2/6
“มันเป็นอาชีพของพวกเรานี่คะ ถ้าไม่เก่ง เงินก็ได้ไม่มาก มันเป็นวงจรชีวิตของพวกเราค่ะ”
“แล้ววันๆ นึง เธอรับแขกกันกี่คน หรือกี่ครั้ง”
“ก็แล้วแต่ลูกค้านะคะ ต้องการกี่ครั้ง นานแค่ไหนก็บอกกันได้ พวกเราจะทำตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลักค่ะ”
“แล้วถ้าเป็นมือใหม่ล่ะ ประเภทไม่เป็นงานน่ะ ทำยังไงกัน”
ไม่รู้ทำไมพอถามไปแล้วก็ต้องกลั้นใจฟังคำตอบ เอนริเก้กำลังกังวลเรื่องที่ไอรีนจะไปฝึกงานแบบนี้ ชวนให้เขาอยากรู้ไปด้วย ถ้าเป็นเธอ...จะต้องรับมือกับผู้ชายกลัดมันสักกี่คนต่อวัน
โอ้แม่เจ้า ถ้าให้เดา อย่างไอรีนคงไม่ต่ำกว่า 5!!!
“พวกนั้นเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ผู้ชายพากันค้นหาเลยนะคะ แล้วคุณคิดว่าพวกเขาจะตักตวงจากเธอสักเท่าไหร่ ไม่เอาแล้ว เราพูดเรื่องแบบนี้มานานาแล้วนะคะ ฉันว่าเราน่าจะเริ่มกันได้แล้ว ถ้าให้พูดตรงๆ ฉันอยากกินคุณจะบ้าตายอยู่แล้วนะพ่อรูปหล่อ”
เอนริเก้ถึงกับเกร็งข้อมือ เมื่อโสเภณีที่เขาเลือกมาไต่มือขึ้นไปตามหน้าขาเวียนวนอยู่เหนือซิปกางเกง อารมณ์ดิบถูกปลุกให้ลุกฮือยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง มือบางไล้บนแนวซิปอย่างยั่วยวน เขาเหลือบตามองเธอเห็นกำลังเลียริมฝีปากราวกับกระหายอยากกลืนกินเนื้อตัวของเขาเต็มแก่ ดวงตาของแม่สาวผมบลอนด์ก็ยังวาววามเรืองรองให้คนมองต้องลุกเป็นไฟ รถคันหรูราคาแสนแพงหักหลบเข้าข้างทางในตอนนั้น ร่างหนุ่มกำลังเกร็งขึ้นรับสัมผัสฉับพลันใบหน้าหวานใสของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพ
“หยุด!!! หยุดก่อน” น้ำเสียงแหบแห้งร้องบอกพร้อมมือหนาตะปบรั้งมือบางออกจากจุดศูนย์กลางของความรู้สึก เอนริเก้ส่ายหัว ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังคล้อยตามการปลุกเร้าของแม่สาวโสเภณีคนสวย สมองของเขากลับครุ่นคิดถึงสาวลูกครึ่งผู้ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ผู้ที่คอยยั่วยวนปั่นหัวแม้ในยามหลับและยามตื่น
“ทำไมคะ”
เอนริเก้โคลงหัว หยิบเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยัดใส่มือบาง
“แค่นี้ หวังว่าคงมากพอสำหรับการนั่งรถเล่นนะ” เขาบอกเธอ แล้วกำมือของเธอไว้ “ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
“เปลี่ยนใจ? อย่าบอกนะว่าคุณนึกถึงเธอคนนั้นอยู่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันคงต้องบริหารเสน่ห์มากกว่านี้เสียแล้ว ฉันคิดว่าเสน่ห์ของฉันต้องมันใจคุณได้อยู่แล้วเชียวนะ แต่เปล่าเลย ผู้หญิงในหัวคุณเธอมีอิทธิพลต่อคุณมากกว่าใคร ฉันคงต้องยอมแพ้”
“ฉันเสียใจ ฉันไม่ได้คิดถึงใคร แต่ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรต้องกลับไปทำด่วน” เขากำลังแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ แล้วแม่สาวผมบลอนด์ก็จับไต๋ได้เสียด้วย
“ทำด่วนตอนตี 1 จวนจะตี 2 นี่นะ ฮิ ฮิ คุณนี่น่ารักชะมัดเลยพ่อรูปหล่อ แต่เอาเถอะ ขอบคุณที่ให้เงินฉันนะคะ บ๊ายบายค่ะ” เธอลงจากรถไปโบกไม้โบกมือลาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เอนริเก้โบกมือเพียงเล็กน้อยแล้วเคลื่อนรถออกไป
ชายหนุ่มก้มลงมองหลักฐานความเป็นชายที่นิ่งสงบของตนยิ้มๆ นี่เขาคงไม่ได้หมดสมรรถภาพทางเพศไปหรอกนะ เพราะแม่คนนั้นคนเดียวที่ทำให้เขาขายหน้าแบบนี้ แต่นี่...เธอไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ถ้าทำอย่างที่พูดจริงๆ เขาควรจะตามหาเธอให้พบหรือเปล่า
ไม่ล่ะ เขาจะปล่อยให้เธอทำตามความต้องการน่ะดีที่สุดแล้ว ผู้หญิงแบบนั้นต้องเอาตัวรอดได้แน่นอน ถ้าได้เจอหน้ากันอีกหน มีอีกเรื่องที่ควรจะบอก
...ถ้าคิดจะมัดใจเขา เธอก็ควรรักษาพรหมจารีย์เอาไว้ให้ได้ เธอต้องเก่งและบริสุทธิ์เพื่อเขาคนเดียว...
เอนริเก้ตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงงุน เขาสะบัดหัวไล่ความงุ่นง่านออกไปให้หมด เช้านี้จะมีการเจรจาขอซื้อวัวกระทิง ลูกค้ารายนี้เป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของบาเซโลน่า แต่ถ้าเทียบกับจวนเคราร์จแล้วยังไม่ติดฝุ่น ข้อนี้ไม่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาปฏิเสธการต่อรอง สำหรับลูกค้าทุกคนคือพระเจ้า แต่พ่อค้าและเจ้าของฟาร์มอย่างเขาก็มีสิทธิ์เลือกพระเจ้าเช่นเดียวกัน
ร่างสูงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ดื่มกาแฟให้สมองเปิดโล่งรับสิ่งดีๆ สักแก้ว สัปดาห์หนึ่งแล้วที่เขาไม่ได้พบเจอหญิงสาวตัวป่วน วันแรกๆ ก็คิดอยากตามหายให้รู้ว่าเธออยู่ไหน กำลังทำอะไร มาวันนี้เขาไม่ได้ลืมเธอแต่ปล่อยเธอไปสักระยะ อีก 3 สัปดาห์ แม่สาวตัวแสบนั่นจะต้องกลับมาแน่นอน
“เอริค” มารดาและบิดาของเขาหิ้วตะกร้าผลไม้เข้ามาให้ กระเช้าหวายที่บรรจุด้วยแอ๊ปเปิ้ลซึ่งเป็นผลไม้สุดโปรดของเขา เอนริเก้เป็นชายหนุ่มที่ชื่นชอบการทานผลไม้อย่างแอ๊ปเปิ้ลมากที่สุด พ่อกับแม่ของเขาก็คงซื้อพันธุ์ที่ดีที่สุดมาให้เหมือนเคย
“เอาแอ๊ปเปิ้ลมาให้ผมแต่เช้าเลยนะครับคุณพ่อคุณแม่”
“นี่น่ะ ไม่ใช่ของพ่อกับแม่หรอกนะเอริค หนูไอต่างหากที่เป็นคนเอามาให้” ชื่อของไอรีนแม่สาวยอดยุ่งทำให้เขาหูผึ่ง
“ไอรีนมาที่นี่หรือครับ” เขารีบถามแล้วเบือนหน้าซดกาแฟร้อนๆ ลงคอ ไม่เกรงว่ามันจะลวกปากลวกคอ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากาแฟที่ปรุงใหม่สดๆ ร้อนแค่ไหน
“ใช่ แต่กลับไปแล้ว เค้าฝากนี่ไว้ให้แก คงจำได้ว่าแกชอบกิน แอ๊ปเปิ้ลแค่ไหน” ดิเอโก้ผู้เป็นบิดาบอกบุตรชาย พลางนึกครึ้มถึงสีหน้าร่าเริงสดใสของคนที่ฝากกระเช้าใบนี้แล้วรีบร้อนจากไป สาวน้อย ไม่ใช่สิ ไอรีนเป็นสาวเต็มตัว อายุเกินเบญจเพสแล้วต่างหาก แต่เธอก็ยังเหมือนเด็กสาววัยใส ร่าเริงเป็นนิจ สีหน้าเบิกบานใครเห็นก็ต้องอมยิ้มตามอย่างอดไม่ได้
