ตอนที่สี่ ความทรงจำ2 (NC)

ตอนที่สี่ ความทรงจำ

ฟาซอลยังจำความเจ็บปวดของอลิซได้ดี หากเป็นเธอก็คงหลงรักชายเป้าหมายคนนั้นเช่นกัน เขาทั้งดีทั้งเป็นชายคนแรกและยังตั้งความหวังที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน

ฟาซอลถูสบู่ไปขณะดึงสติกลับมาสู่ปัจจุบัน

หากเธอยังทำตัวไม่รู้เรื่องอยู่แบบนี้ อเล็กซ์คงสงสัยและไม่ไว้ใจแน่ เธอคงต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเหม่ยเยี่ยนฟางอย่างจริงจังเสียแล้ว

ถึงอย่างไร ร่างนี้ก็เคยร่วมรักกับคนอื่นมาแล้ว จะมัวเขินอายทำเป็นไม่เคยก็คงไม่ได้ แม้ตัวจริงของฟาซอลจะไม่เคยสอดใส่จริงๆ แต่เรื่องแบบนี้ค่อยๆเรียนรู้ไปก็คงพอได้

เมื่อตัดสินใจได้ หญิงสาวจึงล้างตัวใส่เสื้อผ้าแล้วออกมาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“ใส่เสื้อผ้าทำไม” เฉินป๋อเหวินถามทันทีที่เห็นหญิงสาวสวมชุดนอนอย่างเรียบร้อยเดินออกมาจากฉากกั้นอาบน้ำ

“อ้าว...ไม่ให้ใส่แล้วจะให้แก้ผ้าออกไปหรือคะ”

“ใช่ คู่แต่งงานใหม่ที่ไหนจะใส่ชุดนอนเต็มที่แบบเธอกัน”

ชายหนุ่มบ่นพึมพำขณะก้าวเข้ามาช่วยถอดเสื้อนอนออกอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวค่ะ ทำแบบนี้คนข้างบ้านก็เห็นหมดสิคะ”

“เห็นแล้วอย่างไร คุณนายเกาเป็นผู้หญิง พี่ยังไม่อายเลย แล้วเธอจะอายทำไม ถึงอย่างไรก็ต้องให้เห็นการแสดงความรักอย่างแนบแน่นของคู่แต่งงานใหม่บ่อยๆอยู่ดี”

เฉินป๋อเหวินไม่พูดพล่ามอีก เดินเข้ามาถอดชุดนอนสองชิ้นล่างบนของร่างบอบบางออกจนเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนซึ่งยืนหนีบขากอดอกอย่างเขินอาย

ชายหนุ่มปลดผ้าเช็ดตัวด้านล่างของตัวเองแล้วอุ้มร่างบางเดินโทงๆออกจากห้องน้ำราวเพิ่งหวานชื่นกันมา

“น้องฟางฟาง พวกเราไปทดลองความแข็งแรงของระเบียงบ้านกันบ้างดีไหม”

“พี่ป๋ออะ เมื่อกี้ก็ทดลองความแข็งแรงของอ่างไปแล้ว ยังจะไปที่ระเบียงอีก เดี๋ยวมีคนเห็นเข้า”

“ถ้าอย่างนั้น เอาตรงหน้าต่างนี่แล้วกัน ลมเย็นดี”

เฉินป๋อเหวินวางร่างเปลือยลงตรงหน้าต่างห้องนอนซึ่งเปิดออกราวจะให้คนที่แอบมองได้เห็นอย่างชัดเจน

“พี่ป๋อ ข้างบ้านมีคนอยู่หรือเปล่า”

“ปิดไฟมืดแบบนี้ ไม่มีหรอก หรือมีก็คงนอนไปแล้วล่ะ ไม่มีใครสนใจพวกเราหรอก”

“แต่...” เสียงงอแงถูกปิดลงด้วยจุมพิตร้อนจนเหม่ยเยี่ยนฟางต้องตวัดลิ้นออกตอบโต้เป็นระวิง สองมือหนากอบกุมทรวงอกอวบอิ่มคลึงเคล้นวนไปวนมาอย่างคลั่งไคล้ มือร้อนลูบไล้ไล่ลงไปจนถึงเนินสามเหลี่ยมผ่านกลุ่มขนนุ่มฟูแล้วกรีดไล่แหวกร่องเพื่อตามบดขยี้ติ่งเสียว

“อือ...” ฟาซอลไม่เคยถูกล่วงล้ำเมื่อโดนบดคลึงจนเสียวสยิวจึงส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว ท่วงท่าเคอะเขินอาการบิดตัวล้วนคล้ายคนไม่คุ้นเคยกับการร่วมรักจนเฉินป๋อเหวินสงสัย

ทำไมท่าทางเหมือนคนไม่เคย ตั้งแต่ที่โซฟาแล้ว ในรายงานเธอมีเพศสัมพันธ์กับเป้าหมายมาเป็นปีนี่น่า แถมยังรักใคร่แนบแน่นถึงกับไม่เคยงดเว้นสักคืน

เฉินป๋อเหวินลากริมฝีปากเรื่อยลงมาผ่านหน้าท้องเรียบจนถึงกลางหว่างขาเรียวจึงจับขาข้างหนึ่งยกขึ้นจนเป็นรูปสามเหลี่ยมเพื่อเปิดส่วนกลางกายสาวให้เด่นชัด

ปากหนาก้มลงแยงลิ้นแล่บเลียตวัดดูดติ่งสวาทขณะนิ้วมือช่วยสอดล้วงเข้าไปในช่องทางสีหวานอันชุ่มฉ่ำ

อืม...ร่องไม่แคบมาก แสดงว่าในรายงานไม่โกหก อลิซคนนี้นี่แสดงบทบาทหญิงไร้เดียงสาได้จนเกือบหลงเชื่อแล้ว

ชายหนุ่มส่งนิ้วทั้งสามดึงเข้าดึงออกอย่างเชื่องช้าก่อนจะเร่งจังหวะรัวเร็วผสานกับการดูดดึงเม็ดติ่งเสียวเพื่อปลุกความเร่าร้อนของอีกฝ่าย

เนื่องจากถูกจับให้ยืนขาเดียวแม้จะมีกรอบหน้าต่างพิงอยู่ด้านหลังก็ตาม หญิงสาวจึงต้องจับหัวชายหนุ่มเอาไว้เพื่อเป็นหลัก

เสียงครางบ่งบอกความเสียวดังขึ้นเรื่อยๆ จนคุณนายเกาทนไม่ไหวต้องไปตามนายพันเกาหมิงมาดูด้วยกัน

“ดูพวกเขาสิ ตั้งแต่มาถึงทั้งนัวเนียทั้งจูบทั้งกอด แล้วนี่ยังมาเอากันที่หน้าต่างจนมองเห็นชัดขนาดนี้ ดูตั้งใจเกินไปไหม” คุณนายจีบปากจีบคอฟ้องสามี

“พวกเขาเป็นคู่รักหนุ่มสาว ก็อาจจะอยากฟัดกันทั้งวัน คุณก็จับตามองไปเรื่อยๆก็แล้วกัน” นายพันวัยกลางคนมองภาพบ้านข้างๆซึ่งสองร่างกำลังโยกขย่มกันอยู่ในเงาสลัวด้วยสายตาไม่บ่งบอกความรู้สึก

“ให้ฉันเฝ้ามองพวกเขาร่วมรักกันบ่อยๆแบบนี้ ฉันก็แย่สิคะ”

“ทำไม อยากโดนบ้างหรือไง”