บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เมาด้วยกัน

หลิวเฉิงผุดลุกผุดนั่งจนต้องลุกขึ้นมารินน้ำชาดื่มดับความรุ่มร้อน เขาหลับตาลงคราวใดก็นึกถึงบั้นท้ายอวบกลมนั่นทุกที ความเป็นบุรุษพลุ่งพล่านจนยากจะระงับ

‘อนุหว่าน เจ้าน่ะเจ้า คุณธรรมจอมยุทธ์อย่างข้าป่นปี้หมดสิ้นก็คราวนี้’

ครั้นเห็นว่าตนเองไม่อาจจะทำให้หลับตาลงได้ หลิวเฉิงจึงคิดจะออกไปหาสุราดื่มสักเหยือก แต่ดึกดื่นเช่นนี้จะไปหาสุราได้จากที่ใด?

ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงระเบียงสองมือบีบราวระเบียงแน่น แค่หลับตาลง บั้นท้ายนั่นก็หลอกหลอนเขาทุกทีไป

“หัวหน้าหลิว ท่านมีเรื่องในใจหรือ?”

หัวหน้าองครักษ์หันกลับไปเห็นไห่ฮ่าวก็รีบเอ่ย

“เจ้าพอจะมีสุราเก็บเอาไว้ให้ห้องบ้างหรือไม่?”

“มีสิ! เหลืออยู่สามขวด ท่านอยากดื่มหรือ?”

“อืม...ข้าขอซื้อต่อก็แล้วกัน”

“ไม่ต้องหรอกหัวหน้า พวกเราทำงานอยู่จวนเดียวกัน มีเจ้านายคนเดียวกัน ของแค่นี้แบ่งปันกันได้”

ไห่ฮ่าวเดินกลับไปในห้อง หยิบเอาสุราในขวดกระเบื้องเล็กสีขาวขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือออกมาสองขวด เขายื่นขวดหนึ่งให้กับหัวหน้าหลิว

“ข้าดื่มเป็นเพื่อนท่าน” ไห่ฮ่าวยกขึ้นมารอชนขวดกับหลิวเฉิง

“เจ้าเองก็มีเรื่องนอนไม่หลับหรือ?”

“บางเรื่องก็กวนใจข้า”

“คงมิใช่เรื่องขององครักษ์สกุลซิวหรอกนะ?”

“หุบปาก!” ใบหน้าของไห่ฮ่าวบึ้งตึงขึ้นทันควัน

ชิ้ง!

เขารีบชนขวดกระเบื้องกับขวดสุราของหลิวเฉิงแล้วยกขึ้นดื่ม

“เจ้าโมโหเช่นนี้ น่าจะมีเค้า” หัวหน้าองครักษ์หนุ่มรีบยกขวดขึ้นดื่ม

เมื่อมีเรื่องของผู้อื่นให้สนใจมากกว่า เรื่องของตนเองก็สามารถเก็บเอาไว้ก่อนได้

“หัวหน้าหลิว ท่านนอนไม่หลับเพราะคดีในจวนนี้หรือ?”

“อืม...ซับซ้อนยิ่งนัก ฮูหยินกับอนุทั้งสองก็มีความลับ ใต้เท้าเสิ่นก็มีความลับ ข้าว่าบางทีพวกเขาอาจจะเป็นคู่ขัดแย้งกัน”

“ข้าก็คิดเหมือนท่าน คนปลอมเป็นผู้อื่นเข้ามาในเรือนเช่นนี้ยากจะเป็นคนดี แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนร้ายจึงไม่ถือโอกาสนี้ร่วมหอห้องกับพวกนางทั้งสาม จะว่าไปทั้งพวกนางก็ล้วนงดงามกันทั้งสามคน หรือท่านว่าอย่างไร?”

หลิวเฉิงสะดุ้ง เขาอุตส่าห์คิดจะหาสุราดื่มเพื่อลืมบั้นท้ายนั่นของ หว่านอิ๋งอิ๋งแต่ไห่ฮ่าวกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกจนได้

“พวกนางระแวงในตัวเสิ่นตัวปลอมผู้นี้อยู่แล้ว คงต้องหาทางบ่ายเบี่ยงไม่ยอมร่วมเตียงเป็นแน่ แต่พวกนางก็กลับมานานแล้ว หากว่าใต้เท้าตัวปลอมคิดอยากจะหลับนอนกับพวกนางจริง พวกนางคงยากจะปฏิเสธ ข้าคิดว่า เสิ่นฮั่นเหลียงผู้นี้อาจจะมีเรื่องผิดปกติ”

“เช่นนั้น ข้าจะเข้าไปสืบดูในเรือนนอนของพวกนาง”

“ไม่ได้!” หลิวเฉิงร้องลั่น

“เพราะเหตุใด?”

“เรื่องนี้คุณหนูสี่ให้ข้าเป็นคนจัดการแล้ว ให้ข้าไปดีกว่า ไม่เช่นนั้นข้าต้องถูกตำหนิแน่”

“จริงด้วย ข้าลืมไป ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอฟังผลการสืบของท่านก็แล้วกัน”

หัวหน้าองครักษ์หนุ่มรีบยกขวดสุราขึ้นดื่มเพื่อกลบเกลื่อนความตื่นเต้น เขาจะยอมให้ไห่ฮ่าวบุกเข้าไปในเรือนนั้นไม่ได้ หากบังเอิญไห่ฮ่าวเข้าไปในห้องของหว่านอิ๋งอิ๋งแล้วเจอเหตุการณ์อย่างเขาเข้า

...แค่คิดหัวของหลิวเฉิงก็ออกร้อน...

“เจ้าไปทำงานตามที่คุณหนูสั่งเถิด เรื่องในเรือนเสิ่นฮูหยินข้าจัดการเอง”

วันต่อมา หลิวเฉิงก็แอบเข้าไปในห้องนอนของหว่านอิ๋งอิ๋งอีกครั้งเพราะเขาบังเอิญได้ยินว่าพวกนางนัดกันมาคุยในช่วงยามซวี (19.00-20.59 น.)

หัวหน้าองครักษ์หนุ่มขึ้นซ่อนบนขื่อที่เดิม สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อหว่านอิ๋งอิ๋งเข้ามาในห้อง นางก็ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า หยิบเอาเสื้อผ้าชุดใหม่มาวางที่โต๊ะข้างๆ แล้วก็ถอดเสื้อผ้าโยนใส่ตะกร้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อครู่นางรู้สึกร้อน เดินผ่านห้องอาบน้ำรวมของสาวใช้พอดีจึงถือโอกาสแวะอาบให้เรียบร้อยแต่เพราะสวมเสื้อผ้าชุดเก่า เมื่อมาถึงห้องจึงเร่งรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า

‘หะ! สตรีผู้นี้ เหตุใดจึงชอบถอดเสื้อผ้าเรี่ยราดนัก หลังฉากมีนางก็ไม่รู้จักไปหลบ?’

หลิวเฉิงพยายามข่มใจหลับตา แต่ใจเขากลับสั่นระรัวอย่างไม่มีเหตุผล

“โอ๊ย!”

องครักษ์หนุ่มลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เกรงว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในห้องของนาง ทว่าพอมองไปกลับเห็นนางก้มลงหยิบกางเกงที่หล่นลงพื้น

...บั้นท้ายกลมกลึงขาวผุดผาดของนางเต็มตาเขายิ่งกว่าคราก่อน...

พรวด!

ชายหนุ่มรีบยกมือขึ้นกุมจมูกของตนเองไว้อย่างรวดเร็ว เลือดกำเดาของเขาไหลออกมาคล้ายกับน้ำลายที่ถูกพ่น ดีที่ก้นของหว่านอิ๋งอิ๋งชนเข้ากับประตูตู้เสื้อผ้าจนน้องร้องโอ๊ะออกมาอีกคำ ทำให้ไม่รู้สึกถึงเสียงคล้ายจะจามบนขื่อ

“บ้าชะมัด! แค่นี้ก็ชนได้ เจ็บจริง” นางเอามือลูบก้นเบาๆ รีบสวมกางเกงกับเสื้อเอี๊ยมแล้วเดินไปหยิบเอาตลับยาทาแก้ปวดมาทาบั้นท้ายช้ำๆ ของตน

คราวนี้หลิวเฉิงจึงได้เห็นเต็มตาว่าสัดส่วนหน้าอกของนางก็เร้าใจไม่แพ้กับบั้นท้าย เขาควักเอาผ้าเช็ดหน้าออกมากดจมูกห้ามเลือดกำเดาแล้วนอนหงาย ในใจก็นึกดีใจที่ตนเองไม่ยอมให้ไห่ฮ่าวมาแทน

‘สตรีห่ามๆ เช่นนี้ หากปล่อยให้บุรุษได้เห็นเรือนร่างของนางหลายคน วันหน้าบุรุษใดจะมาสู่ขอไปเป็นภรรยาเล่า?’

หว่านอิ๋งอิ๋งรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างว่องไว เสิ่นฮูหยินกับเจียงลี่จังใกล้จะมาถึงแล้ว นางต้องเตรียมขนมกับน้ำชาเอาไว้รอ

เมื่อติดเตาเล็กไว้บนโต๊ะเรียบร้อย นางก็ไปหยิบเอากล่องขนมที่อยู่บนชั้นข้างผนังมาแล้วจัดใส่จาน ครู่หนึ่งเสิ่นฮูหยินกับเจียงลี่จังก็มาถึง

“พวกเราบุกเข้าไปไม่สำเร็จ เวรยามก็เพิ่มขึ้น เห็นทีคงต้องปล่อยไปสักพักหรือไม่ก็ต้องหาพันธมิตรมาช่วยเสียแล้วล่ะ”

หว่านอิ๋งอิ๋งยิ้มกว้าง มองหน้าอดีตคุณหนูสกุลโม่กับสหายอย่างมีเลศนัย

“คุณหนู ข้าพอจะมองเห็นผู้ที่จะช่วยเราได้แล้วเจ้าค่ะ” ในยามที่พวกนางอยู่กันเอง อนุภรรยาทั้งสองยังคงเรียกเสิ่นฮูหยินตามความเคยชินว่าคุณหนู

“ผู้ใด? เจ้ารีบพูดมาเร็ว”

“คุณหนูสี่สกุลชิงเจ้าค่ะ”

“จะไหวหรือ?”

“พรุ่งนี้เราลองหาวิธีชวนคุณหนูชิงมาดื่มก่อนเถิดเจ้าค่ะ แล้วค่อยดูว่าจริงๆ แล้วนางเหมาะหรือไม่?”

“อิ๋งอิ๋ง คุณหนูสี่เป็นแค่เด็กผู้หญิง นางจะมาดื่มสุรากับเราได้อย่างไร?”

“เอาอย่างนี้สิเจ้าคะ ท่านก็เอาน้ำผลไม้ที่เก็บเอาไว้ออกมาให้นางดื่มก็สิ้นเรื่อง เด็กผู้หญิงกับน้ำผลไม้คงไม่เป็นอันใด”

“จริงด้วย พวกเราดื่มเหล้ากันไป ให้นางดื่มน้ำผลไม้แบบนี้ก็ดี”

พวกนางทั้งสามพูดคุยกันไป กินขนมกันไปจนดึกดื่น จากนั้นก็แยกย้ายกันไปนอน หลิวเฉิงอาศัยช่วงที่หว่านอิ๋งอิ๋งเดินไปส่งนายหญิงของนางแอบออกจากห้องไป

‘ต้องรีบไปบอกคุณหนูสี่ให้รู้ตัวว่าพวกนางจะใช้แผนนี้ จะได้ซ้อนแผนเพื่อล้วงความลับพวกนางเสียที’

เย็นวันต่อมาชิงเว่ยเว่ยกับสาวใช้ประจำตัวก็ไปเยือนเรือนนอนของเสิ่นฮูหยินพร้อมด้วยขนมจากภัตตาคารเป่าฟู่ ร้านหรูหราและดังที่สุดในเมืองฉู่จิ้ง หว่านอิ๋งอิ๋งประหลาดใจที่คุณหนูชิงช่างมาได้เวลา ราวกับรู้แผนของพวกนาง นางทำหน้าที่เตรียมน้ำผลไม้ที่เสิ่นฮูหยินได้มาจากแคว้นเหลียนเอาไว้

...นี่เหยื่อพร้อมจะมาเข้าปากเสือโดยที่เสือยังไม่ทันตั้งตัว...

“อิ๋งอิ๋ง ไปเอาน้ำผลไม้ที่เก็บไว้ออกมาเถอะ”

หว่านอิ๋งอิ๋งนำไหน้ำผลไม้ไปเปิดแล้วก็เทใส่โถนำมาให้นายหญิงของตน ส่วนสาวใช้ก็นำเอาขนมที่คุณหนูชิงนำมาใส่จัดใส่จานออกมาวางบนโต๊ะ

“คุณหนูชิง อนุทั้งสองล้วนเติบโตมากับข้า พวกเราสนิทสนมดุจดังพี่น้อง ท่านคงไม่ถือสาหากข้าจะให้พวกนางมานั่งดื่มด้วย”

“ยินดีเจ้าค่ะ เชิญอนุหว่านกับอนุเจียงตามสบาย”

“ขอบคุณคุณหนูชิง”

สาวใช้ทั้งสองยอบกายลงขอบคุณอย่างสุภาพ ฐานะของชิงเว่ยเว่ยบุตรเจ้ากรมกลาโหมนับว่าสูงส่งยิ่งไม่ว่านางเดินทางไปที่ใดทุกคนย่อมต้องยำเกรง

ชิงเว่ยเว่ยมิได้รู้ว่าตนเองนั้นดื่มน้ำผลไม้ไปมากเท่าใด แต่ยิ่งดื่มก็ยิ่งอร่อยและคุยสนุก เสิ่นฮูหยินกับคุณหนูสี่สกุลชิงที่เมาได้ที่กอดคอหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก

“ต่อไปพวกเราเป็นพี่น้องกัน เจ้าเป็นน้องเว่ยเว่ย ส่วนข้าเป็นพี่จางลี่”

******************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel