สยบรักนายมาเฟียเจ้าชู้

107.0K · จบแล้ว
แอดทรี
54
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มาเฟียหนุ่มนิสัยเจ้าชู้ ผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่กลับต้องมาหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งตั้งแต่แรกเจอ เธอทำเย็นชาใส่เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ แต่เธอไม่รู้หรอก อะไรที่ยิ่งได้มายากนั่นแหละมักมีค่าสำหรับเขาเสมอ ชายหนุ่มจึงตามจีบ ตามรังควาน ตามเปย์ให้เธอ ลงทุนทำเงินสดเป็นพวงมาลัยมอบให้ แต่หญิงสาวกับเห็นมันเป็นพวงหรีด การจะชนะใจเธอไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเขาจึงทุ่มสุดตัว แต่ที่เธอตัดสินใจคบกับเขา เพียงเพราะถูกบังคับจากใครคนหนึ่ง มาเฟียหนุ่มเข้าใจผิดว่าเธอเป็นสายให้ศัตรู ความรักแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น เขาชั่งใจว่าจะรักต่อดี หรือแก้แค้น ทางไหนกันที่จะทำให้สาสม

นิยายรักโรแมนติกแต่งงานสายฟ้าแลบรักแรกพบมาเฟียเศรษฐีสายลับคนธรรมดา

ตอนที่1 อยากทะลวงกี

”ที่รักครับ ผลตรวจออกมาแล้วนะ ผมไม่เป็น...พวกเรามาเริ่มมีอะไรกันเลยไหม”

ใบหน้าหล่อเหลายิ้มร่ามาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลในมือ นี่คือเสียงผมเอง ที่จริงรอดูผลทางอีเมล์ก็ได้ แต่ผมเลือกจะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองเพื่อรับเอกสารสำคัญ แบบว่าโคตรจะตื่นเต้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปตรวจเชื้อHIVตามคำท้าทายแฟนสาว ยอมหน้าด้านหน้าทนให้หมอซักประวัติเรื่องสาวที่เคยผ่านมาในชีวิตนับร้อยคน ยอมทนความอับอายให้พยาบาลขี้ซุบซิบนินทาเจาะเลือดให้ ทำทุกสิ่งอย่างก็หวังจะเจาะทะลวง ’กี’ แฟนสักครั้ง ตามจีบตามง้อมาสองเดือนเต็ม แต่แม่ ‘สาวหุ่นยนต์’ ไม่ยอมสักที มากสุดได้แค่จับมือ คิดดูว่าเสืออย่างผมต้องมายอมอะไรขนาดนี้กับเธอเป็นคนแรก ปกติเจอสาวถูกใจปุ๊บก็ต้องสานต่อกันบนเตียงปั๊บ น้ำแตกก็แยกย้าย แต่ถ้าลีลาเด็ดก็คบต่อ สับรางไม่เว้นแต่ละวัน เช้าคนหนึ่ง เที่ยงอีกคนหนึ่ง เย็นก็อีกคน ถือคติว่ารูปลักษณ์เทพเจ้าปั้นอย่างผม ต้องแบ่งให้สาว ๆ เชยชม

แต่กับเธอคนนี้แล้ว...

“ตรวจแล้วไง”

“หา!!”

ผมทำหน้าเหวอ เธอเป็นคนเอ่ยเองว่าให้ไปตรวจ แต่กลับมาถามหน้าตาย สมแล้วที่ผมตั้งฉายาในใจให้เธอว่า ‘สาวหุ่นยนต์’ สีหน้าเรียบนั้นไม่เคยแสดงอารมณ์อย่างอื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคำว่ารักด้วย ไม่เคยพูดสักครั้ง มีแต่ผมฝ่ายเดียวที่พูดพร่ำเป็นพันรอบ เคยแอบสงสัยนะว่าทำไมเธอถึงยอมคบเป็นแฟน? แต่ไม่กล้าถามหรอก กลัวจะผิดหวังกับคำตอบ เลือกที่จะไม่ถามดีกว่า...

“ก็ที่รักบอกให้เขาไปตรวจ ถ้าผลออกมาแล้วก็จะมีอะไรด้วยกัน” สองนิ้วชี้จิ้มเข้าหากัน ท่าทางขวยเขิน ส่งนัยน์ตาบ้องแบ๊ว ทำเสียงน่ารักเพื่อให้เธอเห็นใจ

“ฉันก็แค่บอกให้นายไปตรวจ ไม่ได้พูดสักคำว่าจะยอมมีอะไรด้วย”

“แต่...” ผมเถียงไม่ออก พอนึก ๆ ดูแล้ว ก็จริงอย่างที่เธอว่า ผมผิดเองแหละที่คิดไปไกล แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะมีอะไรกับเธอให้ได้ ก็คงต้องบังคับ

ว่าแล้วก็วางเอกสารในมือไว้บนโต๊ะด้านข้าง เปลี่ยนไปโอบคอเจ้าของเรือนผมสีเงินเทา ใช้อกแกร่งบดเบียดแนบชิดไปกับแผ่นหลังบาง ก่อนจะงุดหน้าประทับริมฝีปากหนาลงบนท้ายทอยขาวเนียน

“ผมต้องการเมด้านะ”

แทนที่เธอจะหลงมนต์คำพูดหวาน กลับเป็นฝ่ายผลักแขนหนาออก แล้วหันมาประจันหน้าถอยห่างออกไปครึ่งก้าว

“เฮ้อ...แต่ฉันยังไม่พร้อม”

“เมด้าคงไม่ต้องการผมสินะ” ในเมื่อใช้คำพูดหวานไม่ได้ผล ผมจึงต้องใช้ไม้เด็ด คิดเรื่องเศร้าบีบหัวใจ ทำยังไงก็ได้ให้นัยน์ตาคมรื้นด้วยน้ำสีใสจวนเจียนจะไหล และได้ผล! เพราะใบหน้าสวยเริ่มแสดงนัยน์ตาเศร้าสร้อยตาม

“ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการ แต่อีกเดี๋ยวเปรี้ยวก็จะมารับฉันไปทำงานแล้ว ฉันไม่อยากเสียเวลา”

“งั้นให้ผมนอนกอดเมด้าเฉย ๆ ได้ไหมสักสิบนาที ไม่สิ! ห้านาทีก็พอ ก่อนที่พวกเราจะห่างกันหลายชั่วโมง” เสียงออดอ้อนเอ่ยพร้อมกับใช้มือหนาโอบเอวคอดเข้ามาใกล้ และใช้อีกมือเชยคางมนให้สบตากัน โน้มใบหน้าไปหาเพื่อหวังจะจูบ แต่สาวหุ่นยนต์กลับเบือนหน้าหลบ

“แค่...นอนเฉย ๆ ใช่ไหม”

“อืม นอนกอดเฉย ๆ ก็พอ”

“แค่ห้านาทีนะ” เธอหันมาถามย้ำ

“ครับ แค่ห้านาที”

ผมจูงแฟนสาวมายังเตียงหลังใหญ่ในห้องนอน เป็นฝ่ายนั่งบนฟูกก่อน แล้วดึงตัวเธอมานั่งตักพากันเอนหลังล้มลงไป จัดแจงนอนในท่าสบาย แต่ร่างบางดันพลิกหันหลังให้ ผมเลยต้องเริ่มเป็นฝ่ายรุก

“ที่รักของผม” มือข้างหนึ่งช้อนใต้ร่างเพรียวบาง ส่วนอีกมือรวบกลุ่มผมยาวสยายพาดบนคอระหง ก่อนจะเลื่อนมากอดกระชับบนเอวคอด แล้วประทับริมฝีปากรูปหยักลงบนท้ายทอย สูดดมกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ เข้าเต็มปอด พวกเราใกล้ชิดมากที่สุดในรอบสองเดือน ผมเหมือนคนโรคจิต...เพราะยิ่งดมมากเท่าไหร่ ความรุ่มร้อนก็เริ่มแผ่ซ่าน กลัดมันเสียจนร่างกายเริ่มควบคุมไม่อยู่ คงของขาดมาสองเดือนมั้ง...ร่างกายมันถึงได้สตาร์ทไว

“เดี๋ยวกล้า!! จะทำอะไร”

เสียงเล็กห้ามในขณะที่มือหนาสอดใส่เข้าไปใต้เสื้อล้วงขึ้นไปถึงขอบบราเซียร์โดยไม่ทันตั้งตัว มือบางพยามจะดึงมือหนาออก แต่เรื่องอะไรผมจะหยุดกลางคัน...เลื่อนขึ้นไปถึงจุกยอดแข็งก็ลงนิ้วบี้บดกระตุ้นทันที

“อ่าห์!!”

คนตัวเล็กกระตุกนิด ๆ พลางครางในลำคอ แต่ไม่วายยังพยายามจะดึงมือผมออกอีก แต่คนอย่างไอ้กล้า...ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ไม่ปล่อยโอกาสทองทิ้งหรอก ขืนไม่ทำต่อสิ...วันข้างหน้าคงไม่ได้แม้แต่จับกีเธอ

“อ่ะ! ไหนบอกนอนเฉย ๆ ไง” เสี้ยวใบหน้าสวยเบนมาจิกตาใส่ ถ้าเป็นเวลาอื่นผมคงเกรงใจไม่อยากให้เธอโกรธ แต่เวลานี้มันไม่ใช่! ร่างกายเธอเองก็ร้อนผ่าว หัวจุกที่บีบอยู่ก็แข็งกว่าเก่า...แต่เจ้าตัวยังฝืน

“นะครับ มาถึงขนาดนี้แล้วยอมเถอะนะ” ไอร้อนจากปากเป่าใส่กกหูหญิงสาว เธอถึงกับหลับตาพริ้ม เม้มริมฝีปากสีแดงสดแน่น

เย้ายวนเป็นบ้า! ถ้าวันนี้ไม่ได้ทะลวงกีเธอ อย่ามาเรียกผมมาเฟียก็แล้วกัน

อารมณ์กลัดมันทนไม่ไหว! มือข้างที่ยังว่างเปลี่ยนไปจับกุมสองมือเล็กให้พ้นทาง ส่วนมือใต้บราก็บีบเค้นอกอิ่มอย่างเมามัน จนช่วงล่างของคนตัวเล็กอยู่ไม่สุข เริ่มขยับขาพันเกี่ยวไปมา บ่งบอกว่าเธอเองก็เต็มไปด้วยไฟปรารถนาไม่ต่างอะไรกับผม

แน่ใจว่าเธอยินยอม...ผมจึงยกตัวขึ้น จับไหล่บางให้พลิกมานอนหงาย ผมสยายยาวสีเงินเทาแผ่กระจายเต็มเตียงตัดกับผ้าปูที่นอนสีขาวมันช่างยั่วยวนให้ละสายตาไม่ได้ แต่ใบหน้าแดงระเรื่อกลับเบือนหนีไปทางอื่น ไม่กล้าหันมาสบตาตรง ๆ

“ผมรักเมด้านะครับ”

จังหวะที่แก้มอมชมพูเบือนหน้ากลับมา ผมก็ใช้ริมฝีปากหนาครอบครองริมฝีปากสีแดงทันที เป็นครั้งแรกที่แลกเปลี่ยนความนุ่มหยุ่นของกันและกัน มันช่างวิเศษเหลือเกิน หัวใจผมเต้นตึกตักยิ่งกว่าวัยรุ่นไม่ประสากับจูบครั้งแรก แต่จริง ๆ ประสบการณ์โชกโชนยิ่งกว่าอะไร ฉายาเจ้าชู้ไม่ได้มาเพราะคำเรียกดูเท่ แต่แลกมากับการเป็นคนเหี้ยที่ฟันหญิงไม่เลือก

วินาทีที่ผมผ่อนแรงออกจากข้อมือบาง จู่ ๆ เธอก็ผลักตัวผม ทำให้ริมฝีปากผละออกจากกัน ผมมองใบหน้าเรียบเฉยด้วยความไม่สบอารมณ์ เพราะเธอเหมือนจะไม่ยอม...อย่าบอกนะว่าผมต้องกินแห้วอีกแล้ว โธ่เว้ย!