บ่สมเขา(2)
“บักน้ำครับ มึงเว่าหยังกะเบิ่งหมู่เฮาแน มันขี้ฮ่ายปานนี้ มีลูกติดอีกต่างหาก น้องข้าวหอมสิเอามันติครับเพื่อน เขาน่ะผู้สาวกรุงเทพ งามกะงาม สิสนใจหมาวัดจั่งหมู่เฮาติ” (ไอ้น้ำครับ มึงพูดอะไรก็ดูเพื่อนเราหน่อย มันขี้เหร่ขนาดนี้ มีลูกติดอีกต่างหาก น้องข้าวหอมจะเอามันเหรอครับเพื่อน เขาน่ะสาวกรุงเทพ สวยก็สวย จะสนใจหมาวัดแบบเพื่อนเราเหรอ)
โตพูดเหน็บแนม ทว่ามันเป็นเรื่องจริง
“เขาบอกกูแล่วว่าสิบ่กลับมาให้กูเห็นหน้าอีก ตั้งแต่เทื่อนั่นเขากะบ่เคยกลับมาบ้านอีกเลย สูกะเห็นแล่วเขากะมีผู้บ่าวใหม่ เขาไปได่ดีแล่ว” (เขาบอกกูแล้วว่าจะไม่กลับมาให้กูเห็นหน้าอีก ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่เคยกลับมาบ้านอีกเลย พวกมึงก็เห็น แล้วเขาก็มีแฟนใหม่ เขาไปได้ดีแล้ว)
“บ่แม่นสิห้าปีแล้วติวะ” (ไม่ใช่ว่าจะห้าปีแล้วเหรอวะ) เอกยกนิ้วขึ้นมานับ “โดนอยู่เด้นิ มื่อได๋เขาสิกินดองวะ” (นานอยู่นะ เมื่อไหร่เขาจะแต่งงานวะ)
“บ่แม่นใกล้แล้วติ” (ไม่ใช่ใกล้แล้วเหรอ) โตพูด
“ขั่นเขามาจัดงานแต่งบ้านเฮามึงสิไปบ่วะเพื่อน” (ถ้าเขามาจัดงานแต่งงานที่หมู่บ้านเรามึงจะไปหรือเปล่าวะเพื่อน) เอกถามด้วยความอยากรู้ ขณะที่คนเริ่มจุดประเด็นเงียบลง เจ้าของเรื่องนั่งกระดกเหล้ารัว ๆ
“เว่าไปแล่ว แม่บุญจันทร์เลากะใจดีเด๊ะ ยังจ้างให้เฮือนมึงไปเกี่ยวให้ เป็นเฮือนอื่นเขาสิเป็นจั่งซี่ติวะ เลาใจดีอีหลีวะ” (พูดไปแล้วย่าบุญจันทร์แกก็ใจดีเนอะ ยังจ้างให้บ้านมึงไปเกี่ยวข้าวให้ เป็นบ้านอื่นเขาจะดีแบบนี้เหรอ แกใจดีจริงๆ)
“ซุมสูเบิดแนวสิเว่ากันเบาะ มาเว่าหยังเรื่องกู” (พวกมึงหมดเรื่องพูดกันแล้วเหรอ มาพูดอะไรเรื่องกู) พร้อมสุดจะทน พยายามเก็บเรื่องนี้ไว้ลึกสุด ไม่อยากพูดถึงเพราะเป็นเรื่องที่นึกถึงแล้วเสียใจที่สุด
“เหล้าสิเบิดแล้วไปซื้อร้านแม่บุญจันทร์แหน่นา” (เหล้าจะหมดแล้ว ไปซื้อร้านแม่บุญจันทร์หน่อย) น้ำตักต้มปลาช่อนใส่ถ้วยมาวางกลางวงเหล้า
“ไปซื้อแม่มันหยังฮอดในบ้าน โรงสีกะซื้อได้” โตย้อนถาม ทุกทีที่เหล้าไม่พอก็ซื้อโรงสีหน้าปากทาง หรือไม่ก็ไปซื้อหมู่บ้านใกล้ ๆ ไม่จำเป็นต้องขับรถกลับเข้าหมู่บ้านเพื่อไปซื้อเหล้า
“มึงไปบ่” น้ำจ้องหน้าพร้อม
“บ่ กูอยากอายแม่บุญจันทร์กับพ่อใหญ่บ้าน” (ไม่ กูอายแม่บุญจันทร์กับผู้ใหญ่บ้าน)
ตั้งแต่ที่เขาทำข้าวหอมเสียใจ พร้อมก็ไม่กล้าที่จะไปเหยียบร้านค้าย่าบุญจันทร์อีกเลย ทั้งที่เมื่อก่อนแทบจะซื้อแต่ร้านนั้น เรียกเพื่อนมาอุดหนุนย่า ไปช่วยขายด้วยอีกต่างหาก
“ขะสั่นกะแล่วแต่มึงเลยเพื่อน” (ถ้างั้นก็แล้วแต่มึงเลยเพื่อน) น้ำยิ้มพลางคิดในใจ ‘กูซอยมึงแล่ว มึงบ่เอาเอง มื่อลุนอย่ามาโทษกูแล่วกัน’ ‘กูช่วยมึงแล้ว มึงไม่เอาเอง วันหลังอย่ามาโทษกูแล้วกัน’
หลังจากนั้นเดอะแก๊งก็พากันเมาเหมือนเดิม เหล้าใกล้หมดเอกก็ออกไปซื้อหน้าโรงสีก่อนที่ร้านจะปิด เมาหนักเข้าหน่อยก็พากันเลื้อยคนละทิศคนละทาง
พร้อมแยกตัวออกมาจากเพื่อน มานอนหงายอยู่บนกองฟาง นอนมองท้องฟ้าที่มีดวงดาวส่องระยิบระยับ นึกถึงคนที่คอยนอนดูดาวอยู่ข้าง ๆ คนที่เขาได้ทำหลุดมือ ทำให้เธอเสียใจแทบจะขาดใจอยู่ตรงหน้าเขา
‘สิไปเรียนกรุงเทพอย่าหลงผู้บ่าวกรุงเทพเด้อ อ้ายบ่อยากให้อีหล่ามีผู้อื่น อ้ายฮักข้าวหลาย อย่าถิ่มอ้ายเด้อ ถ้าบ่มีข้าวอ้ายอยู่บ่ได้แท่ๆ’ {จะไปเรียนกรุงเทพอย่าหลงหนุ่มกรุงเทพนะ พี่ไม่อยากให้หนูมีคนอื่น พี่รักข้าวมาก อย่าทิ้งพี่นะ ถ้าไม่มีข้าวพี่อยู่ไม่ได้แน่ๆ}
‘เขาสิมีผู้อื่นได้จั่งได่ เขาฮักอ้ายพร้อมผู้เดียว ในหัวใจเขามีแต่อ้ายพร้อม ลืมติเฮาหมั่นกันแล้วเด้’ {เค้าจะมีคนอื่นได้ยังไง เค้ารักพี่พร้อมคนเดียว ในหัวใจเค้ามีแต่พี่พร้อม ลืมแล้วเหรอเราหมั้นกันแล้วนะ}
‘สิลืมได่จั่งได๋ อ้ายถ่าอีหล่าเรียนจบสิยกขันหมากไปขอ สิเอาให้ไทบ้านเว่ากันไปสิบบ้านแปดบ้านเลยว่าเฮาแต่งกันแล่ว อ้ายฮักอีหล่าเด้อ’ {จะลืมได้ยังไง พี่รอหนูเรียนจบจะยกขันหมากไปขอ จะทำให้ชาวบ้านพูดกันไปสิบบ้านแปดบ้านเลย ให้เขารู้ว่าเราแต่งงานกันแล้ว พี่รักหนูนะ}
‘เขาบ่อยู่บ้านอ้ายกะอย่าดื้อหลายเด้อ ฝากเบิ่งแงงย่ากับพ่อเขาแน เพิ่นเฒ่ากันแล่ว’ {เค้าไม่อยู่บ้านพี่ก็อย่าดื้อมากนักนะ ฝากดูแลย่ากับพ่อเค้าด้วยแกอายุเยอะกันแล้ว}
‘รับทราบครับที่ฮัก อ้ายสิไปร้านไปขายของซอยย่า ไปนาไปซอยพ่อหว่านข้าวดำนา สิเป็นลูกเขยที่โคตรดีเลย’ {รับทราบครับที่รัก พี่จะไปร้านไปขายของช่วยย่า ไปนาไปช่วยพ่อหว่านข้าวดำนา จะเป็นลูกเขยที่โคตรดีเลย}
‘จ้า เฮ็ดให้ได้คือจั่งเว่าเด้อ’ {จ้า ทำให้ได้อย่างที่พูดนะ}
‘แน่นอนครับ สาบานเลย’ {แน่นอนครับ สาบานเลย}
‘อ้ายพร้อม’ {พี่พร้อม}
‘จ๋า’
‘อ้ายเป็นของเขาแล่ว อย่าเฮ็ดแนวบ่ดีเด๊ะ ขั่นเขาฮู้เขาสิเครียดเลย สิบ่ปากนำอ้าย’ {พี่เป็นของเค้าแล้ว อย่าทำอะไรไม่ดีนะถ้าเค้ารู้เค้าจะโกรธ จะไม่พูดกับพี่เลย}
‘เมียอ้ายงามขนาดนี้ ดีขนาดนี้อ้ายสิไปสนใจผู้อื่นเฮ็ดหยัง มีเธอคนเดียวก็พอแล้วแก้วตาดวงใจของพี่’ {เมียพี่สวยขนาดนี้ ดีขนาดนี้พี่จะไปสนใจคนอื่นทำไม มีเธอคนเดียวก็พอแล้วแก้วตาดวงใจของพี่}
‘โอเค เขาสิเซื่อใจอ้าย’ {โอเค เค้าจะเชื่อใจพี่}
หวนคิดถึงคืนวันเก่าๆ น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ผ่านมาหลายปีที่เลิกรากัน แต่ก็ยังคิดถึงเพียงเธอ ตั้งแต่ที่เลิกกันเธอก็ไม่เคยพูดหรือมาให้เขาเห็นหน้าอีกเลย ไม่เคยกลับมาบ้าน ก็เข้าใจได้ เธอคงอายชาวบ้านที่เจอเรื่องแบบนั้น
และก็คงเกลียดเขามากที่ผิดคำสาบาน
‘ให้พระธาตุเป็นพยานฮัก ข้าพเจ้านายพร้อมณภัทร สะสมทรัพย์ ชาตินี้ขอสาบานสิฮักหมั่นฮักแพงหวงแหนนางสาวอัญญา มีมาก แต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากผิดคำสาบานขอให้ข้าพเจ้าไม่ตายดี’ {ให้พระธาตุเป็นพยานรัก ข้าพเจ้านายพร้อมณภัทร สะสมทรัพย์ ชาตินี้ขอสาบานว่าจะรักมั่นหวงแหนนางสาวอัญญา มีมาก แต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากผิดคำสาบานขอให้ข้าพเจ้าไม่ตายดี}
‘ข้าพเจ้านางสาวอัญญา มีมาก อยากขอถอนคำสาบานของนายพร้อมณภัทร สะสมทรัพย์หรืออ้ายพร้อม ถ่ามื่อได๋มื่อนึงอ้ายพร้อมกับข้าวเลิกกัน โดยที่อ้ายพร้อมเป็นคนผิดกะขอให้เราเลิกแล่วต่อกัน ต่างคนต่างไป อย่าได้พ่อหน้ากันอีกกะพอ บ่ต้องให้เพิ่นมีอันเป็นไปเลยเด้อจ้าปู่’ {ข้าพเจ้านางสาวอัญญา มีมาก อยากขอถอนคำสาบานของนายพร้อมณภัทร สะสมทรัพย์หรือพี่พร้อม หากว่าวันใดวันหนึ่งพี่พร้อมกับข้าวเลิกกันโดยที่พี่พร้อมเป็นคนผิด ก็ขอให้เราเลิกแล้วต่อกัน ต่างคนต่างไป อย่าได้พบเจอกันอีกก็พอ ขออย่าให้พี่พร้อมมีอันเป็นไปเลยนะเจ้าคะหลวงพ่อ}
‘เอ้า คือว่าจั่งซั่น อ้ายตั้งใจสาบานเลยเด๊ะ’ {เอ้า ทำไมพูดแบบนั้น พี่ตั้งใจสาบานเลยนะ}
‘กะเขาฮักอ้ายบ่อยากให้เป็นหยัง ขั่นมื่อหน้าอ้ายมีผู้อื่นเขากะอยากให้อ้ายมีชีวิตให้ดี’ {ก็เค้ารักพี่ไม่อยากให้พี่เป็นอะไรไป ถ้าวันหน้าพี่มีคนอื่นเค้าก็อยากให้พี่มีชีวิตต่อไปให้ดี}
‘อ้ายกะบ่ได้สิมีผู้อื่น อ้ายมีแต่ข้าว ฮักแต่ข้าว ฮักสิตายแล้ว อีหลีเดะ หล่าเซื่ออ้ายบ่’ {พี่ก็ไม่ได้จะมีคนอื่น พี่มีแค่ข้าว รักแค่ข้าว รักจะตายอยู่แล้ว จริงๆ นะ หนูเชื่อพี่มั้ย}
‘เขาเซื่ออ้าย บ่ต้องสาบานเขากะเซื่อ’ {เค้าเชื่อพี่ ไม่ต้องสาบานเค้าก็เชื่อ}
*แจ้งคุณนักอ่าน นิยายบทสนทนาเป็นภาษาอีสาน มีคำแปลต่อท้ายนะคะ ฝากติดตามผลงานไรท์ด้วยน้า ขอบคุณค่ะ
