บทที่ 2 ตอนที่ 4
“กูต้องกลับแล้วล่ะ...เภตราอยู่ห้องคนเดียว เขาไม่เคยใช้ชีวิตข้างนอกด้วย ต่อไปนี้กูคงไปไหนมาไหนกับพวกมึงบ่อยๆ เหมือนแต่ก่อนไม่ได้” ชายหนุ่มเก็บสมาร์ตโฟนใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง แล้วยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นจิบเล็กน้อย
“อย่าให้เกินไปไอ้อาร์ต เพื่อนเราหลายคนก็มีเมียกันทั้งนั้น ไม่เห็นใครต้องนั่งโอ๋นั่งประคบประหงมกันทั้งวันทั้งคืนเลย มันก็ต้องมีชีวิต มีเวลาเป็นของตัวเองกันบ้างสิวะ”
“อืม...” อมันต์ไม่ได้อยากต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งมันก็จริง...เขามีเพื่อนมีฝูง เคยใช้ชีวิตอิสระ แต่ตอนนี้เภตราไม่ได้มีใคร และเธอต้องการเขามากที่สุด
ชายหนุ่มกล่าวลากับเพื่อนๆ ก่อนจะออกจากผับกึ่งร้านอาหารแห่งนั้น ขับรถมุ่งไปคอนโดที่เช่าไว้เป็นเรือนรักระหว่างเขากับเภตราทันที
สองวันก่อน...หลังจากเธอกลับจากมหาลัยเพียงไม่กี่ชั่วโมง หญิงสาวก็โทรฯ กลับมาหาเขาทั้งร้องไห้ทั้งสะอื้น เล่าว่าถูกพ่อกับแม่จับได้เรื่องตั้งครรภ์ แล้วให้เลือกระหว่างครอบครัวกับเขาและลูกในท้อง แต่เธอไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้น...บทลงโทษก็คือการถูกตัดขาดจากบุพการี
“หนูไม่มีที่ไปแล้ว ไม่เหลือใครแล้ว...พี่อาร์ตอย่าทิ้งหนูกับลูกไปอีกคนนะคะ” น้ำเสียงของเธอในวันนั้น มันช่างเศร้าและหดหู่จนเขาไม่อาจลืม
วันนั้นเขารีบขับรถไปรับเธอ...และหาเช่าคอนโดใกล้ๆ มหาวิทยาลัย เพื่อให้เธอได้อาศัยอยู่ก่อน ชายหนุ่มไม่คิดว่าบิดาและมารดาของเธอจะใจดำได้นานนัก ยิ่งเป็นลูกสาวคนเดียวด้วย อย่างไรเสียวันหนึ่ง พวกท่านก็ต้องเป็นห่วงคิดถึงกันบ้าง
อมันต์บอกว่าจะออกไปธุระกับเพื่อน...สักพักก็กลับ กลายเป็นว่าตอนนี้ตีสองเข้าไปแล้ว ยังไม่มีวี่แววของเขาเลย
เธอไม่กล้าโทร.ตาม ด้วยกลัวจะเป็นการก้าวก่ายเกินไป และไม่เคยรู้ว่าชายหนุ่มออกไปข้างนอกดึกดื่นขนาดนี้ ปกติเขาจะแชทหรือวิดีโอคอลคุยจนเธอหลับซึ่งก็ไม่เกินห้าทุ่ม หลังจากนั้นเภตราไม่เคยรู้ว่าคนรักของเธอใช้ชีวิตอย่างไร...
อาจด้วยเพราะความเคว้งคว้างไร้ที่พักพิง ชีวิตตอนนี้มีเพียงเขาทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดใจ เป็นกังวล เป็นห่วงเสียจนไม่อาจข่มตาให้หลับนอนลงได้ แต่ลองคิดอีกแง่...เขาอาจมีธุระจำเป็นจริงๆ นั่นแหละ เพราะตลอดสองวันที่ผ่านมา อมันต์ก็ไม่เคยอยู่ห่างจากเธอเลย
“พี่อาร์ต...” เสียงประตูเปิดทำให้เจ้าของร่างเล็กยิ้มได้ แล้วรีบสาวเท้าเดินเข้าไปต้อนรับเขาทันที ประจวบเหมาะกับที่ชายหนุ่มเดินเข้าห้องมา เขายิ้ม...ย่นคิ้วมองด้วยความแปลกใจ
“ทำไมยังไม่นอนอีกคะ...”
“ก็พี่อาร์ตไม่ยอมกลับมาสักทีนี่คะ” ว่าแล้วก็อ้าแขนกว้างโผเข้าไปกอดคนตัวใหญ่กว่าเอาไว้ ซุกใบหน้าเขาสู่อ้อมอกอบอุ่นที่แสนคุ้นเคย
“ก็บอกแล้วไง ว่ามีธุระ...สำคัญ”
“ค่ะ แล้วพี่อาร์ตกินอะไรมาหรือยัง” ความขุ่นข้องหมองใจก่อนหน้าหดหายเป็นปลิดทิ้ง เพียงอ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดไว้ พร้อมกับจูบซับเบาๆ ตรงหน้าผากของเธออย่างเอาใจ
“พี่ไม่หิวหรอก พี่พาหนูไปนอนก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยลุกไปอาบน้ำ หนูไม่เคยนอนดึกขนาดนี้เลยนี่”
“เภตราเป็นห่วงพี่อาร์ตนะคะ แล้วก็ไม่อยากอยู่คนเดียวด้วย” เธอบอกเขาไปตรงๆ
ยอมรับว่ายังอ่อนไหวเรื่องที่ถูกตัดขาดกับทางครอบครัว จนระแวง...หวาดกลัวการสูญเสียซ้ำซ้อน ใจเธอยังบาดเจ็บหนักหนาอยู่ คงไม่อาจยอมรับเรื่องเลวร้ายใดๆ ได้อีกแล้ว
“พี่ขอโทษค่ะ...ไปนอนกันเถอะ พี่สัญญาว่าจะไม่ไปไหนนานๆ แบบนี้อีก”
อ้อมกอดของเขาช่างอ่อนโยน อบอุ่น เป็นแหล่งพักพิงเดียวที่ทำให้หัวใจดวงน้อยได้พอมีความหวังในการมีชีวิตอยู่ต่อไป
แต่เภตราไม่รู้หรอกว่า...เธอซื่อเกินไป บริสุทธิ์เกินกว่าจะคาดคิดถึงด้านมืดในตัวเขา ที่กำลังจะลงมือประหัตประหารตัวเธอ ให้ตายทั้งเป็น...
