ตอนที่ 10 ตู้เสื้อผ้า
ในที่สุดเกียร์ก็สอนให้มีอาเก็บปีกของตนเอง คีย์สำคัญมีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือหัวใจ...
หัวใจของเธอตอบสนองต่อสิ่งไหน อะไรที่ทำให้เธอปรารถนาจะโบยบิน เพียงแค่ทำความเข้าใจกับมัน มีอาก็สามารถที่จะเก็บปีกได้
และแน่นอนว่าหลังจากที่เขาบอกเธอเรื่องนี้มีอาก็ใบหน้าแดงก่ำ ชายหนุ่มคาดเดาได้อย่างรวดเร็วว่าเป็นเพราะอะไร
เขากอดอกมองร่างกึ่งเปลือยของมีอาบนเตียง ดวงตาคมราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปในหัวใจเธอ
“ตอนที่เราเข้ากันได้อย่างดี ปีกของเธอก็ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ที่รัก...ดูเหมือนว่าเธอจะประทับใจช่วงเวลานั้นมาก”
“หุบปาก!” เธอมองเขาด้วยสายตากรุ่นโกรธก่อนจะหลับตาลงและตั้งสมาธิ รู้ดีว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้เธอสยายปีกในตอนนั้น
นั่นคือ...เกียร์
เขาคือคนสำคัญในใจของมีอา คนที่ทำให้เธอหลงใหล คนที่ทำให้เธอโกรธจนคิดที่จะเกลียด
แต่กลับเกลียดเขาไม่ลง
ทันใดนั้นปีกสีขาวก็ค่อยๆ กลายเป็นละอองแสงสีทองและหายเข้าไปในร่างของเธอ
เกียร์เลิกคิ้ว ไม่อาจเก็ยซ่อนความชื่นชมในแววตาได้ ขณะเดียวกันก็นั่งลงข้างเธอและพูดว่า “หัวไว”
“ฉันเป็นแบบนี้เสมอ” มีอาตอบเขาเสียงเย็นชา มือทั้งสองข้างจับปมผ้าขนหนูไว้แน่นและคิดจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ยกเว้นเรื่องบนเตียง” เขาพูด
มีอาหันไปมองค้อน ลงจากเตียงด้วยความขุ่นเคือง
“อ๊ะ!” ทว่าขาที่อ่อนเปลี้ยทำให้เธอเหยียบพลาดจนหน้าเกือบคว่ำลงกับพื้นพรม โชคดีที่เกียร์นั้นว่องไวพอจะคว้าเอวเพรียวและจับเธอนั่งบนตักอย่างมั่นคง
อ้อมกอดอุ่นร้อนโดยเฉพาะอกแกร่งที่แผ่ความร้อนไปยังแผ่นหลังของมีอาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง ความประมาทเมื่อครู่เกือบทำให้เธอล้มลงไปกองอย่างน่าอาย
“เรื่องบนเตียงเธอไม่จำเป็นต้องหัวไวหรอก ค่อยๆ เรียนรู้กันไป ฉันมีเวลาสอนเธอทุกวัน...ทุกคืน” เกียร์แกล้งกัดใบหูของมีอาเบาๆ เพราะรู้ว่านั่นคือจุดอ่อนไหวของหญิงสาว
“หยุดล้อเลียนฉันได้แล้ว” มีอาผลักอกแกร่งออกไปเนื่องจากร่างกายของเธอกำลังร้อนวูบวาบอีกครั้ง ปฏิกิริยาของร่ายกายเธอที่มีต่อเขานั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นจนเกินพอดี หากไม่รีบหักห้ามใจตัวเองวันนี้เธออาจจะไม่สามารถลุกจากเตียงได้อีกต่อไป
แต่ความจริงตอนนี้เธอยังยืนด้วยตัวเองไม่ได้เลย
“หึ...ให้ฉันช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้ามั้ย?” เกียร์พูดอย่างมีน้ำใจ ปลายนิ้วปัดป่ายยอดอกที่ก่อเป็นตุ่มไตจากการสัมผัสผ่านอย่างแผ่วเบาของมีอา
ใบหน้าแดงก่ำของมีอานั้นช่างน่ารักน่าแกล้งจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว
มีอาข่มอารมณ์วาบหวามในอกและพูดเสียงเรียบ “แค่พาฉันไปที่ห้องแต่งตัวก็พอ”
ห้องแต่งตัวมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าห้องนอนของมีอาที่อยู่ห่างไกลเสียอีก ตู้เสื้อผ้าแบบบิลด์อินนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมเรียงรายอย่างเป็นระเบียบของเกียร์ และมีตู้อีกฝั่งหนึ่งที่เขาบอกว่าเป็นตู้เสื้อผ้าของเธอ
เมื่อมีอาเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา แสงไฟด้านในก็สว่างวาบ เสื้อผ้าแบรนด์เนมของผู้หญิงที่มีหลากหลายสไตล์อัดแน่นอย่างเป็นระเบียบ มีอาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งรอให้เธอแต่งตัวราวกับไม่ได้เป็นส่วนเกินในห้องนี้
“เสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน”
“ไม่ชอบที่ฉันซื้อให้เหรอ เธอลองเปิดลิ้นชักข้างล่างดูสิ” เกียร์ตอบเสียงเรียบ ยังคงนั่งมองมีอาราวกับเป็นสไตลิสต์ส่วนตัว
มีอาเปิดลิ้นชักชั้นล่างตามที่เกียร์บอก ทันใดนั้นบราเซียร์หลากสีก็ปรากฏโฉมให้เธอได้เห็น
มีทั้งลายลูกไม้ซีทรูสีหวานไล่ระดับสีไปจนถึงโทนสีเข้มสุดเซ็กซี่ บางชิ้นเป็นซีทรูที่ปิดเฉพาะตรงกลาง บางชิ้นแทบไม่เหมือนบราเซียร์ด้วยซ้ำแต่เป็นเหมือนเสื้อผ้าวาบหวิวที่มีอาเคยเห็นสาวสวยในผับมักจะใส่กัน
เมื่อเธอเปิดลิ้นชักอีกชั้นหนึ่ง กางเกงในหลากหลายสไตล์ก็ปรากฏโฉม มุมปากของหญิงสาวกระตุกอย่างควบคุมไม่อยู่ เมื่อเห็นว่าบางส่วนนั้นมีดีไซน์ที่ค่อนข้างวาบหวิว
เธอหันขวับมองเกียร์ด้วยความไม่พอใจ “นี่ของใคร”
“นอกจากที่รักแล้วฉันจะมีใครล่ะ” เกียร์พูดอย่างภาคภูมิใจ “ไม่ชอบเหรอ ฉันว่าไซซ์ไม่น่าจะผิดนะ”
“โรคจิต” มีอาสบถใส่เกียร์เมื่อเห็นเขามองสัดส่วนบนร่างกายเธอด้วยสายตาโจ่งแจ้ง “เสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน?”
“อยู่ตู้ขวา” เขารีบบอกเมื่อเห็นว่ามีอาเริ่มอารมณ์ไม่ดี แววตามีประกายขบขันหลังจากร่างในผ้าขนหนูสีขาวเปิดตู้ขวาอย่างรวดเร็ว
ตึง!
เสียงบานเลื่อนกระแทกจนตู้เสื้อผ้าสั่นสะเทือน แรงโทสะของมีอานั้นรุนแรงกว่าที่เกียร์เคยเห็น และเมื่อหญิงสาวเห็นชุดนอนสุดเซ็กซี่ในตู้เสื้อผ้า ร่างโปร่งบางก็สั่นเทาด้วยความโกรธ
คนบ้า!
เขากล้าหยอกล้อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“เกียร์ ฟร้อนต์!”
ทว่าทันใดนั้นร่างของเกียร์ก็โอบมีอาจากทางด้านหลัง ความร้อนที่ทาบทับแผ่นหลังของมีอาทำให้เธอชะงัก ตกใจกับความรวดเร็วของเขาและไม่เข้าใจว่าทำไมปฏิกิริยาโต้ตอบของเธอจึงเชื่องช้าเช่นนี้
“มันอยู่ตรงนี้จริงๆ” เกียร์กล่าว มืออีกข้างขยับชุดนอนในตู้และหยิบกระเป๋าเดินทางของมีอาออกมา “อย่าโกรธเลยที่รัก”
ปึ้ก!
มีอากระทุ้งศอกใส่เกียร์จนอีกฝ่ายงอตัวด้วยความเจ็บปวด เธอเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “ออกไป!”
เกียร์แสร้งเดินเซด้วยความเจ็บปวดแล้วทรุดตัวลงบนเก้าอี้ ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวอย่างน่าสงสาร “ฉันจุกจนเดินไม่ไหวแล้ว”
“ก็ได้”
เกียร์เลิกคิ้วเมื่อเห็นว่ามีอาพูดง่าย ทว่าในเวลาต่อมาเขาก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเมื่อหญิงสาวเลือกที่จะเดินอย่างทุกลักทุเลออกจากห้องแต่งตัวและเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ
ปัง!
“อารมณ์ร้ายจริงๆ” เกียร์กระตุกริมฝีปาก ลุกขึ้นเดินออกจากห้องแต่งตัว เขาคลำตรงจุดที่ถูกมีอาทำร้ายยังคงรู้สึกเจ็บนิดหน่อย “แรงเยอะไม่เหมือนตอนอยู่บนเตียงเลยให้ตายสิ”
หากมีอาได้ยินประโยคหลังเธอคงจะกรีดร้องใส่เกียร์และด่าว่าเขาเป็นปีศาจที่ไม่รู้จักพอ
อย่าว่าแต่เธอเลย แม้ว่าคนที่ต้องตอบสนองความต้องการทางร่างกายให้เขาจะเป็นผู้ชายก็คงไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ในสามวันแน่ๆ
มีอาเพิ่งได้สังเกตคฤหาสน์ของเกียร์เป็นครั้งแรกหลังจากที่ถูกเขาขังไว้บนห้องกว่าสามวัน คฤหาสน์หลังใหญ่เต็มไปด้วยคนรับใช้หลายสิบคน ตัวอาคารสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันเธอก็เพิ่งรู้ว่าคฤหาสน์หลังนี้เขาอาศัยอยู่คนเดียว และยังมีห้องนอนที่ไม่มีเจ้าของอีกหลายห้อง
นั่นหมายความว่าในวันแรกที่มาถึงเขาสามารถให้เธอยืมห้องนอนสักห้องหนึ่งก็ได้ แต่เขาไม่ทำ
แน่นอนว่าเกียร์ยอมรับหน้าตายว่าเขาไม่อยากให้เธอไปนอนห้องอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้เธอเป็นทาสสัญญาเขาแล้ว และสิ่งที่ทำให้มีอาโกรธเขาอีกครั้งก็คือปลอกคอที่เขาสวมให้เธอยังอยู่ แต่กลับไม่มีใครมองเห็นนอกเสียจากว่าเกียร์จะต้องการให้คนอื่นเห็น
เขายังคงพูดอย่างหน้าด้านว่าปลอกคอนี้จะปรากฏและถอดได้เฉพาะตอนที่ทั้งคู่ร่วมรักกันเท่านั้น
มีอายิ่งหยุดหงิดมากขึ้นเมื่อเขาทำแบบนี้กับเธอ แฟนสาวบ้าบออะไร เธอไม่มีแม้แต่อำนาจจะต่อรองด้วยซ้ำ
ตอนนี้เธอไม่ต่างอะไรกับทาสกามรมณ์ของเขา
หลังจากแต่งตัวเสร็จเขาพาเธอลงมากินข้าวที่โต๊ะอาหารแทนที่จะให้กินข้างบนเหมือนทุกที
แม่บ้านคนเดิมเป็นแม่ครัวหลักทำอาหารสี่ห้าอย่างตามที่เกียร์สั่ง มีอากินอาหารมื้อแรกของวันอย่างเอร็ดอร่อย เวลาเดียวกันก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาอย่างไม่เป็นมิตรจากสาวใช้บางคนที่ยืนรอให้บริการ
เธอยิ้มสมเพชตัวเอง เข้าใจเป็นอย่างดีว่าเพราะอะไรคนเหล่านี้ถึงมองเธอด้วยสายตาแบบนั้น
แต่แล้วยังไง?
“วันนี้ฉันจะไปมหาวิทยาลัย” มีอาพูดทำลายความเงียบ
เกียร์หั่นเนื้อแกะใส่จานมีอา “ฉันจะไปส่ง”
“โอเค” มีอาตอบรับอย่างว่าง่าย กินเนื้อที่เกียร์หั่นให้จนหมด
“ให้ฉันไปส่งที่ไหน” ชายหนุ่มมองมีอากินของที่เขาเสิร์ฟอย่างพอใจและเริ่มหั่นเนื้อไก่งวงให้เธออีกครั้ง
“...” มีอาชะงักมือ คิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “อาคารภารกิจ[ ที่ส่งภารกิจของนักศึกษาใน National Center University]”
“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะไปพบอาจารย์ที่ปรึกษา”
“เขาอยู่ที่นั่น”
“เอาล่ะ ตกลง”
