สงครามซาตาน ล่าพยัคฆ์

81.0K · ยังไม่จบ
-
50
บท
13.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

กวนอิมหลับตาแผ่เมตตา แสดงความปรานี!ซาตานก้มหัว แสดงพลังเลือดนอง!ในนามของซาตาน อุทิศตนเพื่อการสังหาร เขาจะเป็นผู้ชายที่แกร่งที่สุดคนนั้น! เมืองนครที่รุกเป็นไฟ มาดูกันว่าชายผู้นี้จะสร้างตำนานความยิ่งใหญ่ อำนาจเหนือๆใดๆในจุดสูงสุดได้อย่างไร!

นิยายแฟนตาซีเทพสงครามทหารราชันย์รบพลิกชีวิตพระเอกเก่ง

บทที่ 1 หนีตาย

ใจกลางป่าฝนแอมะซอน ทวีปอเมริกาใต้

ปังๆๆ!

เสียงปืนกลยิงระรัว!

จู่ๆ ใจกลางป่าแอมะซอนที่ควรเงียบสงบโดนทำลายด้วยเสียงปืนดังระรัว กลางป่าแอมะซอนที่อากาศชื้น เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนแสบจมูกทันที

สวบ!

จู่ๆ มีเงาคนหนึ่ง รูปร่างผอมสูงวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูกคือสองคน อีกคนอยู่บนหลังเขา ดูจากรูปร่างบอบบางนั่นแล้ว น่าจะเป็นผู้หญิง!

ถึงแบกคนอยู่หนึ่งคน แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงความเร็วและการเคลื่อนตัวของเขาเลย เขาเคลื่อนไหวเร็วดั่งสายลม อีกทั้งยังเงียบมากด้วย

เสียงปืนดังระรัวด้านหลังไกลออกไปเรื่อยๆ เงาคนคนนี้ค่อยๆ ชะลอฝีเท้าลง หลังจากมองดูรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง เขาชะงักฝีเท้าลงที่พุ่มไม้เตี้ยๆ

เย่จวินล่างค่อยๆ วางผู้หญิงที่แบกอยู่ลงบนพื้น ผู้หญิงคนนี้อยู่ในวัยที่กำลังสวยสะพรั่ง ดวงตาทั้งสองข้างหลับสนิท เหมือนสลบไปอย่างไรอย่างนั้น

ถึงเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถบดบังหน้าตาอันงดงามประดุจบัวผุดขึ้นเหนือน้ำของเธอได้

ใบหน้าขาวเนียนราวกับหยกบริสุทธิ์ ดูเป็นธรรมชาติ งดงามเป็นอย่างมาก ความงดงามเช่นนี้หมายถึงขั้นสุดของความงาม

เย่จวินล่างตรวจดูการทำงานของร่างกายผู้หญิงคนนี้ หลังจากแน่ใจแล้วว่าเธอไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาจึงพูดใส่หูฟังด้วยเสียงเบาว่า “หวังชาวๆ ทราบแล้วเปลี่ยน!”

ผ่านไปนาน ในหูฟังก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ

ทำให้ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยสีน้ำมันของเย่จวินล่างตึงเครียด เขาติดต่อเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน แต่ก็ไม่มีการตอบกลับเหมือนเดิม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมายถึงอะไร

เย่จวินล่างสูดหายใจลึก เขาติดต่อเพื่อนร่วมทีมคนสุดท้าย “กางจื่อๆ ทราบแล้วเปลี่ยน!”

เมื่อพูดจบ เสียงเย็นชาน่ากลัวดังขึ้นในหูฟังทันที

“นายหนีไม่พ้นหรอก!”

แซ่ด!

พอเสียงนี้ดังขึ้น เสียงแสบแก้วหูดังมาจากหูฟังของเย่จวินล่างทันที เหมือนหูฟังของอีกคนโดนคนบีบจนแตกอย่างไรอย่างนั้น

เย่จวินล่างกำหมัดทันที นัยน์ตาขุ่นมัวมีเส้นเลือดสีแดงปรากฏขึ้น กลิ่นเลือดจากความอาฆาตรุนแรงแผ่ซ่านออกมารอบตัวเขา ความอาฆาตนั่นเหมือนปล่องภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุทุกเมื่อ

เย่จวินล่างถอดหูฟังออก สีหน้าเขาเย็นชามาก เขาระงับความอาฆาตพลุ่งพล่านไว้ ดูใจเย็นและสุขุมขึ้นเยอะ

คนที่รู้จักเขาล้วนรู้ว่าเขาในสภาพแบบนี้น่ากลัวที่สุด

เมื่อซาตานโมโห เกิดการนองเลือดแน่นอน!

นี่ไม่ใช่ชื่อเสียงจอมปลอม แต่ต้องผ่านสงคราม การเข่นฆ่านองเลือดนับไม่ถ้วน ถึงจะมีชื่อเสียงอำนาจมากมายในโลกแห่งความมืดมิดแห่งนี้ได้

เย่จวินล่างตรวจดูบาดแผลเล็กใหญ่บนตัว เขามีแผลทั้งตัว ขยับเพียงเล็กน้อยก็สามารถสะเทือนบาดแผลบนร่างกาย แล้วทำให้เลือดซึมออกมาไม่หยุด

จะพาผู้หญิงที่สลบอยู่หนีออกจากกับดักมากมายของศัตรู เป็นอะไรที่ยากมาก

แต่ในพจนานุกรมของเย่จวินล่าง ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” !

ไกลออกไปหลายกิโลเมตร

พื้นที่ในป่าที่ผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาอย่างเห็นได้ชัด

ชายที่มีหนวดเครากำลังถือหูฟัง เขาตัวสูงใหญ่ สวมชุดลายพราง ถลกแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้น เผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ สนามรบข้างหน้าเขามีทหารของประเทศหัวล้มอยู่หนึ่งคน แขนขาไม่สมบูรณ์แล้ว ทว่าบนใบหน้าที่ไหม้เกรียมด้วยเขม่าปืนมีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

“แค่คนเดียวเอง ท่ามกลางการปิดล้อมของฉัน เขายังฆ่าทหารของฉันไปได้สิบห้าคน เหลือเชื่อจริงๆ แต่สงครามนี้ควรสิ้นสุดแล้วล่ะ ยังมีคนที่หนีรอดไปได้อีก”

ชายที่มีหนวดเคราเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา จากนั้นแววตาเขาโหดเหี้ยม ความกระหายเลือดพลุ่งพล่าน เขาตะโกนเสียงดังว่า “คนที่หนีรอดไปได้อยู่ที่ตำแหน่งสิบสองนาฬิกา เขาพาผู้หญิงคนหนึ่งหนีไปได้ไม่ไกล! รีบแจ้งทีมสี่และทีมห้าที่อยู่ข้างหน้า ตัดเส้นทางข้างหน้าของเขาทั้งสองด้าน งูกะปะ แมงป่อง พวกนายสองคนรีบพาทหารไปปิดล้อมให้เร็วที่สุด ไม่ว่ายังไงก็ตาม ห้ามให้อีกฝ่ายพาผู้หญิงคนนั้นออกไปเด็ดขาด! ผู้หญิงคนนั้นมีมูลค่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ!”

“รับทราบครับหัวหน้า!”

ชายสองคนที่อยู่บริเวณสนามรบตอบกลับ พวกเขาสองคนถืออาวุธในมือ ดูโหดเหี้ยมน่ากลัวมาก บนตัวมีกลิ่นอายของการสังหาร เป็นคนโหดเหี้ยมที่ผ่านสนามรบมาเยอะแล้วแน่ๆ

ชายที่มีโค้ดเนมว่างูกะปะกับแมงป่องรวมกลุ่มทหารเกือบยี่สิบคน เคลื่อนตัวติดตามไปอย่างรวดเร็ว โดยมีป่าไม้รอบๆ เป็นที่กำบัง

ชายที่มีหนวดเคราเดินไปด้านหน้าเช่นกัน ตอนเดินผ่านหน้าศพทหารประเทศหัวที่พลีชีพจนแขนขาขาด เขาโยนหูฟังที่ถูกบีบจนแตกทิ้งลงไป

เมื่อกี้เขาได้ยินเสียงดังออกมาจากหูฟัง เขาเลยหยิบขึ้นมาฟัง

......

พื้นที่กว้างกลางป่าลึก

ตอนซูหงซิ่วฟื้นขึ้นมา เธอรู้สึกว่าแสบตามาก แพขนตาขยับอยู่หลายครั้ง หลังจากปรับสายตาได้แล้วจึงเพ่งมอง ตัวเองกำลังนอนบนพื้นแห้งๆ ต้นไม้รอบๆ สูงเสียดฟ้า แสงอาทิตย์ร้อนระอุส่องผ่านใบไม้หนาลงมาเป็นเงาริบหรี่

ที่นี่คือที่ไหน?

สายตาซูหงซิ่วตึงเครียดขึ้นมาทันที ในแววตาใสเป็นประกายมีความตื่นตระหนก

ความทรงจำก่อนสลบของเธอหยุดอยู่ที่เสียงระเบิดดังสนั่น จากนั้นเธอก็สลบไป ก่อนสลบเธอรู้สึกถึงมือที่ทรงพลังและอบอุ่นกอดเธอไว้ หลังจากนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรแล้ว จนกระทั่งฟื้นขึ้นมาตอนนี้

“ฟื้นแล้วเหรอ?”

จู่ๆ เสียงขรึมและเต็มไปด้วยเสน่ห์ดังขึ้น

ซูหงซิ่วรีบหันไปตามเสียง เห็นเงาคนยืนอยู่เหมือนหอกแหลมตรงพื้นที่ว่างข้างหน้า ห่างออกไปหลายเมตร

พอเห็นเงาคนนี้ เธอรู้สึกอุ่นใจทันที เหมือนจอกแหนไร้รากเจอปลายทาง ความตระหนกและหวาดกลัวในใจลดลงไปเยอะ ความปลอดภัยและโล่งอกผุดขึ้นในใจ

แต่วินาทีต่อมา ซูหงซิ่วรู้สึกเหมือนโดนเข็มแทงใจ ความรู้สึกเจ็บแปลบมาเป็นระยะ ขอบตาแดงโดยไม่รู้ตัว น้ำตาหยดใสรื้นขึ้นมา

เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือผู้ชายข้างหน้าไม่สวมเสื้อผ้า ดังนั้นสิ่งที่เห็นคือบาดแผลเล็กใหญ่เต็มไปหมด บางแผลยังมีเลือดไหลซึมออกมา แผลพาดไปพาดมา เหมือนภาพการนองเลือด สยองขวัญเป็นอย่างมาก

ชายคนนี้ถือมีดทหารอยู่ในมือ เขากำลังปาดบาดแผลที่มีเลือดเนื้อผสมกันที่ข้างเอว

บนพื้นมีกองไฟ หลังจากชายคนนี้เผามีดทหารจนแดง เขาก็ปาดลงที่บาดแผล ตัดเนื้อเน่าจากแผลพุพองจนอักเสบทิ้ง จากนั้นสอดมือไปข้างใน เหมือนจะเอาหัวกระสุนหรือเศษที่ฝั่งอยู่ข้างในออกมา

พอเห็นภาพนี้ ซูหงซิ่วรู้สึกเป็นกังวล เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลย

เธอรู้สึกปวดใจมาก อยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ระหว่างทางที่หนีมา ถ้าไม่ได้ผู้ชายคนนี้คอยปกป้อง เธอคงอยู่ในมือกองกำลังติดอาวุธพวกนั้นแล้ว จุดจบคงอนาถกว่าความตายเยอะมาก

เธอเป็นหญิงแกร่งในสายตาคนอื่นมาตลอด แล้วก็เป็นนางฟ้าเย็นชาในสายตาคนอื่นด้วย ความรู้สึกเธอหวั่นไหวน้อยมาก แต่ระหว่างทางหนีตาย เธอเห็นความกล้าหาญ ความรับผิดชอบ และไร้ความเกรงกลัวของผู้ชายคนหนึ่ง เธอจะไม่รู้สึกประทับใจกับสิ่งนี้ได้ยังไง

พรวด!

ขณะนั้นเย่จวินล่างดึงหัวกระสุนออกมาจากบาดแผลเละข้างเอว เขาใช้สองนิ้วหนีบหัวกระสุนแล้วโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นหันมามองซูหงซิ่วที่นั่งบนพื้นแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “ตรงหน้าเธอมีน้ำ แล้วก็พวกผลไม้ป่า รากพืช กินซะสิ รสชาติอาจไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่กินไม่ได้จนหิวตาย เธอมีเวลาแค่ห้านาทีเท่านั้น”

เย่จวินล่างพูดแล้วเดินไปด้านข้าง ตัดเสื้อกล้ามทหารเป็นเศษผ้าและพันแผลข้างเอว

หลังจากเอาหัวกระสุนที่ข้างเอวออกแล้ว เขารู้สึกสบายขึ้นเยอะ ถ้าไม่เอาหัวกระสุนนี่ออก นอกจากจะเป็นปัญหาต่อการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว บาดแผลจะอักเสบด้วย อยู่ในป่าชื้นแบบนี้ เขารู้ดีว่าถ้าแผลอักเสบขึ้นมา ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง

ซูหงซิ่วกัดฟัน ระหว่างทางหนีตาย เธอชินกับน้ำเสียงที่เหมือนคำสั่งของผู้ชายคนนี้แล้ว ถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี้คงเหลือเชื่อมากจริงๆ

รู้ไหมว่าในเมืองใหญ่อันรุ่งเรืองที่เธออาศัยอยู่ เธอเปรียบเสมือนนางฟ้า ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่ประจบสอพลอเธออย่างนอบน้อมและสุภาพ

จะมีใครเหมือนไอ้หมอนี่ล่ะ ใบหน้าเย็นชา ท่าทีเคร่งขรึม อีกทั้งยังดูเผด็จการมาก

ซูหงซิ่วหิวมากเหมือนกัน เธอหยิบกระบอกน้ำของทหารขึ้นมาดื่มอึกๆ มองพวกผลไม้ป่าบนพื้น เธอกัดฟันแล้วหยิบมันเข้าปาก

ผลไม้ป่าพวกนี้ยังไม่สุก รสฝาดและแอบขมเล็กน้อย ไม่อร่อยเลยสักนิด แต่ซูหงซิ่วก็กินจนหมด

จากนั้นเธอลุกขึ้นเดินไปพื้นที่ว่างตรงหน้า ถือโอกาสตอนที่เย่จวินล่างไม่เห็น ก้มเก็บหัวกระสุนเปื้อนเลือดบนพื้นขึ้นมากำไว้ในมือ

ตอนนี้เย่จวินล่างพันแผลข้างเอวเสร็จแล้ว เขาสวมชุดลายพรางอีกครั้ง จากนั้นหันมามองซูหงซิ่ว กระโปรงยาวของผู้หญิงคนนี้ขาดหลายจุด โดยเฉพาะตรงขา รอยขาดยาวตรงปลายกระโปรง ทำให้เรียวขาเนียนสวยภายใต้กระโปรงโผล่ออกมา ดึงดูดตาเป็นอย่างมาก

แม้เย่จวินล่างผ่านหญิงงามจนน่าทึ่งมาไม่น้อย แต่พอคิดดูดีๆ ไม่ว่าจะเป็นความงามหรือออร่า แทบไม่มีใครสู้ผู้หญิงคนนี้ได้เลย

เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่ดูจากออร่าของอีกฝ่าย ฐานะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ โชคดีที่ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความบอบบางแบบลูกคุณหนู ระหว่างทางหนีตาย ถือว่าเธอแข็งแกร่งและใจเย็น ถือว่าช่วยเขาได้โดยไม่รู้ตัว

ภารกิจของเขาคือปกป้องผู้หญิงคนนี้ออกจากวงล้อมของทหารฝ่ายศัตรู รอจนกระทั่งกำลังเสริมจะมาถึง

“เฮือก!”

เย่จวินล่างสูดหายใจทันที นับดูแล้ว น่าจะถึงเวลาแล้วล่ะ

เขาลุกขึ้นยืน ถือเสื้อเกราะกันกระสุนที่ถอดออกมา เดินมาข้างหน้าซูหงซิ่วแล้วพูดว่า “ใส่ไว้”

“ไม่ นายจำเป็นต้องใช้มันมากกว่าฉัน” ซูหงซิ่วเอ่ยขึ้น

“ใส่ไว้!”

เย่จวินล่างเสียงขรึม ดูมีอำนาจสุดๆ

“นาย”

ซูหงซิ่วแอบโมโหในใจ สุดท้ายเธอก็รับเสื้อเกราะกันกระสุนมาใส่

“ตามฉันมา!”

เย่จวินล่างเอ่ยขึ้น สีหน้าเคร่งขรึม ใบหน้าห้าวหาญดูใจเย็น นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดมีความอาฆาตน่ากลัวฉายออกมา เขาถือปืนไรเฟิล The M99 เดินไปตามแนวป่า แต่เส้นทางไม่ได้ไปข้างหน้า แต่เป็นเส้นทางย้อนกลับ!

ซูหงซิ่วรู้สึกตกใจ เธอรู้ว่าต่อจากนี้ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอีก

เพราะเธอรู้สึกถึงกลิ่นอายความใจเย็น สุขุม นิ่งเมื่อเจอกับอันตราย กลิ่นอายก่อนจะทำสงครามจากตัวของเย่จวินล่าง!

…...