ลิขิตรักราชินีปีศาจ (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

189.0K · จบแล้ว
ซีไซต์
178
บท
87.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เป่ยฟางหรงเป็นดาวมารมาจุติ หลี่จิ้งเทพอัคคีได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้มาเป็นอาจารย์ของนางเพื่อนำทางนางสู่หนทางแห่งธรรมะ หากทำไม่สำเร็จก็ให้สังหารนางเสีย แต่ว่าจอมมารน้อยผู้นี้งดงามยั่วยวนเป็นอย่างยิ่ง หลี่จิ้งจะทำเช่นไรเมื่อเป่ยฟางหรงกลายเป็นมาร และเขาจำเป็นต้องสังหารนาง ตัวอย่างบางตอน "คิดกักขังอาจารย์อีกหนึ่งข้อหาควรลงโทษเช่นไรดี" เป่ยฟางหรงดูดปลายติ่งหูของหลี่จิ้งแล้วเอ่ยว่า "เช่นนั้นก็แทงข้าดีหรือไม่เจ้าคะ แทงจนกว่าอาจารย์จะพึงใจ" หลี่จิ้งยกยิ้มเสียงของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อย "เห็นจะไม่ดี ดูเหมือนว่าเจ้าจะเริ่มเป็นปีศาจอีกแล้วเหตุใดชอบความรุนแรงแบบนี้นักเล่า" เป่ยฟางหรงย่อมไม่รู้ตัวว่าในยามนี้จิตใจของตนเองเป็นเช่นไร นางก็คือนางหาใช่ปีศาจเสียหน่อย ่ข้อหานี้นางไม่ยอมรับ แต่หากไม่ยอมรับหลี่จิ้งก็ไม่ทำโทษ เป่ยฟางหรงคิดทบทวนอย่างรวดเร็ว "ข้าอยากรับโทษ เช่นนั้นข้ายินยอมเป็นปีศาจเมื่ออยู่กับอาจารย์" เป่ยฟางหรงหัวเราะอ้อยอิ่ง น้ำเสียงของนางก็ดูโอ้โลมประดุจสตรีในนางโลมที่จิ้งหูเคยพามาให้เขาเสพสังวาสเป็นอย่างยิ่ง

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณแต่งงานสายฟ้าแลบองค์หญิงรักหวานๆดราม่าเจ้าสำนักจอมมารจีนโบราณพระเอกเก่ง

บทที่ 1 กำเนินดาวมาร

กลีบบุปผาร่วงโรยโบกโบยพัดผ่าน ดอกไม้สวรรค์เบ่งบานพลอยทำให้ใจสดใส เสียงเพลงหวานกังวานดังเป็นสาย ยามนางสวรรค์เยื้องกรายเต้นรำกลิ่นหอมกรุ่นโชยพาใจสั่นไหว

เงาสูงร่างหนึ่งนั่งโดดเด่นงามสง่าในอาภรณ์สีแดงเพลิงสะดุดตา ทำให้เซียนสาวน้อยใหญ่ทั้งชั้นต่ำชั้นสูงต่างลอบมองด้วยใบหน้าแดงซ่าน

หลี่จิ้งหาได้สนใจผู้ใดการมาร่วมงานเลี้ยงในครานี้ก็เพราะคิดจะผ่อนคลายหลังจากกลับมาจากสยบปีศาจกระทิง แต่เมื่ออยู่ในงานกลับพบว่าที่นี่ยิ่งน่าเบื่อหน่ายยิ่งกว่าการสังหารปีศาจเสียอีก

เบื้องหน้าของเขาคือธิดาสวรรค์ผู้งดงามกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อย กระทั่งหลายนางแอบลอบส่งสายตาให้เขาหลี่จิ้งได้แต่ส่ายหน้าหลบสายตานางเหล่านั้น สูงขึ้นไปคือองค์เง็กเซียน ด้านข้างคือสหายเทพจี้กงที่ขยันเอ่ยวาจาอีกทั้งยังขยันยกจอกสุรายิ่งกว่าผู้ใดในงาน

"หลี่จิ้งซ่างเสิน*สุราไม่ถูกปากหรืออย่างไร ถึงได้ทำท่าทางเบื่อหน่ายเช่นนั้น"

สหายเทพจี้กงผู้อยู่ในอาภรณ์ผ้าไหมงดงามเอ่ยถาม คนผู้นี้ปกติวัน ๆ เอาแต่ทำตัวเป็นขอทานในแดนมนุษย์อารมณ์ดีหน่อยก็สั่งสมบารมีช่วยคนปราบปีศาจ เมื่อมีงานเลี้ยงจึงจะกลับสวรรค์มาดื่มกินสักทีหมดงานก็ลงไปขลุกอยู่ที่แดนมนุษย์เช่นเดิม

 แต่เขาเป็นเทพปีศาจที่แดนมนุษย์ล้วนเป็นหน้าที่ของพวกเซียนชั้นต่ำที่ยังต้องบำเพ็ญเพียร เขามักจะแย่งงานเซียนเหล่านั้นจนถูกร้องเรียนบ่อยครั้ง

เทพจี้กงอย่างไรก็คือเทพชั้นสูงองค์เง็กเซียนตักเตือนแล้วอย่างไร เขาเพียงแต่พูดว่าพวกนักพรตผู้บำเพ็ญตนฝีมือไม่ถึงขั้น หากปล่อยปีศาจไว้นานพวกนี้จะดูดกลืนวิญญาณมนุษย์กลายเป็นปีศาจชั้นสูงตอนนั้นสวรรค์ก็คงวุ่นวายแล้ว

องค์เง็กเซียนจึงได้แต่หลับตาข้างหนึ่งเพราะแอบเห็นด้วยกับเขาเช่นกัน แสร้งตักเตือนไม่ให้เหล่าเซียนพวกนั้นครหา

เหตุใดหลี่จิ้งจะไม่รู้ว่าเทพจี้กงเบื่อหน่ายสวรรค์เพียงใด ฝีมือเทพจี้กงไม่ดีพอที่จะปราบปีศาจร้ายของสวรรค์จึงว่างงาน เมื่อว่างมากจึงลงไปหาอะไรทำในโลกมนุษย์ งานปราบปีศาจชั้นต่ำทำแล้วสนุกดีเขาจึงติดใจก็เท่านั้นหาได้มีจิตเมตตาคิดสั่งสมบารมีแต่ประการใด

"ดื่มสุราของท่านไปเถิดอย่าใส่ใจข้าเลย" 

"ท่านเป็นเทพอัคคีมิใช่หรือเหตุใดจึงเย็นชาเช่นนี้ไม่คิดว่าผิดปกติวิสัยเทพแห่งไฟไปหน่อยหรือ เห็นท่านมองเทพธิดาที่ร่ายรำแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เป็นคนอื่นเห็นคงคิดว่าท่านเป็นองค์ราชาแห่งแดนเหมันต์เป็นแน่ เยือกเย็นไร้ความรู้สึกยิ่งนักหรือไฟในกายของท่านจะดับมอดแล้ว ไม่คึกคักดังเดิมช่างน่าสงสารยิ่งนัก"