รักร้อนของสตรีทั้งสาม

56.0K · จบแล้ว
หลินซี
25
บท
47.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หญิงสาวต่างยุค และอีกหนึ่งที่มีความร้อนแรงมิแพ้กัน เรื่องราวเผ็ดร้อนของทั้งสาม ที่แซ่บเกินบรรยาย รอให้คุณมาสัมผัสกับพวกเธอ มาดูว่าใครกันที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด #3p-4p-5p

3Pโรแมนติก4Pนิยายจีนโบราณแม่ทัพฟินๆจีนโบราณข้ามมิติ18+เกิดใหม่

เรื่อง สวาทรัก สตรีต้องห้าม 1.ใต้แสงจันทร์ 18+

“อื้อ..แรงเกินไปแล้วเจ้าค่ะนายท่าน ขะ..ข้าไม่ไหว” เสียงท้วงดังขึ้นเมื่อถูกดุ้นเอ็นใหญ่อัดกระแทกลงมามิขาดช่วง แต่คนที่โหมกระหน่ำซอยเอวหาได้ใส่ใจไม่ เขายังคงเร่งดันดุ้นเข้าร่องรูของอีกฝ่ายแม้นางจะสลบไปแล้ว จนกระทั่งตนเองปลดปล่อยอย่างที่ต้องการ ร่างสูงขยับกายลุกออกจากเตียง ก่อนจะดึงเอาผ้าคลุมมาสวมทับแล้วเดินออกมาจากห้อง ปล่อยให้คนสนิทจัดการต่อ

“แค่นี้ก็รับไม่ไหว” เสียงบ่นเปล่งออกมา ก่อนจะรินสุราขึ้นมาดื่ม เขาคือขุนนางที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่มีการแต่งตั้งมา ด้วยวัยสามสิบปี แต่ผลงานนั้นมีมากจนเป็นที่ยอมรับของขุนนางในราชสำนัก และเป็นที่หมายตาของบรรดาสตรีทั่วเมือง

แม้เขาจะแต่งงานมีฮูหยินอยู่แล้ว แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าบุรุษผู้นี้มิได้มีใจพิศวาสนางแม้แต่น้อย คืนแต่งงานยังมิยอมร่วมหอ แต่บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายยังเยาว์ อายุเพียงแค่สิบสามปีในช่วงที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ จึงเป็นเหตุให้เขาไม่ใส่ใจนาง

ซึ่งยามนี้ฮูหยินที่ว่าอายุเต็มสิบแปดแล้ว เป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามหยดย้อยจนบุรุษต้องเหลียวหลัง รูปร่างก็เย้ายวนเกินอายุโดยเฉพาะเนินเขาสองเต้าของนาง แต่ก็ยังไม่เป็นที่สนใจของสามี นางยังคงพำนักอยู่ที่เรือนนอกเมืองหลวงเช่นเดิม เพราะจางโหวยังคงโกรธเกลียดที่นางทำให้เขาไม่ได้แต่งงานกับสตรีที่หมายปอง จนตอนนี้ได้กลายไปเป็นสนมของฮ่องเต้แล้ว

“นายท่านอยากได้อีกสักคนหรือไม่ขอรับ” จินชูเอ่ยถามผู้ที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ เพราะปกติอย่างน้อยเขาต้องได้ปล่อยถึงสามน้ำถึงจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่สตรีที่เสนอตัวมากลับทนรับความใหญ่โตและแรงกระแทกไม่ไหว สลบไปทั้งที่เขายังไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ล่ะ ประเดี๋ยวกวนซีกับโจสุ่ยจะมา ไปเตรียมสุราอาหารให้พร้อม จัดที่กลางสวนนั่นแหละ ถึงยามนั้นข้าค่อยเอาน้ำออกก็ได้” ตอบกลับพร้อมกับเผยยิ้มออกมา

“ขอรับนายท่าน” คนสนิทรับคำ ก่อนจะออกไปเตรียมสถานที่ตามที่ผู้เป็นนายสั่ง ซึ่งเขาจะได้ร่วมฉลองไปด้วย

ยามโหยว [17:00-18:59] แสงอาทิตย์อัสดงเริ่มปรากฏ พร้อมกับเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อได้พบสหายที่ห่างหายกันไปนาน โจสุ่ยเป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้น กวนซีเป็นหัวหน้าหน่วยตรวจการ นานๆ ครั้งถึงจะได้มาอยู่พร้อมหน้า และยังมีสตรีงามหลายนางแต่งกายด้วยอาภรณ์น้อยชิ้น นั่งรายล้อมพวกเขารวมถึงเหล่าคนสนิท

“กั่วหลิงได้ยินว่าฮูหยินเจ้ายังคงพำนับอยู่นอกเมืองหรือ ข้าล่ะเชื่อเจ้าเลยเหตุใดต้องโกรธถึงเพียงนั้น ควรจะรับนางเข้าเมืองมาอยู่ที่จวนได้แล้วนะ” เสียงทุ้มของโจสุ่ยเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปหาสตรีข้างกาย

ซึ่งนางก็ป้อนสุราใส่ปากให้อย่างเอาใจ แม่ทัพหนุ่มก็อมมันไว้ในปาก ก่อนจะรั้งใบหน้าของสตรีตัวน้อยให้หันมา และประกบปากปล่อยน้ำหมักใส่ลงไป กั่วหลิงมองสหายที่จูบแลกลิ้นกับหญองสาวที่คนของเขาหามา ใบหน้าคมคายส่ายไปมา ก่อนจะตอบคำถามสหาย

“หึ!.ปล่อยให้ตายอยู่ที่นั่นแหละ ข้ายังคิดว่าจะส่งคนไปจัดการนางอยู่เชียว” ท่านโหวเอ่ยเสียงเหี้ยม ทำให้เสียงผีผาที่กำลังดีดอยู่สะดุดลงทันที เป็นเหตุให้ทั้งสามต่างก็หันมายังสตรีตัวน้อยซึ่งมีผ้าปิดหน้าเอาไว้ และนางก็เป็นนักดนตรีที่ถูกจ้างมาให้บรรเลงขับกล่อมทุกคน

“ทำไม? เจ้ามีปัญหาอันใดกระนั้นหรือ รึอยากมานั่งตรงนี้กับพวกข้า” เสียงของจางโหวดังขึ้นอีก พร้อมกับยิ้มเหยียดมองสตีตัวน้อยที่นั่งมือไม้สั่นเอาแต่ก้มหน้า

“พอเถอะจะแกล้งนางไปทำไม ข้าอยากฟังเพลงเล่นต่อเถอะ” เสียงของกวนซีดังขึ้น เขามีนิสัยสุขุมใจเย็น

เป็นคนที่คอยเตือนสติสหายทั้งสองยามที่นอกลู่นอกทาง และคิดทำเรื่องไม่ดีโดยเฉพาะรังแกเพศที่อ่อนแอกว่า หลังจากนั้นเสียงบรรเลงเพลงก็ดังขึ้นอีก ขับกล่อมให้กับผู้ที่ดื่มกินมีความสุขเป็นอย่างมาก ซ้ำบางคู่ยังนั่งขย่มกันกลางลานกว้างที่ปูด้วยพรมผืนใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นเบาะรองร่างกายได้เป็นอย่างดี

“อ๊า!..ดูดดียิ่งนัก ขย่มลงมาแรงๆ เลยแม่สาวน้อยของข้า” โจสุ่ยเอ่ยขึ้นเสียงกระเส่า มือเขาก็วางอยู่ที่สองเต้าของนาง ซึ่งขยับโยกกายบนตัวเขาท่ามกลางสายตาของสหายและสาวงามที่พามาเพื่อการนี้

“เจ้านี่ชอบทำให้ข้าอยากตามอยู่เรื่อยเลยนะโจสุ่ย คนงามจัดการมังกรของข้าทีสิมันตื่นเห็นแล้วหรือไม่” กั่วหลิงหันมาเอ่ยกับสตรีข้างกาย เป็นจังหวะที่ผู้บรรเลงดนตรีเดินผละออกจากตรงนี้เพราะรู้สึกกระดากอายขึ้นมา กวนซีเห็นเช่นนั้นจึงลุกตามออกไปโดยที่สหายก็ไม่ได้สนใจเลย ร่างเล็กของสตรีดีดผีผาเดินตรงมาที่สวนอีกด้านของงานเลี้ยง ก่อนจะถูกรั้งแขนเอาไว้จากมือใหญ่ของกวนซี

“จะไปไหน เจ้าไม่ชอบงานเลี้ยงกระนั้นหรือ” เสียงทุ้มอ่อนโยนดังขึ้น แต่ยามนี้เขารู้สึกร้อนรุ่มในกาย เป็นเพราะสุราที่ดื่มนั้นสหายใส่ยากำหนัดให้ เพราะรู้ดีว่าหัวหน้าหน่วยตรวจการผู้นี้มิได้ชอบเสพสุขโจ่งแจ้งเช่นสหายทั้งสอง ที่ไม่สนสิ่งใดมักทำการประเจิดประเจ้อเสมอ

“นายท่านข้าน้อยจะกลับแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหวานตอบ แต่ไม่ทันที่นางจะดึงมือกลับมา อีกฝ่ายก็รั้งเข้าไปแนบจูบโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เขาขบเม้มดูดดึงเรียวปากสวย ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปกวาดต้อนด้านใน

แขนแกร่งกอดรัดร่างเล็กเอาไว้แน่น เบียดกายเข้าหานางเต็มที่ เมื่ออีกฝ่ายจนมุมที่โต๊ะกลางสวน ซึ่งคนตัวเล็กมิอาจต่อต้านแรงของบุรุษร่างโตผู้นี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังถูกผลักให้นอนราบลงและยังทาบทับมาบนตัวอีก

มือเล็กพยายามดันไหล่เขาให้ออกห่าง แต่แรงนี้ก็น้อยนิดเสียเหลือเกิน นางเฝ้าคิดในใจไม่น่ารับปากมาเล่นผีผาแทนสหายที่ป่วยเลย ยามนี้ยังมาถูกรังแกโดยมิอาจต่อต้านได้ เพราะคนบนตัวแข็งแรงมาก

กวนซีเปิดกระโปรงนางขึ้นจนถึงเอวด้วยความรีบร้อน ก่อนจะรั้งเอากางเกงชั้นในลงมา เขาใช้เท้าเหยียบจนหลุดออก แล้วจับขาเรียวตั้งขึ้นให้อ้าออกทั้งสองข้าง เผยกลีบบัวงามที่ยังคงปิดสนิทเหมือนไม่เคยมีใครแตะต้องมาก่อน แต่คนที่กำลังแลกลิ้นกลับไม่มีโอกาสได้เห็นมัน

เพราะเขามีความต้องการมากจนไม่อาจสนใจสิ่งอื่นได้ แต่ก็ยังอุตส่าห์สอดนิ้วเข้าไปเปิดทางสำรวจว่านางพร้อมที่จะรับดุ้นเอ็นจากเขาหรือไม่ ทำให้สตรีตัวน้อยชะงักหยุดดิ้นเมื่อมีบางสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในรูรัก ยิ่งตอนที่คนตัวโตชักเข้าออก ด้านในนางจะตอดรัดขมิบจนเขารู้สึกได้ว่า นางยังมิเคยผ่านชายใดมาก่อน

ชายหนุ่มรู้สึกภูมิใจอยู่ลึกๆ จึงขยับนิ้วถี่รัวเข้าออกจนน้ำรักฉ่ำเยิ้ม กวนซีดึงนิ้วของตนออกมาเพื่อจะได้สอดใส่สิ่งที่ใหญ่ว่า คนตัวเล็กชะงักเพราะรู้สึกขัดใจที่เขาเกิดหยุด แต่ก็ไม่อาจร้องท้วงอันใดได้ เพราะใต้เท้าหนุ่มยังคงประกบปากเกาะเกี่ยวกับนางอยู่ ก่อนที่เขาจะจับดุ้นเอ็นซึ่งมีน้ำใสเยิ้มถูลงที่ร่องรักของนางไปมา

สัมผัสเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างทั้งที่ยังไม่ทันได้กดเข้าไป แต่คนใต้ร่างนั้นยังพยายามผลักเขาออก แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นผลเมื่อคนตัวโตกดท่อนลำใหญ่เข้ามาจนสุดในคราเดียว จึงเป็นครั้งแรกที่ใต้เท้าหนุ่มผละลิ้นออกจากปากอิ่ม พร้อมกับใบหน้าหวานที่เผยให้เห็นใต้แสงเงาจันทรา

“อื้อ..เจ็บ” เสียงหวานท้วงทันทีเมื่อปากของตนได้เป็นอิสระ หลังจากที่ถูกคนตัวโตแนบปิดเอาไว้เนิ่นนาน

“ประเดี๋ยวก็หาย แล้วเจ้าจะชอบมัน” ใต้เท้าหนุ่มเอ่ยเสียงแหบพร่า ก่อนจะแนบริมฝีปากลงอีกครั้ง