ลางร้ายร้อยรัก

36.0K · จบแล้ว
Lalyblue,Woohoo,พิมพ์พรรษ
41
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

...เพราะสัมผัสที่หกของเธอที่พึ่งจะเริ่มทำงานตอนอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ ชักนำให้ 'ชารีณ' นักศึกษาสาววัยใสต้องเข้ามาผัวพันกับเรื่องลับๆ ในอดีตของไร่เคียงตะวัน โดยไม่ได้ตั้งใจ แถมงานนี้ยังได้ 'หมอเรย์' ไม้เบื่อไม้เมาตัวฉกาจมาช่วยไขปริศนาอีกแน่ะเฮ้อ... ทั้งที่เธอคิดว่าจะมาฝึกงานและเสพบรรยากาศสุขสงบของเมืองเหนือแท้ๆ ไหงต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเรื่องผีๆ ด้วยเนี่ย บรึ๋ยย~

นิยายรักโรแมนติกนิยายสืบสวนสอบสวนนิยายรักนิยายปัจจุบันตลกรักหวานๆโรแมนติกสยองขวัญพระเอกเก่ง

บทที่ 1

ทันทีที่รถตู้กลางเก่ากลางใหม่เคลื่อนตัวเข้ามาภายในบริเวณไร่ของดอกเตอร์รณกร ใบหน้ากระจ่างใสก็เริ่มมีเหงื่อจำนวนมากผุดออกมา เนื่องจากหญิงสาวสัมผัสได้ว่าบริเวณไร่แห่งนี้มีพลังงานบางอย่างคละคลุ้ง

แถมพลังงานนั้นยังส่งผลให้ไรขนแถวลำคอของเธอตั้งชัน เมื่อได้เข้ามาอยู่ในอาณาเขตของแรงอาฆาตอีกต่างหาก

“ชา…”

เสียงเรียกดังขึ้นข้างหู ทว่าขณะนี้สมาธิของชารีณกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่นมากกว่า

“ชา…”

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหลับลงเพื่อให้ตัวเองสามารถสัมผัสได้ถึงแหล่งพลังงานนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะอย่างน้อยเธอกับเพื่อนก็ต้องเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่นี่ตั้งสามเดือน เธอควรจะได้รู้ถึงสาเหตุของแรงอาฆาตนั่น ก่อนที่จะเผลอไปเหยียบเท้าเจ้าถิ่นเข้าล่ะนะ

“ไอ้ชา!”

เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัว และหันมาขมวดคิ้วให้คนข้างๆ เมื่อสติที่กระเจิดกระเจิงไปเริ่มกลับเข้าที่

“แกเป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่า…”

เมราพูดค้างไว้แค่นั้น ก่อนจะเบียดตัวเข้ามาใกล้เพื่อนรักมากขึ้นด้วยสีหน้าเหยเกระคนหวาดกลัวในคราวเดียว

“แกคงไม่ได้…”

ชารีณพยักหน้าให้เพื่อนเพื่อตอบคำถามที่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดมันให้จบประโยค เพราะเมรากลัวสิ่งที่มองไม่เห็นจนขึ้นสมอง ถึงขั้นประกาศปาวๆ ว่าจะไม่ยอมฟังเรื่องลี้ลับใดๆ ทั้งสิ้นที่เพื่อนพบเจอมา ทว่าด้วยความที่ทั้งคู่สนิทกันมาก ทำให้เมราไม่มีทางทนเห็นเพื่อนแบกรับเรื่องราวชวนปวดหัวแบบนี้คนเดียวได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจฟังไปกลัวไปอย่างที่เห็น

“อยู่ในไร่เหรอแก”

“เปล่า ไม่ได้อยู่ในไร่” ชารีณโกหกหน้าตาย เพราะไม่อยากให้เพื่อนตื่นตูมหอบเสื้อผ้าหนีกลับกรุงเทพฯ ไปก่อนจะฝึกงานเสร็จ

“เดี๋ยวถึงห้องแล้วเล่าให้ฟัง”

คนที่ตัวสูงกว่าเธอเกือบห้าเซนติเมตรพยักหน้ารับรัวๆ ก่อนจะทนนั่งหลับหูหลับตาอยู่ข้างกัน จนกระทั่งรถตู้ที่ไปรับทั้งคู่มาจากสนามบินจอดสนิทอยู่ในลานจอดรถของไร่ชิดตะวัน

'ไร่ชิดตะวัน' แห่งนี้จะเป็นสถานที่ฝึกงานของพวกเธอตลอดสามเดือนหลังจากนี้ เนื่องจากเจ้าของไร่คืออาจารย์รณกรที่กำลังศึกษาเรื่องการเพาะปลูกพืชผักแบบออแกนิกให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม

นั่นเป็นเรื่องที่สองสาวสนใจเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นขอให้ศิชล ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของชารีณช่วยติดต่อกับอาจารย์รณกรให้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย

มือเรียวสวยยื่นออกไปเปิดประตูรถ ก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับร่างอ้อนแอ้นของพนักงานวัยกลางคนของไร่ที่กำลังยืนส่งยิ้มหวานมาให้อย่างเป็นมิตร

"สวัสดีเจ้า"

สองสาวรีบประนมมือไว้กลางอก แล้วเอ่ยตอบกลับคนตรงหน้าอย่างพร้อมเพรียง "สวัสดีค่ะ"

"ป้าจื้อ เอ่อ... ชื่อนวลจ้ะ เป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ ทำงานในไร่มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ของอาจารย์กรนู้น ยินดีต้อนรับเข้าสู่ไร่ชิดตะวันนะจ๊ะ" คนอาวุโสกว่าแนะนำตัวเสียงหวาน แล้วคลี่ยิ้มกว้างให้สองสาวอีกครั้งหลังพูดจบ

"สวัสดีค่ะ ป้านวล"

"จ้ะ วันนี้อาจารย์กรไม่ว่าง พวกหนูเข้าไปพักผ่อนที่ห้องพักเถอะ เดินทางมาตั้งนานคงจะเหนื่อยแย่" นวลบอกด้วยสายตามีเมตตา แล้วส่งสัญญาณให้ลูกน้องของตนพาคนทั้งคู่ไปพัก