บท
ตั้งค่า

6 โอกาส

สองวันผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ในใจของญาณิดากลับเต็มไปด้วยเรื่องราวในค่ำคืนนั้น ใบหน้าคมคายของธันวายังคงวนเวียนอยู่ในความคิด แม้เธอพยายามสลัดมันทิ้งไปและบอกตัวเองว่ามันเป็นเพียงวันไนท์สแตนด์ที่ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น แต่ความรู้สึกบางอย่างในอกกลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง

เช้าวันนี้ออฟฟิศเอสดับบลิวโฮมส์วุ่นวายเหมือนกับทุกวัน เสียงของพนักงานพี่พูดคุยดังมาเป็นระยะ แต่สมาธิของญาณิดาไม่ได้อยู่กับตัวเลยเธอกำลังสับสนกับเรื่องที่ผ่านมา

เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นซึ่งเป็นสายจากภายในทำให้หญิงสาวรีบยกหูรับสายทันที

“สวัสดีค่ะ” เธอรับสายด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ดรีมเข้ามาหาที่ห้องหน่อยสิ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงของ สมเกียรติดังมาจากปลายสาย

“ได้ค่ะคุณสมเกียรติ ดรีมจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ญาณิดารีบวางสายและตรงไปยังห้องทำงานของคุณสมเกียรติทันที

“นั่งก่อนสิ” สมเกียรติผายมือไปยังเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะ ญาณิดานั่งลงอย่างเรียบร้อย

“ที่คุณสมเกียรติเรียกดรีมมามีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามด้วยความเกรงใจ

“ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ ทางบริษัทใหญ่แจ้งมาว่าต้องการมัณฑนากรจากบริษัทเราไปช่วยงานออกแบบภายในโรงแรมแห่งใหม่ที่ประเทศเวียดนาม” คุณสมเกียรติพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ญาณิดาถึงกับตาโตด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นโอกาสที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับมัณฑนากรที่จะได้ไปทำงานในระดับนานาชาติ

“นี่เป็นโอกาสดีมากเลยนะคะ” ญาณิดาพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ใช่แล้ว และทางบริษัทใหญ่ก็อยากให้ดรีมเป็นคนรับผิดชอบงานนี้”

คำพูดของคุณสมเกียรติทำให้ญาณิดาถึงกับนิ่งอึ้ง เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ การได้ไปทำงานออกแบบโรงแรมในต่างประเทศ ถือเป็นความฝันของมัณฑนากรหลายๆ คน และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น

“ดรีมเหรอคะ” ญาณิดาถามด้วยความไม่แน่ใจ

“ใช่แล้ว ทางบริษัทใหญ่พิจารณาจากผลงานและความสามารถของคุณแล้วเห็นว่าเหมาะสมที่สุด” คุณสมเกียรติยืนยัน

ญาณิดารู้สึกดีใจจนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ นี่คือสิ่งที่เธอต้องการมาตลอด การพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานชิ้นสำคัญ

“ขอบคุณมากนะคะคุณสมเกียรติ ดรีมจะตั้งใจทำงานนี้ให้ดีที่สุดค่ะ” ญาณิดาตอบรับด้วยความมุ่งมั่น

“ดีมาก รายละเอียดต่างๆ ทางบริษัทใหญ่จะส่งมาให้อีกที ส่วนเรื่องการเดินทางและที่พัก ทางบริษัทจะจัดการให้ทั้งหมด”

“ค่ะ” ญาณิดาตอบรับ เธอรู้สึกราวกับว่าเมฆหมอกแห่งความผิดหวังที่เคยปกคลุมใจได้จางหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่เพียงความตื่นเต้นและความหวังในอนาคต

แต่แล้วประตูห้องผู้จัดการก็ถูกกระชากเปิดออกอย่างแรง โดยไม่ต้องมีการเคาะใดๆ ศิวกร ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าบึ้งตึงบอกถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นภายใน

“คุณสมเกียรติ นี่มันหมายความว่ายังไงครับ” ศิวกรตะโกนเสียงดัง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง

“กรนี่ห้องทำงานผมนะ คุณไม่มีมารยาทเลย” คุณสมเกียรติ มองศิวกรด้วยความไม่พอใจกับการที่เขาเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต

“มารยาทอะไรกันครับ เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นนี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะ ทำไมผมถึงไม่ได้ไปเวียดนามทั้งที่ผมทำงานที่นี่มาก่อนดรีมนะครับคุณสมเกียรติ”

ญาณิดารู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเธอนั่งนิ่งไม่โต้ตอบคำพูดของศิวกร

“ใจเย็นๆ ก่อนสิกร เรื่องนี้ทางบริษัทใหญ่เป็นคนตัดสินใจ”

“ตัดสินใจอะไรครับ ผมต่างหากที่เป็นมัณฑนากรอาวุโส ผมทำงานมานานกว่ายัยดรีมมันตั้งกี่ปี ประสบการณ์ผมก็มากกว่า แล้วทำไมถึงเลือกผม” ศิวกรยังคงโวยวายไม่หยุด ความอิจฉาริษยาทำให้เขาตาบอด

“แต่ตอนนี้คุณก็รับผิดชอบโครงการบ้านจัดสรรของคุณธวัชอยู่ไม่ใช่เหรอ” คุณสมเกียรติเตือนความจำ

“แล้วไงครับ งานออกแบบภายในโรงแรมมันก็แค่จิ๊บๆ ผมทำได้สบายอยู่แล้ว คุณก็รู้ว่าผมมีความสามารถมากแค่ไหน” ศิวกรยังคงประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินจริง

ญาณิดาทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป เธอเงยหน้าขึ้นมองศิวกรด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ผิดกับเมื่อก่อนที่เธอจะคอยหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา

“พี่กรคะ พี่ก็รู้ดีว่าทำไมพี่ถึงไม่ได้ไป” ญาณิดาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น

“เธอหมายความว่ายังไง” ศิวกรหันขวับมามองญาณิดาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดแบบนี้กับเขา

“ก็หมายความว่ากรรมมันตามทันน่ะค่ะ พี่เล่นไม่ซื่อมาตั้งแต่แรก ด้วยการแย่งผลงานของดรีมไป แอบอ้างว่าเป็นของตัวเอง แล้วยังแกล้งทำเป็นให้เครดิตดรีมในฐานะผู้ช่วย” ญาณิดาตอบอย่างไม่เกรงกลัว สีหน้าของเธอนิ่งสนิท

คำพูดของญาณิดาทำให้ศิวกรถึงกับนิ่งอึ้ง ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงทันทีเมื่อถูกเปิดโปงความจริงต่อหน้าผู้จัดการ

“นี่เธอพูดเรื่องอะไร” ศิวกรพยายามปฏิเสธ แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความผิดที่ซ่อนอยู่

“ดรีมพูดเรื่องอะไร พี่กรรู้ดีที่สุดค่ะ พี่คิดว่าดรีมไม่มีหลักฐานเหรอคะ คิดว่าดรีมจะยอมให้พี่เอาเปรียบไปตลอดชีวิตเหรอ” ญาณิดากล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

คุณสมเกียรตินั่งฟังเงียบๆ ตั้งแต่ต้น แววตาของเขาฉายแววผิดหวังในตัวศิวกรอย่างชัดเจน เขาเชื่อในสิ่งที่ญาณิดาพูด เพราะเขารู้ดีว่าญาณิดาเป็นคนตรงไปตรงมาและมีหลักฐานยืนยันที่เธอเคยนำเสนอไปแล้ว

“พอได้แล้วกรเรื่องงานออกแบบบ้านคุณธวัชผมยังไม่ได้สะสางกับคุณเป็นการภายในนะ” คุณสมเกียรติเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

คำพูดของผู้จัดการทำให้ศิวกรถึงกับหน้าถอดสี เขาเพิ่งรู้ว่าคุณสมเกียรติยังคงติดใจเรื่องนั้นอยู่ และอาจจะดำเนินการบางอย่างกับเขาในภายหลัง

“แต่ว่า...” ศิวกรพยายามแก้ตัว แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“ไม่มีแต่ คุณไปได้แล้วกร ผมมีเรื่องต้องคุยกับดรีมต่อ”

ศิวกรกัดฟันแน่น เขามองญาณิดาด้วยความอาฆาตแค้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปด้วยความไม่พอใจ

เมื่อประตูห้องปิดลง ญาณิดาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอรู้สึกโล่งใจที่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นมานานออกไป แม้จะรู้ว่าศิวกรจะต้องโกรธแค้นเธอมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็ไม่เสียใจที่ได้พูดความจริง

“ผมขอโทษนะ ที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณสมเกียรติ ดรีมเข้าใจค่ะว่าคุณต้องคำนึงถึงบริษัท”

“แต่ผมคิดว่าคุณเป็นคนมีความสามารถจริงๆ และโปรเจกต์โรงแรมที่เวียดนามนี่แหละ จะเป็นโอกาสให้ดรีมได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่”

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณสมเกียรติ ดรีมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ” ญาณิดายิ้มให้ผู้จัดการ

หลังจากพูดคุยเรื่องงานต่ออีกเล็กน้อย ญาณิดาก็ขอตัวกลับไปทำงานที่โต๊ะของเธอ การได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในงานใหม่ ก็ถือเป็นการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแท้จริง
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel