ริษยาร้ายซ่อนรัก

รถหรูราคาหลายสิบล้านกำลังเคลื่อนเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านบนเนื้อที่กว่า 30 ไร่

เป็นคฤหาสน์สองชั้น โทนสีเทา-ขาว หลังคาคอนกระเบื้องเซรามิกสีเทาเข้ม

เป็นคฤหาสน์สไตล์คลาสสิกแบบยุโรป เน้นการตกแต่งหรูหรา อลังการ แบบกรีกโรมัน คล้ายปราสาทราชวัง มีความกว้างขวาง เรียบหรู ดูดี รอบๆจัดแต่งสวนได้อย่างสวยงาม น่าอยู่

เจ้าของบ้านเป็นนักธุรกิจหนุ่มมาดนิ่ง นิสัยรวย ที่มีสีหน้านิ่งและเย็นชา วัย 35 ปี

เมื่อรถหรูเข้ามาจอดลงหน้าบ้าน ประตูรถก็ถูกเปิดออก

ปรากฏให้เห็นเจ้าของรถหรูคันสีดำ ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ราวๆ 188 เซนติเมตร กำลังเปิดประตูลงมาจากรถ

เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่ติราวกับเป็นเทพสวรรค์ที่หลุดออกมาจากซีรีส์จีน เพอร์เฟกต์ตั้งแต่หัวจรดเท้า

ขนคิ้วเรียวเรียงกันเป็นเส้นตรงตามรูปคิ้ว ส่งให้ใบหน้ามีเสน่ห์น่าดึงดูด

แววตาดำขลับมีความลุ่มลึกเย็นชาน่าค้นหา

สันจมูกโด่งโค้งเสริมให้ใบหน้าอันหล่อเหลาดูทรงพลังอำนาจ

ริมฝีปากหยักสวยได้รูปชวนหลงไหล อย่างยากจะอดใจไหว

เขาคือ วิน กวิน ธนินกุล เป็นหนุ่มโสดเชื้อสายไทย-จีน

เจ้าของบริษัทTHANIN GROUP ธนินกรุ๊ปหรือ(TNG) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของไทยที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก

ภายใต้การควบคุมของบริษัท TNG ครอบคลุมไปด้วยธุรกิจในด้านการค้าปลีกมากมาย อย่างกลุ่ม เกษตร-อาหาร อสังหาริมทรัพท์ และสื่อสาร-โทรคมนาคม

ทั้งนี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างTNG ยังขยายเครือข่ายธุรกิจให้ออกสู่ตลาดโลก

เมื่อประธานหนุ่มไฟแรงอย่าง กวิน นั้นได้มองหาธุรกิจใหม่ๆอยู่เสมอ

เพื่อขยายอาณาจักรธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ

อีกทั้งยังจับมือซื้อธุรกิจร่วมกับต่างประเทศอย่างประเทศพ่ออีกด้วย ( จีน )

เขาเป็นชายหนุ่มที่เกิดมาบนกองเงินกองทองอยู่แล้ว พอเกิดมาก็ถูกสอนเรื่องการทำธุรกิจ ถูกฝึกให้เป็นผู้บริหารงานมาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงช่วงวัยที่สมควร จึงออกมาก่อตั้งบริษัทเอง

ไม่ถึงสิบปี ประธานหนุ่มเช่นเขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างง่ายดาย

เขามีทรัพย์สินหลายแสนล้านด้วยตนเองในวัยเพียง 35 ปี

ขณะเดียวกัน ประธานหนุ่มอย่างเขาก็กลายเป็นคนไร้หัวใจไปโดยสิ้นเชิง และไร้ความรู้สึกไปตามประสบการณ์และสังคมที่เขาอยู่เช่นกัน

เขาเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญคนหนึ่งที่รักสนุกและเจ้าชู้มาก นอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า

แต่นี่เป็นวิถีคนรวยที่ต้องให้ความสำคัญกับบริษัทเป็นหลัก ส่วนเรื่องรักไม่ต้องพูดถึง เพราะคนรวยเช่นเขาจะซื้อมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น โดยที่ไม่ใช้ใจลงไปเล่นด้วย สำหรับเขาการซื้อหญิงสาวมาบำเรอความใคร่นั้นถือเป็นเรื่องปกติ

หากพอใจในตัวหญิงสาวคนไหน ก็จะจบลงด้วยการใช้เงินจ่ายหนัก ซื้อบ้าน ซื้อรถหรูให้สมกับที่หญิงสาวปรนนิบัติดีทำให้เขาพอใจ

หลังจากที่ลงจากรถแล้วร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย

เพราะเขาเพิ่งจบกิจกรรมบนเตียงกับหญิงสาวมาหมาดๆ พอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็จัดการถอดเสื้อผ้าโยนลงตะกร้าแล้วเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที

หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็ออกมาแต่งตัว พอแต่งตัวเสร็จแล้วเขาก็ออกไปทำงานตามปกติ พร้อมกับผู้ช่วยคนสนิทที่รู้ใจเขาทุกอย่าง อย่าง กร

" วันนี้ที่สตูดิโอมีถ่ายโษฆษณาของคุณนับหนึ่ง ท่านประธานจะไปดูหน่อยมั้ยครับ "

ผู้ช่วยกรเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติอย่างสุภาพนอบน้อม

ขณะที่สองมือจับพวงมาลัยเตรียมเคลื่อนรถออกไป สายตาจับจ้องออกไปบนท้องถนนอย่างมีสมาธิ

บุรุษในชุดสูทสีดำนั่งไขว่ห้างมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ โดยที่ผู้ช่วยคนสนิทเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเขานั้นคิดอะไร

สักพักเขาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยอย่างไร้อารมณ์ความรู้สึก

" ก็แค่ดาราหน้าใหม่คนหนึ่ง ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทเราล่ะ ใครเป็นคนเลือกมา "

บุรุษหน้านิ่ง เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสุขุมเย็นชาคล้ายไม่พอใจเล็กน้อย

ทำให้คนฟังรู้สึกหนาวๆเย็นๆในใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องอธิบายเหตุผลให้คนเป็นเจ้านายฟังอย่างใจเย็น

" ครับ คุณนับหนึ่งเป็นดาราหน้าใหม่ ที่ค่อนข้างมีฐานะยากจน

ที่เธอถูกเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทเรา ก็เพราะบุคลิกของเธอโดดเด่น มีความสวย น่ารัก ที่เป็นธรรมชาติ

แฝงไปด้วยความฉลาด มีไหวพริบดี เพรียบพร้อมไปด้วยนิสัยที่อ่อนโยน

ในแบบฉบับของหญิงไทย ตรงกับคอนเซปของทางทีมงานครับ "

" เธออายุเท่าไหร่ "

บุรุษผู้ไร้ใจเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น

" 22 ครับ เพิ่งเรียนจบ เท่าที่ทราบมา คุณนับหนึ่งส่งตัวเองเรียนจนจบด้วยครับ "

" จบด้านไหน "

" นิเทศศาสตร์ครับ "

" ลองเข้าไปดูหน่อย หากหน้าตาไม่ผ่าน ก็ให้คุณอิงฟ้ามาแทนเลย "

" ได้ครับ "

การสนทนาจบลงบรรยากาศภายในรถก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

รถคันหรูแล่นไปตามท้องถนนมุ่งหน้าสู่บริษัทที่เป็นตึกสูงใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหลวง

นับหนึ่ง หญิงสาวผู้มากความสามารถ บุคลิกดี มีเสน่ห์ ใบหน้าเรียวเล็กสวยสดใส น่ารักเป็นธรรมชาติ ไร้ซึ่งศัลยกรรม โบท็อกซ์หรือฟิวเลอร์ใดๆ

เธอสูง 165 เซนติเมตร รูปร่างผอมเพรียวเพอร์เฟกต์ นิสัยดี ยิ้มเก่ง เป็นมิตรกับทุกคน

เธอกำลังถ่ายโมฆษณาโพสท่าถือผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งในมือ หลังจากถ่ายทำโฆษณาเสร็จ ก็ถ่ายภาพนิ่งคู่กับผลิตภัณฑ์ต่อ

แชะ! แชะ! แชะ!

เสียงชัตเตอร์กล้องดังรัวพร้อมกับแสงแฟลชสว่างวิบวับต่อเนื่อง

" สวยครับ น่ารักมาก "

" คุณนับหนึ่งยิ้มให้สดใสขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ แบบนั้นแหละ ดีเลยค่ะ เยี่ยม "

ช่างภาพและคนที่คอยสอนโพสท่า เอ่ยชมไม่หยุดปาก

แต่คนเราเกิดมาก็ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ไปเสียทุกอย่างเสมอไปหรอก

แม้รูปร่างหน้าตานับหนึ่งจะเก่งและสวยสดใส น่ารัก เพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่ชีวิตเธอกลับรันทดน่าเวทนายิ่งกว่าละครน้ำเน่า

แม่เสียชีวิต พ่อแต่งงานใหม่ มีแม่เลี้ยงใจร้าย มีพี่สาวที่ข่มเหงรังแกและเอาเปรียบเธอมาตลอด

โดยที่เธอไม่มีสิทธิ์อ้าปากโต้เถียงหรือเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองได้เลย

ย้อนไปในวัยเด็ก ช่วงอายุ 7 ขวบ เธอเกิดมาพร้อมใบหน้าที่สวยสดใส เพอร์เฟกต์ไร้ที่ติตั้งแต่เด็ก

หลังจากแม่เธอเสียได้ไม่นาน พ่อของเธอก็พาแม่เลี้ยงเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับลูกติดที่อายุใกล้เคียงกับเธอ

หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยมีเสื้อผ้าดีๆ สวยๆ ใส่อีกเลย

ทุกครั้งที่ไปเดินห้าง เธอมีหน้าที่ถือของให้แม่เลี้ยงกับพี่สาว แล้วเดินตามหลังพวกเขาต้อยๆๆ ในมือหิ้วถุงพะรุงพะรัง ยิ่งกว่าทาสรับใช้

" คุณแม่คะ หนูอยากได้ชุดนั้นค่ะ "

อิงฟ้าเอ่ยบอกผู้เป็นแม่พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ชุดสวยๆที่แขวนโชว์ไว้

" ได้สิลูก เข้าไปดูเลือกเอาเลย ว่าชอบแบบไหน "

ผู้เป็นแม่เอ่ยกับลูกสาวอย่างตามใจ เมื่อเดินเข้ามาในร้าน เจ้าของร้านเดินออกมาทักถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

" คุณลูกค้าสนใจชุดไหนเลือกได้ตามสบายเลยคะ "

" ชุดนี้ค่ะ หนูขอลองใส่ก่อนได้มั้ยคะ "

อิงฟ้าชี้ไปที่ชุดเจ้าหญิงบาร์บี้สวยๆพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แม่ค้ายิ้มแล้วเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

" ได้ค่ะ แล้วหนูคนนี้ล่ะคะ ถูกใจชุดไหนบ้างหรือยังเอ่ย "

แม่ค้าหันมาเอ่ยถามนับหนึ่ง ด้วยความเป็นเด็กนับหนึ่งแอบดีใจคิดว่าจะได้เลือกเสื้อผ้าสวยๆ

ขณะที่เธอกำลังจะวางของในมือเพื่อชี้เสื้อผ้าที่อยากได้ แต่อิงฟ้ากลับยิ้มให้เจ้าของร้านแล้วเอ่ยขึ้น

" น้องสาวหนูเขาไม่ชอบเสื้อผ้าพวกนี้หรอกค่ะ อย่าทำให้น้องสาวหนูเกรงใจจนต้องเลือกเสื้อผ้าอย่างจำใจเลยค่ะ "

คำพูดของอิงฟ้าทำเอาแม่ค้าหน้าเจื่อนไปเลยรอยยิ้มที่มีค่อยๆหุบลงด้วยความรู้สึกสงสารนับหนึ่ง ส่วนนับหนึ่งเองก็ฝืนยิ้มขึ้นพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

" พี่สาวหนูพูดถูกค่ะ เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ใช่สไตล์หนูเลย "

จากนั้นเธอก็หันไปทางอิงฟ้าแล้วเอ่ย

" พี่อิงฟ้ารีบไปลองเสื้อผ้าเลยค่ะ "

ยิ่งนับหนึ่งเอ่ยออกมา ก็ยิ่งทำให้แม่ค้ารู้สึกหดหู่ ใจจุกอกไปหมด

( โธ่ เด็กน้อย ตัวแค่นี้กลับถูกใช้ให้ถือของมากมาย แล้วแม่คนนี้ ทำไมถึงใช้ลูกขนาดนี้ ปฏิบัติสองมาตรฐานชัดๆ )

เจ้าของร้านแอบพึมพำในใจด้วยความรู้สึกเห็นใจและสงสารนับหนึ่งน้อย

แม่เลี้ยงเห็นดังนั้นจึงยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง

" ใช่ค่ะลูกสาวคนเล็กของฉัน ไม่ค่อยชอบใส่เสื้อผ้าที่ดูหวานๆแบบนี้ค่ะ

คุณแม่ค้าอย่าไปคิดไกลเลยนะคะ ลูกคนเล็กของฉันเนี่ย ค่อนข้างประหยัด

ปกติจะไม่ค่อยชอบเอาเงินในส่วนของเสื้อผ้า มาซื้อเสื้อผ้าแต่จะชอบรอใส่ต่อจากพี่สาว

แล้วเอาเงินในส่วนของค่าเสื้อ ไปฝากที่โรงเรียน เพราะบ้านเราสอนให้ลูกบริหารเงินเองค่ะ "

" โห จริงเหรอคะ เก่งจังเลย ตัวแค่นี้ก็รู้จักประหยัด อดออมแล้ว คุณแม่ปลูกฝังลูกได้ดีจริงๆเลยค่ะ เป็นโชคดีของคุณแม่นะคะที่มีลูกสาวแบบนี้ "

แม่ค้าเอ่ยชื่นชมอย่างไม่ขาดปาก ทำเอาอิงฟ้าถึงกับมองแรงใส่แม่ค้าอย่างหงุดหงิดก่อนจะสะบัดหน้าเดินเข้าไปในห้องลองเสื้อ

นับหนึ่งฝืนยิ้มทั้งที่ในใจรู้สึกเสียใจและน้อยใจอย่างมาก เธอคิดถึงวันที่มีแม่

ตอนนี้เธอทำได้แค่แอบอิจฉาพี่สาวอย่างเงียบๆ ยอมให้เขารังแกและเอาเปรียบอยู่อย่างนี้

อิงฟ้าเป็นเด็กที่หน้าตาสวย บุคลิกดูดี ฉลาดพูดเอาเปรียบเก่ง

ส่วนเธอมีหน้าที่ทนข่มใจในทุกความเจ็บปวดที่มีต้องยอมให้อิงฟ้าเอาเปรียบ ชีวิตถูกควบคุมด้วยแม่เลี้ยงและพี่สาวต่างแม่