บท
ตั้งค่า

บทที่6 ไร้ค่า

หลายวันต่อมา

รถตู้แล่นเข้ามาจอดตรงลานจอดข้างในบ้านพงษ์ไพศาล พอประตูรถเปิดออก มินก็ลงมาเป็นคนแรกตามด้วยอัมพรกับสุวัตร ส่วนภาคินยังนั่งอยู่ในรถอยู่ มินกับคนขับรถจึงไปช่วยกันยกวีลแชร์ไฟฟ้าลงจากหลังรถ แล้วเข็นไปไว้ตรงหน้าประตูรถ เพื่อยกตัวภาคินให้นั่งลงได้สะดวก

หลังจากที่ยกตัวภาคินลงนั่งบนวีลแชร์แล้วมินก็สอนการใช้งานวีลแชร์ไฟฟ้าโดยการแนะนำกดปุ่มต่างๆ จากนั้นภาคินก็กดปุ่มเดินหน้าไปทางบ้านหลังเล็กที่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ซึ่งมินให้คนทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว บริเวณบ้านมีต้นไม้ล้อมรอบทำให้ร่มรื่นน่าอยู่มากขึ้น ส่วนด้านหลังบ้านมีสระบัวขนาดกลางอยู่หนึ่งสระที่เชื่อมทางเดินด้วยไม้เข้ากับตัวบ้าน ภาคินพาตัวเองมาหยุดตรงริมสระมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย

"พี่คินไปทานข้าวกันเถอะค่ะ" เดินไปหยุดตรงด้านหลังภาคิน

"พี่ไม่หิว"

"ไม่หิวก็ต้องทานค่ะ พี่รู้ตัวไหมว่าตัวเองผอมลงเยอะมากเลย"

"ช่างพี่เถอะ"

"ช่างไม่ได้หรอกค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่รออยู่ไปเถอะค่ะ" นั่งลงยองๆ ข้างภาคินพร้อมกับจับมือและส่งสายตาอ้อนวอน

"ก็ได้ไปสิ" เคลื่อนวีลแชร์นำหน้ามินไปตรงไปยังบ้านหลังใหญ่ ส่วนมินก็เดินตามไปติดๆ

ภาคินเข้าไปในบ้านได้อย่างง่ายดาย เพราะช่างได้มาทำทางลาดไว้ก่อนที่จะกลับมาแล้ว พอเข้าไปในห้องรับประทานอาหารก็เจออัมพรกับสุวัตรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว 

"มาแล้วเหรอลูก เป็นไงนั่งวีลแชร์ไฟฟ้าสะดวกดีใช่ไหม ไปไหนมาไหนได้สบายเลยทีนี้" อัมพรลุกขึ้นไปสวมกอดลูกชายตัวเอง

"ครับสะดวกดี" 

"ทานเยอะๆ นะลูก มีแต่ของโปรดลูกทั้งนั้นเลย" สุวัตรเอ่ยขึ้น

"ใช่ค่ะ ป้าทำสุดฝีมือเพื่อคุณคินเลยนะคะ" ป้าชุ่มแม่ครัวเก่าแก่ของบ้านที่กำลังยืนอำนวยความสะดวกให้ทุกคนเอ่ยขึ้น

"มาค่ะ พี่คินอยากทานอะไรบอกมินได้เลยนะคะ เดี๋ยวมินตักให้" 

"มินจะตักอะไรให้พี่ก็ตักมาเถอะ "

"ค่ะ" รับคำแล้วตักไส้อั่วที่หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในจานข้าวของภาคิน

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จภาคินก็กลับไปที่บ้านหลังเล็ก เอาแต่เก็บตัวเองอยู่ในห้อง ด้วยการจ้องมองภาพถ่ายตัวเองกับกิ่งที่อยู่ในมือถือ น้ำตาไหลเอ่อออกมาอาบแก้มทั้งสองข้างกำมือแน่น 

ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ภาคินจึงรีบเช็ดน้ำตาทิ้งแล้วพาตัวเองไปปลดล็อกกลอนประตูเปิดออก เจอมินยืนอยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับส่งยิ้มให้ภาคิน

"พี่คินพอดีมินมีคนมาแนะนำให้รู้จักค่ะ"

"ใครเหรอ ทำไมพี่ต้องรู้จักด้วย"

"ตามมินมาค่ะ"เดินนำภาคินออกไปตรงหน้าบ้าน ภาคินจึงเคลื่อนวีลแชร์ตามหลังมินออกไป

"พี่คิน นี้พี่น้อยค่ะ พยาบาลที่จะมาทำกายภาพให้พี่ทุกวันแล้วอยู่คอยช่วยเหลือพี่" 

"สวัสดีค่ะ" เอ่ยทักทายภาคิน

"พี่ว่าไม่จำเป็นหรอก" 

"จำเป็นสิคะ เดี๋ยวมินจะให้พี่น้อยพักอยู่อีกห้องหนึ่งก็แล้วกัน เผื่อตอนกลางคืนพี่ต้องการความช่วยเหลือจะได้ช่วยทัน" จริงๆแล้วบ้านหลังเล็กเป็นบ้านสำหรับไว้รับแขกจึงมีสองห้องนอนพอดี

"อยากทำอะไรก็ทำแล้วอย่าโวยวายทีหลังก็แล้วกัน"พูดจบก็พาตัวเองเข้าไปข้างในห้องเหมือนเดิม

"พี่น้อยอย่าถือสาพี่คินเลยนะคะ ตามมินมาค่ะ" เดินนำไปยังห้องนอนที่อยู่อีกฝากหนึ่งของบ้าน

"ค่ะ" เดินตามหลังมินไปข้างในห้อง

"เป็นไงคะ พอจะอยู่ได้ไหม" 

"ยิ่งกว่าอยู่ได้อีกค่ะ" ส่งยิ้มให้มิน

"ดีเลยค่ะ มินคงจะไม่ต้องแนะนำอะไรพี่มาก เพราะพี่ก็ผ่านงานแบบนี้มาเยอะแล้ว"

"ค่ะ แต่ว่าอยู่ที่ตัวคนไข้ด้วยว่าจะให้ความร่วมมือหรือเปล่า" ดูจากท่าทางภาคินแล้วเหมือนจะไม่อยากจะให้ใครยุ่งด้วย

"เรื่องนั้นมินว่าพี่น้อยค่อยๆ ทำความรู้จักกับพี่คินไปนะคะ มินจะช่วยพูดให้อีกแรงหนึ่งค่ะ"

"ค่ะ"

"งั้นก็ไปหาพี่คินกันค่ะ" มินเดินนำออกไปจากห้อง

มินเดินไปหยุดตรงหน้าประตูห้องภาคิน เคาะไปตามมารยาทแล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นภาคินกำลังนั่งหันหลังให้พร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง

"พี่คินค่ะ จะให้พี่น้อยช่วยเหลืออะไรก็บอกได้เลยนะ" 

"ยังไม่มีออกไปก่อนเถอะ"

"พี่คินจะเข้าห้องน้ำหรือจะอาบน้ำอะไรก็บอกให้พี่น้อยช่วยเลยนะคะ อย่าทำเองเดี๋ยวจะล้มลงไปกับพื้น" 

"พี่รู้แล้วตอนเย็นค่อยเข้ามาอีกทีก็แล้วกัน" 

"ก็ได้ค่ะ" 

"คุณคินเรียกใช้พี่ได้ตลอดเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ" น้อยเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

"มินยอมรับนะคะ ว่าพี่คินไม่เหมือนเดิมคงต้องเอาใจหน่อย" มินบอกกับน้อย

"พี่เข้าใจค่ะ จากคนที่เคยเดินได้ปกติต้องมาอยู่ในสภาพนี้" 

"มินหวังว่าพี่คินจะใหัความร่วมมือกับพี่นะคะ" 

"พี่ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ" 

ด้านกิ่งกำลังคุยโทรศัพท์กับแม่ของตัวเองที่อยู่ต่างประเทศ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว 

"แม่ค่ะ ก็กิ่งบอกไปแล้วไง ว่ากิ่งไม่ได้รักพี่คินแล้ว"

"แสดงว่าลูกโกหกทางโน้นใช่ไหม ว่าคินเขาขอถอนหมั้นลูกเอง"

"ไม่ได้โกหกค่ะ พี่คินเขาบอกทางพ่อแม่เขาแบบนั้นเอง"

"ถ้าทางโน้นรู้ว่ากิ่งไม่พูดความจริงทั้งหมด เขาจะคิดยังไง กิ่งเคยคิดบ้างไหม" 

"แม่หยุดพูดเรื่องนี้ สักทีเถอะค่ะ "

"คงไม่ได้หรอก คุณสุวัตรเขาโทรมาขอโทษฝ่ายเราตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ที่คินเขาขอเลิกกับลูก แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่อยากให้คินมาเป็นภาระให้ลูก เห็นไหมเขาดีกับเรามาก แต่ทำไมลูกถึงนอกใจนอกกายเขาได้ แม่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ" 

"แม่ก็พูดได้สิ แม่ไม่ลองมาเป็นกิ่งแม่ไม่เข้าใจหรอก แค่นี้ก่อนนะคะ" กดวางสายทันทีด้วยความโกรธ

ด้านมะลิกำลังเดินตรวจคนไข้กับหมอต้นที่แผนกผู้ป่วยหญิง ทั้งคู่สนิทสนมกันจนเพื่อนพยาบาลคนอื่นอิจฉามะลิกันยกใหญ่โดนเฉพาะไอซ์พยาบาลสาวร่วมแผนก

"มะลิจ้ะให้ฉันช่วยอะไรไหม" ไอซ์มองหน้าหมอต้นไม่วางตา

"ไม่มีจ้ะ ใกล้จะตรวจเสร็จแล้วล่ะ"เดินตามหลังหมอต้นไป

"เห็นว่าหมอชอบก็เลยได้ใจ คิดจะเก็บไว้คนเดียวล่ะสิ" ไอซ์คิดในใจแล้วเดินออกไป

"มะลิหมดแล้วใช่ไหมคนไข้" หมอต้นหันมาถามมะลิที่เดินตามหลังอยู่

"หมดแล้วค่ะ" 

"งั้นพี่ไปตรวจคนไข้แผนกอื่นต่อก่อนนะ" 

"ค่ะ" รับคำแล้วเดินออกไป 

แต่ทางเดินเพิ่งจะถูเสร็จใหม่ๆทำให้มะลิลื่นจะล้มลง  โชคดีที่หมอต้นรีบเข้าไปคว้าตัวเอาไว้ก่อนทำให้มะลิตกอยู่ในกอดแขนไปโดยปริยาย ทุกการกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของไอซ์หมดที่แอบมองดูอยู่ห่างๆ

"มะลิเป็นอะไรไหม" โอบเอวไว้

"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยไว้ทัน"ผลักออกห่างจากหมอต้นทันที

"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เดินระวังอีกนิดก็แล้วกัน พื้นมันลื่นอยู่"

"ค่ะ มะลิจะระวังให้มากกว่านี้"

"พี่ไปก่อนนะ"

"ค่ะ" เดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ

มะลิรู้ว่าหมอต้นคิดกับเธอมากไปกว่าความเป็นพี่น้องกัน แต่เธอกลับไม่คิดอย่างนั้น ที่เธอสนิทกับหมอต้นก็เพราะความเป็นกันเองของหมอต้นมากกว่าที่เป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าหมอต้นจะเพิ่งย้ายมาอยู่ไม่กี่เดือนก็ตาม 

พอตกเย็นน้อยก็เข้าไปข้างในห้องของภาคินเพื่อช่วยจัดการเรื่องส่วนตัวต่างๆ ของภาคิน

"คุณคินจะอาบน้ำเลยไหมคะ เสร็จแล้วจะได้ไปทานข้าว" 

"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจะเข้าไปอาบเอง เอาผ้าเช็ดตัวไปแขวนไว้ในห้องน้ำก็พอ" 

"ไม่ได้นะคะ อย่างน้อยให้พี่ช่วยยกตัวคุณวางลงตรงเก้าอี้ในห้องน้ำก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณจะลงจากรถเข็นยังไงคะ" 

"ฉันบอกว่าจะทำเองไง ออกไป!" ตวาดเสียงดัง

น้อยสะดุ้งตกใจรีบออกไปจากห้องตรงไปหามินที่บ้านหลังใหญ่ทันที เพราะกลัวภาคินจะไปล้มในห้องน้ำ

"อ้าว พี่น้อยมีอะไรหรือเปล่าคะ" 

"คือคุณคินเขาไม่ยอมให้พี่ช่วยเหลืออะไรเลยค่ะ พี่กลัวว่าจะไปล้มในห้องน้ำ" 

"ให้มันได้อย่างนี้สิพี่คิน รีบไปกันค่ะ" ถอนหายใจแรงๆ แล้วเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็ก

พอมินเข้าไปในห้องก็เจอแต่ความว่างเปล่า แต่ประตูห้องน้ำกลับปิดอยู่ มินจึงเคาะประตูเรียก

"พี่คินค่ะ มินเข้าไปได้ไหมคะ" 

"เข้ามาเลย ประตูไม่ได้ล็อค"

มินได้ยินอย่างนั้นก็เปิดประตูเข้าไปก็เจอภาคินล้มลงไปกองนอนอยู่บนพื้นห้องน้ำ พยายามจะลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่เอาไว้สำหรับนั่งอาบน้ำโดยเฉพาะ

"ตายแล้ว!พี่คิน พี่น้อยมาช่วยกันค่ะ" มินกับน้อยจึงช่วยกันพยุงตัวภาคินนั่งลงบนเก้าอี้

"พี่คินทำไมดื้อ จังเลยคะ ทำไมไม่ให้พี่น้อยช่วยตั้งแต่แรก" 

"พี่อยากจะทำเองบ้าง ให้คนอื่นช่วยเหมือนไม่มีค่ายังไงก็ไม่รู้" 

"มินรู้ค่ะ แต่มินอยากให้พี่เปิดใจรับความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง" พูดพลางถอดเสื้อกับกางเกงของภาคินออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในตัวเดียว

"จะอาบเองหรือว่าจะให้มินอาบให้ค่ะ" หยิบแชมพูกับสบู่เหลวอาบน้ำมาวางไว้ใกล้ๆตัวภาคิน

"พี่อาบเองดีกว่า" 

"อาบเสร็จแล้วก็บอกด้วยนะคะ มินจะรออยู่ตรงหน้าประตู" หยิบฝักบัวพร้อมกับเปิดน้ำยื่นให้ภาคินแล้วปิดประตูออกมายืนรออยู่ตรงหน้าห้องน้ำ

"พี่น้อยอดทนหน่อยนะคะ" 

"ค่ะ พี่จะพยายามทำให้ดีที่สุด"

ด้านภาคินต้องอาบน้ำด้วยความยากลำบากเพราะนั่งอยู่กับที่ขยับได้แต่ท่อนบนส่วนท่อนล่างขยับไม่ได้ ใช้เวลาสักพักก็อาบเสร็จ

"มินพี่อาบน้ำเสร็จแล้ว" ภาคินตะโกนออกมาจากในห้องน้ำ

"ค่ะ" เปิดประตูเข้าไปก็เห็นภาคินเอาผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้แล้ว

"มาค่ะพี่น้อยช่วยกันยกตัวพี่คินไปนั่งลงบนวีลแชร์"

"ค่ะ" เข้าไปช่วยมินพยุงภาคินลงบนวีลแชร์ 

จากนั้นมินก็เข็นวีลแชร์ไปตรงตู้เสื้อผ้าแล้วจัดการใส่เสื้อผ้าให้พี่ชายตัวเองจนเสร็จ แล้วเข็นภาคินไปทานข้าวเย็นที่บ้านหลังใหญ่ต่อ 

"ทานเยอะๆ นะลูก"อัมพรส่งยิ้มให้ภาคิน

"ครับ" ตักข้าวเข้าปาก

"แล้วเป็นไงบ้าง น้อยเขาดูแลลูกดีไหม" สุวัตรถามขึ้น

"เพิ่งจะวันแรกเองต้องดูไปหลายๆ วันก่อนค่ะ" มินเอ่ยขึ้น เธอหวังว่าภาคินจะยอมให้คนอื่นเข้าใกล้บ้าง

"น้อยเขาผ่านงานมาเยอะแล้ว คงจะไม่มีปัญหาอะไร" อัมพรเอ่ยขึ้น

"ทานข้าวกันต่อเถอะ" สุวัตรเอ่ยขึ้น

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จมินก็เข็นภาคินกลับไปที่บ้านหลังเล็กเพราะเริ่มจะมืดแล้ว โดยมีน้อยเดินตามไปติดๆ พอเข้าไปในห้องมินก็พาภาคินไปแปรงฟันในห้องน้ำแล้วกลับมาที่เตียง มินกับน้อยช่วยกันพยุงตัวภาคินให้นั่งลงบนเตียง พร้อมกับจัดท่าให้นอนได้สบาย 

จากนั้นน้อยจึงทำกายภาพโดยการยกบริหารขาและเท้าทั้งสองข้างก่อนนอน โดยมีมินยืนมองอยู่ใกล้ ๆ พอครบเซ็ทตามที่กำหนดน้อยก็ออกไปจากห้อง

"เป็นไงคะ หลังจากที่ได้คลายกล้ามเนื้อแล้ว" มินถามขึ้น

"ก็เฉยๆ ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ไม่ต้องจ้างมาให้เสียเวลาหรอก" 

"พี่คินอย่าพูดอย่างนั้นสิคะ มินอยากให้พี่กลับมาเดินได้อีก อย่าเพิ่งท้อนะคะ" 

"มินกลับไปเถอะ พี่ง่วงแล้ว" 

"ก็ได้ค่ะ ฝันดีนะคะ มีอะไรก็เรียกพี่น้อยได้เลยนะคะ กระดิ่งอยู่ข้างๆ นี้เอง" มินหยิบกระดิ่งวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง

"พี่รู้แล้วไปเถอะ" หลับตาลง

มินจึงเดินไปปิดสวิชต์ไฟในห้องแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ พอมินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ก็ตรงเข้าห้องนอนตัวเองแล้วจัดการอาบน้ำแต่งตัว กำลังจะเข้านอนก็นึกถึงมะลิขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหามะลิทันที

"ฮัลโหลมะลิ นอนหรือยัง"

"ยังจ้ะ " 

"ฉันพาพี่คินกลับมาอยู่บ้านแล้วนะ เพิ่งกลับมาวันนี้เอง"

"จริงเหรอ แล้วพี่คินเขาเป็นยังไงบ้าง"

"ก็ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง คงเป็นเพราะสภาพจิตใจยังแย่อยู่" ถอนหายใจเบาๆ

"เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลาช่วยเยียวยาเท่านั้นแหละ" 

"แล้วเธอจะมาเยี่ยมพี่คินไหม" 

"ไปสิ วันพรุ่งนี้เลยก็แล้วกันตอนเย็นนะ"

"งั้นฉันไปรับเธอที่โรงพยาบาลนะ แล้วจะกลับไปส่งด้วย" 

"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปเองก็ได้" 

"ฉันไปรับนั้นแหละดีแล้ว เธอจะมาเองให้ลำบากทำไม"

"ก็ได้ ฉันจะรอก็แล้วกัน" 

"งั้นแค่นี้ก่อนนะฉันง่วงแล้ว ไว้เจอกันวันพรุ่งนี้ตอนเย็น" มินยกมือขึ้นปิดปากหาว

"จ้ะ ฝันดีนะ"  

หลังจากที่มินวางสายไปมะลิก็นึกถึงใบหน้าอันคมเข้มของภาคินที่เธอไม่ได้เห็นมานานแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด ล้มตัวลงนอนแล้วหลับตาลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel