บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ซูปเปอร์สตาร์

ซุปเปอร์สตาร์

ปุยเมฆ Talk >>>>

สวัสดีครับ! ผม "ปุยเมฆ ณัฐวิชญ์ อัครโยธินนารัตน์" เองน่ะครับ นามสกุลผมคุ้นๆ กันใช่ไหมล่ะครับ ผมน้องชายของ ปุยนุ่น เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ แม่นิชา กับพ่อไปร์ นรวิชญ์ ยังไงกันล่ะครับผม แถมยังเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านอีก ตอนนี้ผมอายุได้ 26 ปีแล้วครับ แปลกใช่ไหมครับว่าทำไมถึงไม่เรียกปุยนุ่นว่าพี่ เพราะเราห่างกันแค่ปีเดียวเองครับ เราโตมาพร้อมกัน ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกัน เลยดูเป็นเพื่อนเล่นกันมากกว่าพี่น้องด้วยซ้ำ นิสัยเราต่างกันมากโดยสิ้นเชิง ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยแหล่ะ

นิสัยของผมไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ นอกจากจะหน้าตาดี ถอดแบบพ่อผมมาเลย อาจจะเป็นคนพูดน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่ค่อยชอบสุ่งสิ่งกับกับใคร แต่ก็มาเป็นดาราเป็นนักแสดงได้ยังไงก็ไม่รู้ อันนี้ขออุปไว้ก่อนน่ะครับ ส่วนหน้าตาลักษณะท่าทางของผมบิดากับมารดาให้มาล้วนๆเลยครับ ผมเป็นคนขี้เหวี่ยงขี้วีนขี้โมโหง่าย เจ้าระเบียบ ไม่แปลกหรอกครับ เพราะผมเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ซึ่งก็อาจจะถูกเลี้ยงมาแบบตามใจตลอด เป็นเอาแต่ใจ แต่ก็ชอบเอาอย่างอื่นด้วย......??(อย่าคิดเยอะนะครับว่าเอาอ่ะไร)

เพราะนิสัยที่ไม่เหมือนใครของผม ทำให้ผมต้องเปลี่ยนผู้ช่วยเป็นว่าเล่น คนที่ทำงานกับผม ส่วนใหญ่ก็อยู่กันไม่ยาวหรอกครับ ไม่ถึงเดือนสะด้วยซ้ำ เป็นต้องลาออกกันทุกราย จะมีแต่ผู้จัดการส่วนตัวของผมเท่านั้นแหล่ะครับที่รู้จักผมดี คือ พี่พัด พัสกร หนุ่มโสดวัย 30 ปี เป็นหลานชายของเจ้าของบริษัท ซึ่งมีพ่อของผมเป็นหุ้นส่วนร่วมด้วย

ครอบครัวของพวกเราเมื่อก่อนอยู่ต่างจังหวัดทางภาคอีสาน เป็นบ้านเกิดของแม่ผมเองครับ หลังจากที่คุณตา นิรุตติ์ ได้เสียไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณพ่อจึงพาพวกเราย้ายกลับมาอยู่ที่กรุงเทพมหานครคืน แต่บ้านก็จ้างให้คนดูแลตลอด และคุณพ่อได้เข้ามาบริหารงานในบริษัทกับ คุณลุงนพคุณ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ดังของช่องที่ผมอยู่ พ่อผมตอนนี้ทำงานเบื้องหลัง ไม่มีใครรู้ว่าผมคือลูกชายของท่าน เพราะผมใช้อีกชื่อหนึ่งคือ "เหนือเมฆ" และก็ไม่ได้ใช้นามสกุลจริงในวงการ

ผมเข้าวงการมาได้ 5 ปี ด้วยการเคสนักแสดงจากทางมหาวิทยาลัยที่แต่ละปี บริษัทจะไปเคสตัวนักแสดงหน้าใหม่เข้าวงการ ผมไม่ได้ใช้เส้นสายอะไรของพ่อผมน่ะครับ(บอกไว้ก่อน) เอาเป็นว่ารู้แค่ประวัติคราวๆของผมพอสังเขปแค่นี้ไปก่อน ไปตามดูเรื่องราวของผมต่อได้เลยครับ

อ๋อ...ผมลืมบอกอีกอย่างหนึ่งน่ะครับ ผมโสดและหล่อมากครับ

.

.

.

.

.

.

############

"อะไรน่ะ...ลาออกอีกแล้ว!" พัสกร โพล้งขึ้นมาทันทีอย่างตกใจ เมื่อนักแสดงหนุ่มในความดูแลของตนบอกว่า ผู้ช่วยคนใหม่ขอลาออก เมื่อพึ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์

"พี่ก็ได้ยินชัดแล้วนี้ครับ" ปุยเมฆเอ่ยบอกอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร

"นี่มันคนที่เท่าไหร่แล้วเมฆ" พัสกรตวัดเสียงใส่เล็กน้อย

"ทีเมื่อก่อน ผมไม่เห็นต้องมีผู้ช่วยเลย ผมกับพี่ก็ยังทำงานกันได้เลยหนิ่ครับ" ปุยเมฆเอ่ยออกมาอย่างมีเหตุผลของตัวเอง

"ใช่...แต่นั้นมันเมื่อก่อน เพราะพี่มีเวลาอยู่กับนายได้ตลอด แต่ตอนนี้ พี่ต้องเข้าไปช่วยงานคุณลุง นายต้องมีผู้ช่วย" พัสกรเอ่ยบอกเหตุผล เพราะเมื่อก่อนเขาแค่อยู่ในช่วงทดลองงาน ยวกกับดาราหนุ่มก็พึ่งจะเข้าวงการใหม่

"แต่ผมไม่ต้องการน่ะพี่ พี่ก็รู้ว่าผมต้องการความเป็นส่วนตัวมากแค่ไหน" ปุยเมฆบอกออกไปเพราะเขาไม่ต้องให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของเขา

"เขาก็ไม่ได้อยู่กับนายตลอดทุก 24 ชั่วโมงหนิ่เมฆ"

"..." ปุยเมฆ ได้แต่นั่งหน้านิ่ง

"พี่มีน้องที่รู้จักอยู่คนหนึ่ง ถ้าคนนี้อยู่ทำงานกับนายได้ไม่ถึงเดือน พี่จะเลิกหาผู้ช่วยมาให้นาย แต่พี่จะให้นาย จัดการตารางงานและรับผิดชอบเวลาของตัวเองทุกอย่างเลย"

"ใครจะทนอยู่ทำงานกับผมได้ล่ะ ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมา คนที่เท่าไหร่แล้วนับไม่ถ้วน ในเมื่อไม่มีใครทำงานกับผมได้ พี่ก็ล้มเลิกที่จะหาผู้ช่วยมาให้ผมเถอะครับ"

"แต่พี่รับรองเลย คนนี้เอาคนอย่างนายได้อยู่หมัดแน่ๆ พี่รับประกันด้วยเกียรติของพี่เอง" พัสดรเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ

"เฮ้อ...ตามใจพี่เลย" เมื่อทำอะไรไม่ได้ ปุยเมฆจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพัสกรเป็นคนจัดการ

"พรุ่งนี้ พี่จะให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่" พัสกรเอ่ยบอกพร้อมกลับกำลังจะเดินกลับออกไป

"อะไรน่ะ!...ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่" ปุยเมฆตวาดเสียงขึ้นถามทันที และชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง "กับผม สองต่อสองงั้นเหรอ"

"อื้ม" พัสกรได้แต่พยักหน้ารับเชิงเป็นคำตอบ

"นี่มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอพี่พัด"

"สำหรับคนอย่างนาย พี่ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ...พี่ไปน่ะ" พัสกร เดินจากไปทันที ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนนิ่งอยู่คนเดียว

อีกด้าน

ต้นข้าว ณัฐนรี บุญสอน หญิงสาววัย 23 ปี พื้นเพเป็นคนต่างจังหวัด แต่บิดาพามาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็กๆ อาศัยอยู่กับพ่อ และน้องชาย ในบ้านไม้เก่าๆ หลังหนึ่งแถวชานเมือง

"พี่ข้าว! พรุ่งนี้น้ำไม่มีเรียน น้ำขอไปดูเพื่อนเคสการแสดงน่ะพี่" ต้นน้ำ น้องชายคนเดียววัยเพียง 20 ปีของเธอ เอ่ยขออนุญาตเมื่อเพื่อนให้พาไปเคสนักแสดงที่ช่อง

"น้ำ!..." ต้นข้าวเอ่ยเรียกน้องชายไว้

"ครับพี่"

"ต่อไปนี้พี่ต้องไปทำงานน่ะ อาจจะค้างที่ทำงานเลย พอดีว่างานที่พี่พึ่งจะได้ คือทำงานไม่เป็นเวลาน่ะ เจ้านายพี่ เขาเลยให้พี่ไปพักที่นั้น อาจจะทำงานไม่ค่อยเป็นเวลา แต่รับรองเงินสูงมากเลยน่ะน้ำ พี่จะได้มีเงินส่งน้ำเรียนไง และเก็บเงินซื้อบ้านได้เร็วๆน่ะ" เสียงหวานเอ่ยบอกน้องชาย ด้วยหน้าตารู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่จะได้ทำงาน

"ขอบคุณพี่ข้าวมากเลยน่ะครับ ที่ทุ่มเท เสียสละ เวลาความสุขของตัวเองเพื่อพ่อและน้ำมากขนาดนี้ แล้วพี่จะเริ่มไปทำงานวันไหนครับ"

"พรุ่งนี้เลย น้ำก็ตั้งใจเรียนน่ะ และฝากดูแลพ่อแทนพี่ด้วยน่ะ"

"พี่ก็ดูแลตัวเองด้วยน่ะ เรื่องพ่อไม่ต้องห่วงเลย"

"จ้าน้องรัก"

"อ้อนอะไรกันสองพี่น้องคู่นี้" ไตรภพ เดินเข้าภายในห้อง เมื่อกลับมาจากทำงาน

ไตรภพทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในห้างดังแห่งหนึ่ง

"พ่อ!...ข้าวมีข่าวดีจะบอก ข้าวได้งานแล้วน่ะพ่อ" หญิงสาวเดินไปรับพ่อที่กำลังเดินเข้ามา

"พ่อดีใจด้วยน่ะ ลูกสาวพ่อคนนี้ขยันจริงๆ" ไตรภพขยี้ศรีษะเธอเบาๆ

"ข้าวจะตั้งใจทำงาน เก็บเงินให้ได้เยอะๆ แล้วซื้อบ้านให้พ่ออยู่สบายกว่านี้น่ะ" ต้นข้าวเอ่ยออกมาอย่างมุ่งมั่น

"แค่นี้พ่อก็ภูมิใจในตัวลูกมากแล้วล่ะ ต้นข้าว" ไตรภพเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจ และลูบศีรษะเธอเบาๆอย่างเอ็นดู

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel