงขายาว

วาดดาวชะเง้อคอมองธนบัติจำนวนมากในกระเป๋าสตางค์ของผู้ชายตรงหน้า

“นายรวยจริงๆ ด้วย”

เมเตโอเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าของเด็กสาว “ถ้าอยากรวยบ้างก็ขยันทำงาน อย่าขี้เกียจ”

“ถ้าคนอย่างฉันขี้เกียจ โลกนี้ก็คงไม่มีคนขยันแล้วล่ะ” วาดดาวพึมพำอย่างเหนื่อยใจ “นายรู้หรือเปล่าว่าวันๆ ฉันทำงานกี่อย่าง แต่ถึงจะทำเยอะแค่ไหน มันก็ยังไม่พอกินพอใช้อยู่ดี”

มือใหญ่ที่ถือเงินอยู่ชะงักเมื่อได้ยินคำพูดเศร้าหมองของคู่สนทนา ดวงตาสีทองหรี่แคบ

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอลำบากขนาดไหน แต่อยากจะบอกว่าเด็กสาวอายุขนาดเธอน่ะ ควรจะตั้งใจร่ำเรียนหนังสือ ไม่ใช่ออกมาเดินไปมาตามถนนแบบนี้”

“แล้วนายคิดว่าฉันไม่อยากเรียนหรือไงล่ะ” วาดดาวหันไปพูดเสียงดังใส่เมเตโอ ก่อนจะรีบตั้งสติ “นายเป็นคนอื่น ฉันไม่ควรจะพูดอะไรกับนายด้วยซ้ำ ไหนเงินค่าทำขวัญฉันล่ะ จ่ายมาสักที ฉันจะรีบไป”

เมเตโอส่งเงินในมือให้ “ให้ฉันพาเธอไปทำแผลก่อนไหม”

วาดดาวที่รับเงินไปแล้วชะงัก ก่อนจะส่ายหน้า “แผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ที่สำคัญฉันไม่อยากเสียเงินให้กับหมอน่ะ”

“ฉันจะจ่ายให้เอง”

“ขอบคุณ แต่ฉันต้องรีบไปจริงๆ” วาดดาวรีบเดินหนี แต่เสียงของผู้ชายด้านหลังก็ยังคงดังตามมา

“บ้านเธออยู่ท้ายซอยใช่หรือเปล่า”

เด็กสาวหันมามอง แต่ไม่ยอมตอบ ก่อนจะรีบวิ่งหายไป

เมเตโอถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะขึ้นรถ และขับกลับบ้าน ตลอดทางก็อดรู้สึกสงสารเด็กสาวคนนั้นไม่ได้

“กลับมาแล้วครับคุณปู่”

เมเตโอเอ่ยทักทายญาติสนิทเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่บนโลกใบนี้ด้วยความเคารพ

“วันนี้กลับช้ากว่าทุกวันนะแม็ต”

“พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยนะครับ”

“อุบัติเหตุ?” สีหน้าของโอลิเวอร์เต็มไปด้วยความตกใจ

“แค่เล็กน้อยเท่านั้นครับคุณปู่ ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณปู่สบายใจได้เลยครับ” เมเตโอเดินเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้ารถเข็นของโอลิเวอร์ พร้อมกับระบายยิ้มกว้าง

“วันนี้คุณปู่ดื้อกับป้าเกรซหรือเปล่าครับ”

“ปู่ไม่ใช่เด็กๆ แล้วแม็ต”

“ไม่ใช่เด็กๆ แต่ก็ชอบดื้อไม่ยอมกินยาเนี่ยครับ”

โอลิเวอร์ทำหน้าเซ็งจัด

“ยามันขม แกก็รู้นี่แม็ต และอีกอย่างปู่ก็อาการดีขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้วด้วย”

“ถึงจะอาการดีขึ้น แต่คุณหมอยังไม่สั่งให้หยุดยานะครับ ยังไงคุณปู่ก็ต้องกินยาทุกวันเหมือนเดิม”

“นี่แกกล้าออกคำสั่งกับปู่ของตัวเองเชียวหรือ”

เมเตโอหัวเราะเบาๆ “ผมต้องทำทุกอย่างนั่นแหละครับ เพื่อให้คุณปู่ยอมกินยา”

โอลิเวอร์มองค้อนหลานชายอย่างขัดใจ “แกมันก็ดีแต่ขัดใจปู่อยู่ร่ำไปเลย ทำไมไม่ยอมตามใจปู่บ้าง”

“ก็ถ้าคุณปู่หายดีเมื่อไหร่ ผมจะยอมทำตามใจคุณปู่ทุกอย่างครับ คุณปู่ตกลงไหมเอ่ย”

สีหน้าของโอลิเวอร์เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มทันที “งั้นปู่จะกินยาทุกมื้อ ทำกายภาพบำบัดตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด”

“นั่นแหละครับดีที่สุด”

“แต่แม็ตต้องแต่งงาน”

เมเตโอทำเสียงพึมพำรู้ทันในลำคอ “ผมนึกอยู่แล้วเชียวว่าคุณปู่จะต้องพูดเรื่องนี้”

“ปู่ก็จะพูดจนกว่าแกจะยอมใจอ่อนแต่งงานนั่นแหละ ว่าไงล่ะ จะยอมแต่งงานได้หรือยัง อายุก็สามสิบกว่าแล้วนะ”

ศีรษะทุยสวยของเมเตโอส่ายน้อยๆ ใบหน้ายังคงเปื้อนรอยยิ้ม “ผมยังสนุกกับชีวิตโสดอยู่น่ะครับคุณปู่”

“แกสนุกกับชีวิตโสด แล้วแกไม่นึกสงสารปู่บ้างหรือไง ที่ต้องอดทนรออุ้มเหลนน่ะ บางทีปู่อาจจะตายก่อนก็ได้”

“ไม่เอาครับอย่าพูดแบบนี้สิครับ คุณปู่จะต้องอยู่จนได้อุ้มเหลนนั่นแหละครับ”

โอลิเวอร์ทำหน้าเซ็ง เบื่อหน่าย

“แกก็ดีแต่พูดแบบนี้นั่นแหละ แล้วเมื่อไหร่ปู่จะได้อุ้มเหลนล่ะ ในเมื่อแกไม่ยอมคบหากับผู้หญิงคนไหนเป็นตัวเป็นตนสักที เอาแต่หว่านเสน่ห์ไปเรื่อย”

เมเตโอถอนใจเบาๆ ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มเช่นเดิม “ก็ผมยังหาไม่เจอนี่ครับ”

“ปู่ช่วยหาให้เอาไหม”

หลานชายรีบส่ายหน้า

“ผมว่าปู่กับผมรสนิยมในเรื่องของสตรีไม่ตรงกันอย่างมากเลยครับ ให้ผมหาเองดีกว่า”

เมเตโอยังจำผู้หญิงคนล่าสุด ลูกสาวเพื่อนสนิทของโอลิเวอร์ได้เป็นอย่างดี ผู้หญิงผมยาวถึงกลางหลัง สวมใส่แว่นตา และวันๆ ก็เอาแต่ท่องบทสวดมนต์ ซึ่งเขาไม่ชอบเลย

“แกไม่ชอบผู้หญิงเรียบร้อยหรือไง”

“เรียบร้อยแบบธรรมดาน่ะชอบครับ แต่ถ้าเรียบร้อยปานแม่ชีผมก็ไม่ไหว คือผมยังไม่อยากบวชเรียนน่ะครับ”

โอลิเวอร์ทำหน้าหมั่นไส้

“แกก็ชอบแต่พวกผู้หญิงเร่าร้อน ไฟแรงสูงนั่นแหละ ผู้หญิงพวกนี้เอามาทำเมียชั่วคราวน่ะได้ แต่ถ้าจะให้เอามาเป็นแม่ของลูกคงต้องคิดให้หนักๆ เชียว”

เมเตโออมยิ้ม “ผมนอนกับผู้หญิงมากมาย แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะเอาผู้หญิงพวกนั้นมาเป็นคู่ชีวิตหรอกครับ ก็แค่สนุกไปวันๆ ตามประสาชีวิตผู้ชายโสด”

“แล้วเมื่อไหร่แกจะหยุดสักทีล่ะ” โอลิเวอร์ยังคงมีความหวัง “เมื่อไหร่แกจะแต่งงานแต่งการเป็นเรื่องเป็นราวสักที”

“คงต้องรอผมเจอคนที่ใช่ก่อนน่ะครับ”

“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่แกจะเจอ”

คราวนี้คนเป็นปู่ครางเสียงแหบแห้ง ความหวังที่หล่อเลี้ยงในหัวใจแห้งเหือดลงไปอย่างน่าใจหาย

“ผมก็ยังไม่รู้เลยครับ แต่ถ้าวันนี้มาถึงเมื่อไหร่ ผมจะบอกคุณปู่เป็นคนแรกเลยดีไหมครับ”

“ปู่จะอยู่ถึงวันนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“ถึงสิครับ คุณปู่ยังแข็งแรง ต้องอยู่กับผมไปอีกนาน”

โอลิเวอร์มองค้อนหลานชาย

“อย่ามาทำเป็นพูดดีเลย รีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ปู่หิว”

“ครับคุณปู่”

แล้วเมเตโอก็ลุกขึ้นและเดินหายออกไป

โอลิเวอร์มองตามร่างของหลานชายไปด้วยความอ่อนล้า ก่อนจะหันไปถามแม่บ้านคนสนิท “หล่อนว่าฉันจะอยู่ถึงวันที่เจ้าแม็ตมันมีเมียหรือเปล่าแม่เกรซ”

“อิฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”

“หล่อนนี่... ให้กำลังใจฉันบ้างไม่ได้หรือไง” โอลิเวอร์ทำตาขุ่นใส่แม่บ้านคนสนิท

“เอ่อ อิฉันก็พูดไปตามความจริงน่ะค่ะ ว่าแต่คุณท่านหิวแล้วใช่ไหมคะ อิฉันจะได้พาไปที่ห้องอาหาร”

โอลิเวอร์พยักหน้าเศร้าๆ และปล่อยให้แม่บ้านเข็นรถที่ตัวเองนั่งอยู่ไปห้องอาหารโดยไม่ขัดข้อง