บท
ตั้งค่า

2 เธอถูกพายุหอบหายไปในป่าดงดิบ 1

ผู้ใหญ่นาคนั่งน้ำตาคลอเมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักถูกลมพายุพัดหอบไปแล้ว สายตาอ้างว้างมองข้าวของที่แปรสภาพเป็นเศษขยะทับถมกลาดเกลื่อนทั่วหมู่บ้าน กระท่อมหลายหลังพังพับราบลงมากองที่พื้น น่าแปลกตรงที่ไม่มีใครได้รับอันตราย นอกจากนารีเพียงคนเดียวเท่านั้น

“นารี ทำไมต้องเป็นลูกด้วยนะแล้วพ่อจะไปตามลูกที่ไหนล่ะ ลูกเอ๋ย ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้”

ผู้ใหญ่นาครู้สึกเจ็บปวดต่อการสูญเสียลูกสุดที่รักไปพร้อมกับสายลม ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

“แล้วผู้ใหญ่จะเอายังไงต่อไปล่ะจ๊ะ”

ลูกบ้านคนหนึ่งถามด้วยสีหน้าหวาดวิตกไม่แพ้ผู้นำหมู่บ้านวัยกลางคน ที่ยังคงนั่งหน้าเครียด เอามือกุมขมับทั้งสองข้างเอาไว้

“ต้องออกตามหาลูกข้าก่อน บ้านใครที่พังก็ช่วยกันซ่อมไป มีใครจะไปตามลูกข้าบ้าง ข้าไม่บังคับหรอกนะ ต้องการผู้ที่สมัครใจเท่านั้น”

ผู้ใหญ่นาคกวาดสายตาไปยังกลุ่มลูกบ้านทั้งหญิงและชายที่ยืนเรียงรายรอบๆ ตัว เสียงพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประหลาดดังจ้อกแจ้กราวกับนกกระจอกแตกรัง ทุกคนมีใบหน้าตื่นตระหนกและมีแววหวาดหวั่นปรากฏเห็นได้อย่างชัดเจน

“ผมครับ”

เขี้ยวแก้วยกมือขึ้นทันทีที่เสียงผู้ใหญ่นาคประกาศหาผู้กล้า เหตุที่เขาสมัครใจไปในครั้งนี้ก็เพราะแอบรักนารีมานานแล้ว แต่เจียมตัวว่าจน เมื่อรู้ว่าเธอตกอยู่ในห้วงอันตรายเขาต้องช่วยเหลือจนสุดความสามารถ ไม่ว่าจะต้องบุกสวรรค์หรือฝ่านรกก็ตามที ผู้ใหญ่นาคเข้ามาตบบ่าบึกบึนเบาๆ

“ขอบใจมากไอ้หลานชาย แล้วมีใครอีกไหม”

ชายหนุ่มอีกเก้าคนพร้อมใจกันยกมือขึ้น แม้ว่าเป็นการเดินทางที่ยากลำบากแต่ทุกคนยินดีไปเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่น่าสงสารให้รอดพ้นจากอันตราย

“แม้ว่าเจอร่างที่ไร้วิญญาณของลูกข้าก็ตามที ข้าจะเอาศพลูกมาบำเพ็ญกุศลให้ได้”

ผู้ใหญ่พูดเสียงเศร้า นัยน์ตาแดงก่ำ บุญช่อผู้เป็นภรรยานั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ ถึงกับยึดมือสามีเอาไว้แน่น

“พี่ ถ้าพี่เป็นอะไรไปอีกคน ฉันจะทำยังไง”

ผู้ใหญ่มองหน้าภรรยาด้วยสายตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ในเวลานี้ ไม่อาจจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ ถ้าออกค้นหาลูกสาวเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีชีวิตรอดก็มากเท่านั้น เขาจะต้องเดินทางแข่งกับเวลา

“ไม่ต้องห่วงพี่หรอก คนเราถ้าดวงจะกุดอยู่ที่ไหนก็ตาย ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในป่าหรอกนะบุญช่อเอ้ย เฝ้าบ้านให้ดี จำเอาไว้ เวลากลางคืนอย่าลงจากบ้านเป็นอันขาด”

สั่งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากด้วยความเป็นห่วง หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ พร้อมๆ กันนั้นได้กะพริบตา กรีดน้ำตาให้ไหลหยดอาบแก้ม เธอรู้ดีว่าเวลานี้ไม่อาจค้านให้สามีอยู่ได้ จึงพยายามทำใจรวบรวมสมาธิให้นิ่งกับที่

“บุญช่อ เธอช่วยเตรียมข้าวและอาหารแห้งให้ได้ครบสามเดือน”

ผู้ใหญ่นาคสั่งภรรยาเสียงเข้ม ในขณะนั้นนางก้มหน้าจัดข้าวของเงียบๆ ทั้งที่ใจแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ไหนลูกจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย และสามีกำลังจะจากไกล เข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน ต่อจากนี้ไปเธอคงทุกข์ทรมานเมื่ออยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง

“พี่จะเข้าป่าเมื่อไหร่”

หลุดปากถามแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองหน้า กลัวสามีจะรู้ว่าเวลานี้นางกำลังร้องไห้อย่างหนัก พยายามเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ ไม่ให้เล็ดลอดออกจากริมฝีปากรูปกระจับ ซึ่งบัดนี้สั่นระริกราวกับน้ำในบึงที่กำลังกระเพื่อมเคลื่อนไหว

“พรุ่งนี้แต่เช้าตรู่ เราจะออกเดินทางกันทันที เอาล่ะพี่น้องทุกคนขอให้กลับไปเตรียมข้าวปลาอาหารแห้ง เสื้อผ้า อุปกรณ์เดินป่าและยากันยุงกันทาก บางทีเราจะเข้าไปในป่าทึบโน่น”

ลูกบ้านทุกคนพยักหน้าแล้วพากันแยกย้ายกลับบ้านเพื่อเตรียมของและลาลูกเมีย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมาที่หมู่บ้านนี้อีก แม่บ้านหลายคนร้องไห้ไม่อยากให้สามีเข้าไปเผชิญความลำบาก แต่ก็เห็นใจผู้ใหญ่ที่ต้องการค้นหาลูกสาวกลับคืนหมู่บ้านไม่ว่าเธอตายหรือยังมีชีวิตอยู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel