บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของ...หายนะ!!
...มนตราคือชื่อของฉันหรือที่ใครหลาย ๆ จะรู้จักในนามว่า...มนต์...ปัจจุบันฉันทำงานในตำแหน่งเลขาให้กับประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับอาเซียน ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็ต่างถวิลหาอยากจะเข้ามาอยู่ในจุดจุดนี้ นั่นก็เพราะไม่ใช่แค่เงินเดือนและสวัสดิการของบริษัทนี้ที่ดีเท่านั้น แต่ทว่า...ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันนั่นก็คือ การได้ใกล้ชิดกับท่านประธานของบริษัทแห่งนี้ที่ทั้งเก่งแถมยังหล่อติดอันดับหนุ่มฮอตผู้ทรงอิทธิพลของสังคมที่นิตยสารไฮโซระดับอาเซียนมอบให้อีกด้วย
...แต่ก็นั่นแหละเพราะด้วยความหล่ออีกทั้งเสน่ห์ที่มากล้นเกินต้านของท่านประธานสุดฮอต มีหรือที่คนอย่างฉันจะไม่หลงใหลไปกับรูปโฉมและความสามารถเหล่านั้นของเขา เพราะฉันเองก็เป็นเหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ใฝ่ฝันจะได้ใกล้ชิดและแอบปลื้มผู้ชายที่เก่งรอบด้านไม่ต่างกัน เพียงแต่ด้วยสถานะของฉันที่เป็นเลขานั้น มันจึงทำให้ฉันทำได้เพียงแค่เก็บงำความรู้สึกนั้นไว้ในใจ
แต่ทว่า...เพราะไอ้ความปลาบปลื้มที่นับวันรังแต่จะทวีเพิ่มพูนไม่หยุด...มันได้มอมเมาจนฉันเริ่มปล่อยตัวปล่อยใจอาจหาญกระทำการบางอย่างลงไปอย่างไร้สติไม่คิดหน้าคิดหลัง เพียงเพราะคิดว่ามันจะเป็นความลับที่จะไม่มีใครล่วงรู้ได้...แต่สุดท้ายแล้วความลับไม่มีในโลกฉันใดก็ฉันนั้น...เพราะเมื่อวันหนึ่งความลับที่เก็บงำมานานถูกจับได้ จนกลับกลายมาเป็นหายนะที่ทำลายชีวิตฉันไม่มีชิ้นดี...และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ฉันเองก็ไม่อาจโทษใครได้เลย...นอกจากตัวเอง...เท่านั้น...
ปั่ก...ปั่กๆๆ
“อื้ออออ ~~ สะ...เสียว”
“ตอดดีเหลือเกิน...มนต์...มันทำให้ผมคลั่ง! นะรู้ไหม!! ทั้งเสียงช่วงล่างของคุณมันดีเหลือเกิน...อ่าาาาส์ ~~”
ร่างบางนอนเปลือยเปล่าอยู่บนสังเวียนนุ่มขนาดใหญ่กำลังอ้าขาสนองตัณหาและราคะให้กับชายหนุ่มที่กำลังสอดแก่นกายขนาดใหญ่รุกล้ำเข้าออกอยู่ตรงกึ่งกลางกายสาวอยู่ในขณะนี้ด้วยร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่พร่างพราวไปทั่วทั้งตัว
“อ๊ะ...อ๊ะ...มะ...มนต์...จะไม่ไหวแล้ว”
“ผมก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน...อืมมมม ~~”
เสียงสอดประสานส่งออกมาด้วยความกำหนัดของผู้ชายที่กำลังโยกย้ายขยับบั้นเอวอย่างบ้าคลั่งอยู่บนตัวฉันอยู่ในขณะนี้ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ทายาทตระกูลดังอีกทั้งยังเป็นประธานบริษัทรุ่นที่ 4 ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับอาเซียนอย่าง รุ่งเรืองโรจน์รัตนกิจ คนที่ฉันเพิ่งเอ่ยถึง คุณวาคิม รุ่งเรืองโรจน์รัตนกิจ ผู้ซึ่งเป็นเจ้านายของฉันนั่นเอง...
และถ้าหากจะถามว่าเรื่องราวของเราสองคนมาถึงจุดนี้ได้ยังไง คำตอบเดียวที่ยังคงก้องอยู่ในใจของฉันเสมอมาก็คือประโยคประโยคหนึ่งในท่วงทำนองหนึ่งที่ว่า (~~ ดั่งขุมนรกอเวจีชังหรือสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แกล้ง ~~) (หลบพี่ลิขเขาหน่อย) (> /l\