ร้อนรักมาเฟีย

89.0K · จบแล้ว
พิมพ์ชนก
46
บท
104.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แอบมองเธออยู่เงียบๆ จากห้องส่วนตัว เฝ้าถามตัวเองอยู่ทุกวัน เมื่อไรจะมีโอกาสไปทำความรู้จักเธอ จะทำอย่างนั้นได้ยังไง ในเมื่อแม่ปลาน้อยของเขา มีเจ้าของแล้วนี่สิ ทำยังไงก็ไม่สามารถตัดใจได้ ต่อให้เธอมีเจ้าของก็ยังชอบอยู่ดี คราวนี้ก็ร้อนถึงสองบอดี้การ์ดมาดเท่ ทนเห็นเจ้านายแอบรักสาวข้างเดียวไม่ไหว เลยวางแผนเพื่อให้เจ้านายสมหวัง ลักพาตัวสาวเจ้ามาส่งให้ถึงปากมาเฟียหนุ่มซะเลย แทนที่จะปฏิเสธ คอนเนอร์กลับรับของชิ้นนั้นไว้ แล้วจัดการฟาดซะจนเกลี้ยง แถมยังมัดมือชกจับเธอจดทะเบียนด้วยความใจร้อนของตัวเองซะนี่ แล้วอย่างนี้ยายปลาน้อยน่ารักจะทำอย่างไร เมื่อดิ้นไม่หลุดทั้งพฤตินัยและนิตินัย เลยกลายเป็นเมียมาเฟียด้วยความเร่งรีบอย่างน่าตบ

นิยายรักโรแมนติกนิยายแอคชั่นนิยายรักนิยายปัจจุบัน

ตอน 1

ณ ร้านอาหารนานาชาติแห่งหนึ่งชื่อ มาดามริสา (Madamrisa) บนถนนไม่เคยหลับ ย่านท่องเที่ยวยามราตรีบรรดาคนที่รักแสงสีเสียง และความสว่างเรืองรองแว๊บวับของนีออน ถนนเส้นนี้ตลอดสายต่างแวดล้อมไปด้วย ร้านอาหาร ผับ บาร์ แม้กระทั่งอาบอบนวดชื่อก้องบนถนนแห่งนี้ ตึกสูงตระหง่านอลังการมองเห็นแต่ไกล คือที่ตั้งของ เดอะ คิวท์ (The Cute) สวรรค์ของหนุ่มๆ ทั้งหลายคน หนุ่มหลายช่วงวัยต่างกันลงความเห็นว่า ที่นั่นคือสวรรค์ที่ต้องใช้เงินโปรยเพื่อชื่อความสุข

“ไปไหนต่อดีหนูดา หาอะไรดื่มกันดีไหม ก่อนกลับบ้านกระโดดขึ้นเตียงหลับสบาย” มันตรา ศุวิชา เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังเพื่อนร่วมงาน หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ เพื่อนสาวคนสวย

“กลับบ้านสิยะ ฉันอยากกระโดดขึ้นเตียงนอน จะแย่อยู่แล้ว” เจ้าของชื่อหนูดา หรือชื่อตามบัตรประชาชน คือ ธัญดา ภูมิสิริ เจ้าของดวงหน้าสดใส สวยหวานโฉบเฉี่ย แต่งหน้าธรรมชาติอ่อนหวานตามแบบที่เธอชอบ ไม่ทำให้หน้ารกหนักด้วยเครื่องสำอาง ชายตามองเพื่อน ยกมือขึ้นลูบต้นคอตบสองสามทีเบาๆ ไล่ความเมื่อยล้าจากการทำงาน ในเวลาเกือบตีสาม

“นั่งรอพี่จุ๊บอีกแล้วสิท่า” คำถามที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว หากแต่มันตรากลับถามซ้ำอยู่บ่อยๆ

“อืม...ไม่ให้รอพี่จุ๊บ จะให้ฉันแมวที่ไหนย” คำตอบจากปากธัญดา สาวสวยที่ชีวิตไม่สวยหรูเท่าใดนัก เธอต้องทำงานทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อเก็บเงินเรียนต่อ ในภาคสมทบแม่ไม่สามารถส่งเรียนต่อได้ ดีที่รักการเรียนรักความก้าวหน้าไม่คิดเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารไปตลอดชาติ จึงทำงานหาเงินทุกวิถีทางเพื่อมาใช้จ่ายส่วนตัวและ จุนเจือครอบครัว

“ปากอย่างนี้สิแขกที่มาเกาะแกะ ถึงได้กระเด็นไปคนละทาง มีสายตาไว้มองคนอื่นนอกจากพี่จุ๊บบ้างก็ดีนะ” มันตรา สาวผิวสีน้ำผึ้งแกล้งหยอกระคนเตือนความปากไวของเพื่อน บ่อยครั้งที่เธอเคยเตือนธัญดา เรื่องผู้ชายคนพิเศษของเพื่อน ไม่น่าไว้ใจ ทุกทีก็ไม่ได้อะไรจากการแอบเตือน เพื่อนเธอคงรักผู้ชายคนนี้มาก ก็ปากหวานนี่ไม่หลงไม่รักได้อย่างไร

“เสี้ยมให้คนที่รักกันทะเลาะกันนี่นะยายตรา อยากเสียบแทนฉันหรือไง” ธัญดาต่อว่าเพื่อนเล่นๆ ไม่ได้ต้องการต่อว่าจริงจังอะไร ยายนี่ก็ปากแบบนี้เธอไม่ถือสา

“เหอะ...กล้าพูดนะยะ ถึงพี่จุ๊บของแกจะหล่อลาก มากเสน่ห์ตี๋อินเตอร์ เนี๊ยบสุดบรรยาย แถมน่าลากไปฟาดในน้ำ แต่ฉันขอผ่าน พี่จุ๊บดูดีไปทุกอย่าง แต่ไม่ใช่สเป็คของฉัน อย่างฉันต้องดิบๆ เถื่อนๆ มีหนวดนิดเคราหน่อย อ๊าย แก...พูดแล้วเปรี้ยวปาก” พูดจบมันตราร้องกรี๊ดๆ อยากกินผู้ชายที่ตรงสเป็ก แอบนึกถึงใครบางคนนั่นแหละ เรื่องของเรื่อง

“ชิ...ยายคนมีฝันอยากได้ของเถื่อน ป่านนี้เจอหรือยัง” บ่อยครั้งที่ธัญดาเห็นเพื่อนเพ้อเจ้อ ผู้ชายประเภทนี้ ผู้ชายมีหนวดเคราฝรั่งตัวใหญ่ เห็นทำตัวเป็นหมากระเป๋ามองเครื่องบินเหม่อผ่านกระจกร้าน เดอะ คิวท์ บ่อยๆ

“เจอแล้วสิไม่งั้นจะยิ้มหวานได้ยังงี้หรา แต่เกินสอยไปหน่อย ทำตัวเป็นยีราฟชะเง้อไปวันๆ” ก็เครื่องบินที่เธอหมายปองอยู่บนตึกเดอะ คิวท์ นี่เองชะเง้อคอยาวเป็นยี่ราฟ วันๆ แค่ได้เห็นรถ เห็นหลังคา ก็มีความสุขเก็บไปฝันอย่างมีความสุขได้ในโลกที่ไม่รบกวนใครของเธอ

“เอาน่าสักวันแกก็ต้องได้กินของที่แกอยากสมใจ ว่าแต่บอกได้ไหมคนคนนั้นเป็นใคร” ธัญดาพูดให้กำลังใจเพื่อนที่อยากกินฝรั่งเคราดก

“ชายในฝัน คงมีแต่จริงในฝันละว้า” นี่ละน๊าเขาเรียกฝันล้มๆ แล้งๆ อยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีทางได้เป็นเจ้าของ

“คนเรามีสิทธิ์ฝัน เพื่อความสุขไว้ต่อลมหายใจ เอาเป็นว่าฝันต่อไป ว่างๆ ดึงออกมาจากความฝัน ออกมาเชยชมบ้าง เออ ว่าแต่แกฝันเปียกบ้างไหมวะ” พูดอย่างสยิวหยอกล้อเพื่อน

“ยายบ้า...ผู้หญิงที่ไหนฝันเปียก” ตบฝ่ามือกับแขนธัญดา พูดออกมาได้ยังไงลามก ถ้าเป็นแบบนั้นได้เธอคงเปียกทุกวัน เพราะฝันถึงพ่อเครางามทุกคืนบางครั้งมีแถมกลางวันอีกด้วย

“สิทธิชายหญิงเท่า ผู้ชายมันฝันเปียกได้ เราก็ฝันได้สิ” ทฤษฎีบ้าๆ บอๆ ของธัญดาช่างห่ามอย่างน่าตี ดีแต่ปากเคยปฏิบัติแล้วอย่างนั้นหรือ พูดติดตลกไปได้

“ยะ แม่คนปากดี” เจริญพรเถอะแม่คุณผู้หญิงฝันเปียก คงได้เปียกทั้งบ้านทั้งเมือง “ว่าแต่คืนนี้พี่จุ๊บจะมารับหรือเปล่าล่ะ”

“มาสิ เขาบอกจะมารับก็ต้องมา สายนิดสายหน่อยไม่เป็นไร” อันที่จริงเธอเองก็เบื่อการมาสายของแฟนเต็มที ไม่รู้เพราะอะไรจึงทนคบกันอยู่ได้ทั้งหลายปี ทั้งที่ความสัมพันธ์ดูคลอนแคลน ไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ ยิ่งช่วงหลังมานี้ จิรายุจะมีข้ออ้างเบี้ยวไม่มารับเธออยู่บ่อยครั้ง คิดในมุมกลับกัน บางทีเขาอาจเป็นฝ่ายทนเธอไม่ไหวด้วยซ้ำ เวลาทำงานของเธอหกโมงเย็น เลิกตีสอง กว่าจะเก็บร้านเสร็จปาเข้าไปตีสาม หนำซ้ำกลางวัน ควรหาเวลาว่างไปเที่ยวกับจิรายุบ้าง แต่ก็เพลียจากการทำงานหลับพักผ่อน ไม่อยากออกไปไหน ทั้งหมดเพราะต้องทำงานหาเงินเพื่อครอบครัว บางครั้งยังแอบไปรับงานพิเศษอีกด้วย

กระเทยปากร้ายเปราะตัวยักษ์ไซต์ยุโรป ‘เจ๊หนูแดง’ เป็นนายหน้าจัดหางานพิเศษให้ ถ้ามีงานแบบนี้นับได้ว่าเงินดี ใช่ว่าจะมีงานพิเศษแบบนี้บ่อยๆ นานๆ ทีจะได้สักงาน

“รักพี่จุ๊บมากล่ะสิแก” คำถามที่ไม่ควรถามจากปากมันตราได้หลุดออกมาบ่อย รู้ว่าไม่ควรถามแต่เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้จึงอดใจไม่ไหวทุกที คิดปากอยากพูดบางอย่าง ให้ธัญดาฟังใจจะขาด พอพูดออกไปเกรงโดนกล่าวหาว่าตัวเองเป็นพวกเสี้ยม ชอบทำให้ความรักคนอื่นร้าวฉาน

“ก็รักแต่ไม่ได้ดิ้นตายซะหน่อย” ก็แค่ให้เกียรติกันในฐานะแฟน คนเราคบกันก็แบบบนี้ รักให้เกียรติ หรือมันต้องมีอย่างอื่นด้วย ต่างคนต่างทำงาน มีบ้างที่ไม่มีเวลาให้กัน คำว่าแฟนไม่หมดอายุเหมือนขนมปังนี่

“เขาเคยพูดถึงอนาคตกับแกหรือเปล่าวะหนูดา ประมาณจะแต่งงาน จะพาไปไหว้พ่อแม่แนวๆ นี้” มันตราอดสอดเรื่องชาวบ้านที่เป็นเพื่อนสนิทของตัวเองไม่ได้

“ยัง” ตอบคำเดียวสั้นๆ ห้วนๆ ธัญดามักเป็นซะอย่างนี้ ทีแบบนี้กล้าพูดกับเพื่อน แต่กับแฟนปากอมลูกแอปเปิ้ล พูดไม่ออกเวลาอยู่กับพี่จุ๊บ

“แล้วแกเคยคิดจะถามเขามั่งมั้ย เขาเงียบแกก็เงียบใส่” ว่าแต่กูทำไมต้องไปแส่เรื่องของคนอื่นวะมันตรา สงสัยตัวเอง ก็มันอยากแส่นี่ ในเมื่อเป็นเรื่องของเพื่อนไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย

“มะ...ไม่เคยนะ เขาไม่พูดฉันเองก็ไม่อยากถาม” สนใจทำมาหากินก่อนเรื่องมีครอบครัว ถ้ามีครอบครัว ภาระอาจจะเพิ่มขึ้น หรือมีเรื่องไม่อิสระทางความคิดมาแทน ซึ่งเธอยังไม่พร้อม เป็นแฟนกันแบบนี้ ดีกว่าต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ในความคิดธัญดา

“คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พี่จุ๊บจบมาก็สามปีแล้ว ยังไม่มีวี่แววจะขอแกแต่งงานหรือวะ ไม่ใช่ว่าเขาแอบมีคนอื่นหรอกนะ” จุดไฟให้เพื่อนฉุกคิดบ้าง เผื่อจะเอะใจเรื่องแฟนบ้าง

“ฉันยังมีฝันที่อยากทำ ยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้หรอกแก” บางทีประสบการณ์ของแม่ก็คอยตอกย้ำสอนเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน การมีคู่ไม่ใช่เรื่องสนุกดูตัวอย่างครอบครัวอันล้มเหลวระหว่างพ่อและแม่เป็นอุทาหรณ์ เธอกำพร้าพ่อเพราะความมักมากไม่รู้จักพอของพ่อ ทิ้งแม่ให้จมอยู่กับความเสียใจ จนหันไปหาสุรายาเมาเป็นสรณะ หลังๆมานี้เพื่อนขาเหล้าชวนเป็นขาไพ่แม่ก็ไปรำพัดรำไพ่ด้วย ดีหน่อยไม่ได้เล่นเอาเป็นเอาตายก็แค่แก้เซ็งแก้เหงา แต่นั่นก็เสียเงินอยู่หลายพันในแต่ละวัน จนบางทีเงินค่ากับข้าวที่เธอทิ้งไว้ให้แม่หมดไปกับการจ่ายค่านับเลขในวง