บทย่อ
“ในวันที่ฉันควรจะได้ยืนข้างเขา…กลับกลายเป็นวันที่เขายืนอยู่กับคนอื่น” ความรักวัยมหาวิทยาลัยของเราเหมือนจะราบรื่นดี จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่เขาเปลี่ยนไป หลังจากพบว่าเพื่อนสนิทของฉันคือเพื่อนรักในวัยเด็กของเขา วันรับปริญญา วันสำคัญที่ทุกคนถ่ายรูปคู่กับคนรัก แต่ฉันกลับต้องยืนเดียวดาย มองเขายืนกอดกับใครอีกคนที่ไม่ใช่ฉัน… และนั่นคือวันที่ฉันเลือกจะหายไปจากชีวิตเขา ลบทุกความทรงจำที่เคยมี…แต่โชคชะตากลับไม่ปล่อยให้มันจบง่ายๆ เมื่อฉันกลับมาอีกครั้ง กลับต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จนฟื้นขึ้นมาในห้องมืดทึม ที่ทุกอย่างตกแต่งราวกับห้องของมาเฟียในนิยาย และที่น่าตกใจกว่าคือ…เขาลักพาตัวฉันมา! ชายหนุ่มร่างสูงกำยำ ผู้เคยเป็นเจ้าของหัวใจฉัน ก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูพันเอวเพียงผืนเดียว ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาหัวใจฉันแทบหยุดเต้น… :: “ได้ข่าวว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว?” เขาจ้องมาทางฉัน พร้อมแววตาที่เปลี่ยนไป…
ตอนที่ 1
โรงอาหารหรูในวิทยาลัย
ซุบซิบๆๆๆ
ทุกคนต่างแตกตื่นพร้อมกับเสียงซุบซิบดังลั่นไปกับอะไรบางอย่างท่ามกลางโรงอาหาร
“อร๊าย!!!!กรี๊ด!!แก!อีเจส!!อร๊าย!!!”
วิว เด็กสาวที่บนหัวเต็มไปด้วยนํ้าซุบและเส้นหมี่ได้ยืนกำมือตัวเองแน่นและกรี๊ดออกมาดังลั่นไปทั่วโรงอาหาร สายตานับพันในนั้นต่างจับจ้องมาที่พวกเธอแต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามายุ่งหรือไปเรียกครู หลังจากที่เธอได้กรี๊ดออกมาอย่างพอใจ เธอเดินเข้ามาหาคนที่ถือจานก๋วยเตี๋ยวยืนสะใจอยู่ตรงหน้าพร้อมยกมือข้างนึงขึ้นจะตบไปยันหน้าเธอคนนั้น
เพี๊ย!!!
เสียงฝ่ามือกระทบบนใบหน้าดังสนั่น แต่คนที่ตบนั้นไม่ใช่วิวทว่ากลับเป็นเธอเองที่โดนตบแทน แรงกระทบบนหน้าเธอแรงมากจนหน้าหันไปตามแรงตบก่อนที่เธอจะหันกลับมาพร้อมกับเอามือกุมบนใบหน้าที่แดงชํ้าเป็นรอยฝ่ามือ
เด็กหญิงที่ตบเธอยืนกอดอกมองอย่างสะใจด้วยรอยยิ้มอันพึงพอใจในตัวเองก่อนจะพูดขึ้น
“หึ!อย่ามาซ่ากับกู!!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเลือนหายไปพร้อมกับคำพูดที่สิ้นสุดลง ใบหน้าอันแสนคมสวยกับตากลมโตที่น่ารักอยู่ตลอดนั้นตอนนี้กลับน่ากลัวอย่างเห็นได้ชัดว่าความอดทนของเธอนั้นเหลืออีกไม่มากนัก
“เจส…พอเถอะแก…อย่ามีเรื่องเลย”
เพื่อนสนิทอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยื่นมือเล็กของเธอออกมาจับบนแขนเจสอย่างเบามือกับสายตาที่บ่งบอกเพื่อนว่าให้ใจเย็นๆ เจสหันมามองเพื่อนตัวเองที่ส่ายหัวเบาๆให้เธอ เธอมองผู้เป็นเพื่อนอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ…”
“เธอรีบไปสิ!ยืนบื้อทำซากอะไรอยู่ล่ะ”
กอบัว เพื่อนสนิทเมื่อเห็นเจสใจเย็นลงแล้วก็รีบไล่วิวออกไปก่อนที่จะมีเรื่องกันอีกครั้ง
“ชิ!ขู่ยัยนั่นกำลังสนุกเลยอ่ะ!”
เจสที่เห็นวิวเดินออกไปแล้วก็ได้เปลี่ยนสีหน้าทันทีอย่างกับว่าที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อครู่ไม่ใช่เธออย่างไงอย่างงั้น เธอสบัดมือออกจากกอบัวก่อนจะกอดอกแล้วหน้ามุ่ยเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“อ้าว…เจส!นี่แกแกล้งทำเป็นโมโหหรอกหรอ??สรุปแกไม่ได้โมโหจริง?”
กอบัวที่อึ้งไปกับเพื่อนตัวเองที่เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วอย่างกับฟ้าผ่า ได้แต่เดินตามเจสอย่างงงๆ ส่วนเจสที่กลับไปนั่งก็ไม่ได้สนใจอะไร พร้อมจะสวบข้าวตรงหน้าอย่างสบายใจอีกต่างหาก อ้าปากกำลังจะตักข้าวเข้าปากอย่างหิวโหยแต่ก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงแหลมดังสนั่นมาแต่ไกล
“อีเจส!!!อีชะนี!!!”
เสียงที่คุ้นเคยได้ดังมาแต่ไกลก่อนจะเห็นเจ้าตัวโผล่ออกมาตามเสียง ชายหนุ่มรูปร่างผู้ชายแต่ใจเป็นหญิงวิ่งกระดุ๊กกระดิ๊กมาทางโต๊ะที่เจสกับกอบัวนั่งอยู่อย่างเร็วแสง
“อร๊าย!!!ตายแล้วแม่เจ้า!!!”
ชายหนุ่มวิ่งมาก็ต้องเบรคด้วยความเร็วเมื่อนํ้าในแก้วที่ถือมาตอนวิ่งได้หกใส่กางเกงตัวเองจนเปียก
“หกหมดแล้วมั้ยนั่นอีจีโน่!” กอบัวพูด
“มึงจะรีบไปไหน อีตุ๊ดแก่”
เจสที่เท้าคางมองอยู่นั้น พูดออกมาด้วยนํ้าเสียงยียวน จีโน่เมื่อได้ยินเจสพูดแบบนั้นก็เท้าเอวมองเธอตอบสวนเสียงแหลมวี๊ด
“อีเจส!!กูยังไม่แก่มั้ย ห๊ะ!!ว่าแต่มึงเถอะ มีเรื่องนี่ไม่เคยชวนกูเลยอีชะนี!”
จีโน่พูดเสร็จเดินสะบัดตุดมานั่งข้างๆกอบัว
ทั้งสามนั่งกินข้าวกันไปสักพัก แต่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องหนึ่งในพวกเค้าสามคนเอาไว้ตลอด ดั่งว่าพร้อมจะเข้ามาขยํ้าเธอได้ทุกเมื่อ
อีกด้านในโรงอาหาร
“แฮ่ม!มองน้องเค้าขนาดนั้นไม่เดินเข้าไปงับกินเลยหล่ะครับคุณเพื่อน”
เซนเซ ชายหนุ่มผู้นั่งมองเพื่อนตัวเองอยู่นานก็อดใจที่จะแซะไม่ได้เมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่จ้องโต๊ะฝั่งตรงข้าม
ปอร์เช่ที่กำลังจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อก็ได้เหล่ตามามองเพื่อนก่อนจะสวนตอบ
“เสือกครับ!”
“โห่ แรงส์!!” ฮันน่าเพื่อนสนิทอีกคนพูดขึ้น
“ว่าแต่มึงจ้องน้องเค้าขนาดนั้น ชอบเค้าล่ะสิ~”
เซนเซเอ่ยปากถามเขาด้วยนํ้าเสียงยียวนกวนตีนแต่
“หึ…!”
สีหน้าปอร์เช่ที่ได้ยินคำถามนั้นกลับบ่งบอกถึงอะไรบางอย่างพร้อมกับยกยิ้มขึ้นด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“เห้ย…อย่าบอกนะว่าเหยื่อคนต่อไปของมึงคือน้องเจส??”
ฮันน่าเมื่อเห็นปอร์เช่ทำหน้าแบบนั้นก็ได้ยักคิ้วถามด้วยความสงสัย
“กูว่าถ้ามึงคิดแบบที่ไอน่าพูดจริงๆนะ คงยากแล้วแหละ”
เซนเซพูดพร้อมกับหยิบแก้วนํ้าขึ้นมาดูด ฮันน่าหันมาทางเซนเซแล้วยักคิ้วถามชายหนุ่มอีกครั้ง
“ทำไมหล่ะ?”
เซนเซวางแก้วนํ้าที่ถือลงบนโต๊ะก่อนตอบคำถามฮันน่าสีหน้าจริงจังยิ่งกว่าอะไร
“นี่มึงไม่รู็จริงดิ! น้องเจสคณะบริหารน่ะ ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากไอ้ปอร์มันเลย หักอกหนุ่มๆคือที่หนึ่ง!”
ฮันน่าตั้งหูตั้งตาฟังที่คนตรงหน้าพูดเป็นอย่างดีพร้อมกับพยักหน้าไปกับที่ได้ยิน
“ใครบอกล่ะ… บางที…อาจจะไม่ใช่แค่เหยื่อก็ได้…”
ปอร์เช่พูดโดยที่ตายังคงมองไปทางเธออย่างไม่ละสายตาด้วยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์บนใบหน้า
“เอาแล้วๆ~~” ทั้งสองต่างมองมาที่ปอร์เช่
“หึ…หักอกคนอื่นคือที่หนึ่งงั้นหรอ…คงจะเป็นเพลย์เกิร์ลสินะ! ของชอบเลยด้วยสิ…”
มุมปากหยักเหยียดยิ้มพึมพำอยู่คนเดียวโดยไม่สนใจเพื่อนสองตัวข้างๆเลยสักนิด!

