บทที่ 3 ลืมตาพบสาวงาม
ฟางหลินเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเขานอนอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านสีแดงเต็มไปหมด แม้แต่แสงไฟสลัวในห้องก็ยังเป็นสีแดงจางๆ เขากะพริบตาเพื่อไล่ความง่วงงุน แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบาๆ เสียงนั้นไพเราะยิ่ง
เขาหันไปตามเสียงสะอื้นที่พยายามปกปิดไว้ ทันใดหัวใจของฟางหลินเฉินก็เต้นรัวราวกับจะกระดอนออกมาข้างนอกให้ได้ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับความงดงามบาดลึกลงในใจเช่นนี้
“..นางฟ้า” เสียงของเขาแหบพร่าสั่นรัว คล้ายเขาละเมอออกไปโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวในชุดแดงเงยหน้าขึ้นมาสบตาฟางหลินเฉิน ท่าทางของนางคล้ายตกใจและนึกไม่ถึงอยู่หกส่วน แต่อีกสี่ส่วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ชั่วขณะที่สายตาของฟางหลินเฉินสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น โลกทั้งใบพลันหยุดนิ่ง สรรพเสียงรอบข้างเหมือนถูกกลืนหายไปในลมหายใจติดขัดของสตรีตรงหน้า
ผีเสื้อนับพันเริ่มโบยบินในท้องของเขา ทุกอย่างรอบตัวลอยละล่องดั่งหมอกยามเช้า เขามองเห็นรายละเอียดทุกอย่างในตัวนางที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น
ดวงตาผลซิ่ง กลมโตเป็นประกายของนาง เขารู้สึกว่ากำลังจ้องมองดาวที่สว่างสดใสที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน คราบน้ำตาเล็กๆ ที่มุมหางตากลมทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเป็นน้ำตาศักดิ์สิทธิ์ ที่ละลายหัวใจของเขาจนเหลวอยู่ใต้เท้าของนาง
ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของฟางหลินเฉิน ราวกับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่ค่อยๆ สาดส่องเข้ามาในห้องที่เคยมืดมิด ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับนางเต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์ที่เขาไม่อาจต้านทาน
เขารู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงความฝันที่ไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกเลย หรือท่านอ๋องฉินกวงจะทำงานผิดพลาดส่งเขาขึ้นมาบนสวรรค์โดยไม่ตั้งใจ
นางนั่งอยู่ข้างเตียง สวมชุดแดงงานแต่งปักลายคลื่นน้ำและลายฉาฮวา บานฉ่ำ รับกับใบหน้าอวบกลม แม้สองแก้มจะถูกน้ำตาทำให้เกิดเป็นร่องรอยของคราบเครื่องประทินโฉม แต่นัยน์ตากลมโตที่มีน้ำตาเอ่อเล็กน้อย งดงามรับกับริมฝีปากแดง
หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ตัวผอมบางน่ารักตามมาตรฐานความงามของคนทั่วไป แต่กลับงดงามตามที่ฟางหลินเฉินเคยจินตนาการไว้ราวกับออกมาจากความฝันของเขา ไหล่กลม ตัวอวบอ้วนน่ากอด แม้ชุดงานแต่งจะรุ่มร่ามทำให้นางดูตันจนเหมือนไม่มีคอ แต่เขาก็ยังมองอย่างหลงใหล
‘เธออุตส่าห์แต่งคอสเพลย์เพื่อฉันสินะ นี่มันสวรรค์ชัดๆ ขอบคุณครับท่านอ๋องงง...’ ฟางหลินเฉินกรีดร้องอยู่ในใจ
“ท่าน..ท่าน..” หญิงสาวตรงหน้ายังคงมองเขาไม่กะพริบตา น้ำเสียงของนางสั่นเครือ แต่กลับกังวานไพเราะ แม้นางจะเอ่ยด้วยความตื่นตระหนก
“แม่นาง เจ้าเป็นนางฟ้าใช่หรือไม่” เขาเริ่มแสดงความเจ้าชู้ออกมา แววตาส่องประกายคล้ายอยากกลืนกินหญิงสาวตรงหน้าให้ได้เสียเดี๋ยวนั้น
“ท่านพี่..ท่านไม่ได้..” เสียงของนางไพเราะราวกับนกเยี่ยอิง
“...” ฟางหลินเฉินแทบละลายเมื่อนางเรียกเขาว่าท่านพี่ เขาเอื้อมมือออกไปดึงตัวคนงามให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกันกับเขา แม้นางจะมึนงงและประหลาดใจ แต่ก็โอนอ่อนตามแต่โดยดี
“น้องหญิง ผู้ใดทำให้เจ้ามีน้ำตากัน ข้าจะช่วยปลอบเจ้าเอง” ฟางหลินเฉินเอื้อมสองมือไปกุมใบหน้ากลมและเช็ดคราบน้ำตาข้างแก้มกลมให้หญิงสาว
“..ไม่..ไม่เจ้าค่ะ” เสียงใสเอ่ยตอบ ท่าทางคล้ายไม่คุ้นชินกับความอบอุ่นฉับพลันของชายหนุ่ม
เขาไม่รอช้า ดึงคนงามเข้ามาจูบทันทีอย่างหิวกระหาย แม้ร่างในอ้อมกอดของเขาจะแข็งทื่อตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่เขากระหายเกินกว่าจะหยุดได้
ฟางหลินเฉินดูดดื่มริมฝีปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้มเลียราวกับต้องการจะครอบครองเป็นเจ้าของ เมื่อหญิงสาวค่อยๆ ถอยออกไปอย่างประหม่า เขาก็เอื้อมมือหนึ่งไปประคองหลังศีรษะของนางเพื่อบังคับให้นางอยู่ที่เดิม เขาจะได้จูบได้อย่างถนัดมากขึ้น
สองแขนแกร่งของเขาโอบคอของนาง ดึงนางมาไว้ในอ้อมแขนและจูบดูดดื่มยิ่งขึ้น เขาแลบลิ้นออกไปพยายามจะเข้าไปสำรวจความหอมหวานในปากเล็กของหญิงสาว นางสั่นสะท้านจับเสื้อเขาไว้แน่น แต่สุดท้ายก็ยอมเปิดริมฝีปากให้เขาเข้าไปยึดครอง
ลิ้นของเขาซอกซอนค้นหา กวาดรสหวานดูดดื่ม เขาผลักนางล้มลงบนเตียงเบาๆ เขาล้มตัวลงไปทับความนุ่มนิ่มทั้งตัวของนางไว้ สองมือของเขาเลื่อนลงมาเกาะกุมอกอวบอ้วนและบีบคลำอย่างหยาบคาย ระหว่างที่เขาใช้ลิ้นบดเบียดลิ้นของนาง หญิงสาวหลับตาแน่นลมหายใจติดขัด แต่ไม่กล้าขัดเขา
เขาดูดลิ้นของนางแรงๆ ก่อนจะยอมปล่อยอย่างเสียดาย แต่เขาต้องยอมปล่อยลิ้นหวานเพราะอยากชิมเลียที่อื่นบ้าง ริมฝีปากของเขาเลื่อนไปตามคางของนางลงไปยังคอนุ่ม และดูดแรงๆ
“อะ!..” หญิงสาวสะดุ้ง ลมหายใจของนางติดขัดเพราะมือใหญ่ที่กำลังบีบหน้าอกอวบ ริมฝีปากของนางสั่นระริกเพราะเพิ่งถูกเขารุกรานอย่างหนัก
แต่ชายหนุ่มที่รุกรานกลับไม่ใส่ใจ ยังคงจุมพิตไปตามคอและดูดทุกที่ที่เขาต้องการ มือหนาพยายามถอดเสื้อของนางทิ้ง แต่ไม่ว่าจะสำรวจตรงไหนก็ไม่มีกระดุมให้เขาปลด
ฟางหลินเฉินจำต้องเงยหน้าขึ้นมามอง เขาสำรวจหารอยต่อของเสื้อชุดแดงที่นางสวมใส่ แต่สองมือกลับบีบนวดอกอิ่มไม่ยินยอมปล่อยวางแม้สักวินาที
“เสื้อเธอถอดยังไงเนี่ย” เขาหงุดหงิดเล็กน้อย
“เอ่อ..ข้า..ข้าถอดเองเจ้าค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงสั่นเครือ ทั้งร่างของนางสั่นระริก แต่เห็นชัดว่านางพยายามรับมือความต้องการของเขา และเอาใจเขาด้วยการยกมือสั่นๆ ขึ้นมาปลดชุดแต่งงานรุ่มร่ามออก
“สวยมากเลยครับ..” ฟางหลินเฉินมองภาพของคนใต้ร่างอย่างหลงใหล
“..เอ่อ” ใบหน้าของหญิงสาวแดงขึ้นจนแม้แต่แป้งที่แก้มก็ยังไม่อาจปกปิดได้มิดชิด
เมื่อหญิงสาวดึงเสื้อออกจนเห็นไหล่ขาวเนียนกลมนุ่ม ฟางหลินเฉินก็รีบช่วยนางดึงเสื้อของนางทิ้ง แววตาของเขาวาววับ
“เสื้อในแบบโบราณซะด้วย..เจ้าช่างใส่ใจยิ่งนัก” เขาพูด
เพราะตู้โตว สีแดงปิดแทบจะถึงคอ ฟางหลินเฉินจึงเอื้อมมือออกไปบีบก้อนซาลาเปาที่ทะลักออกมาด้านข้างแทน สัมผัสนุ่มมือ และผิวเนียนละเอียดที่ล้นออกมา ทำให้เขาหายใจออกแรงๆ ก่อนจะก้มลงไปจูบริมฝีปากแดงอีกครั้ง
