ปัจจุบัน…
ปี พุทธศักราช 256x , 202x
“พี่เอกค่ะวันนี้แก้วอาจจะกลับบ้านดึกหน่อยนะคะเพราะว่าเพื่อนแก้วสมัยเรียนนัดไปทานข้าวน่ะค่ะ… เพื่อนคนนี้สนิทกับแก้วด้วยพี่เอกน่าจะรู้จัก… พี่เอกจำหนิงได้ไหมคะ?…” เธอดีใจนะที่วันนี้เพื่อนสมัยเรียนของเธอโทรมาหาบอกว่ากลับไทยแล้ว.. และหนิงอยากจะชวนเธอไปกินข้าวด้วย.. เห็นว่ามีเรื่องจะปรึกษาด้วย… เพื่อนมาทั้งท่ีต่อให้ยุ่งขนาดไหนเธอก็ต้องทำตัวให้ว่างไว้ก่อน เพราะเธอไม่ได้เจอเพื่อนมานานเหมือนกันตั้งแต่เรียนจบเพราะมัวแต่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว.. อู้งานวันเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก..
“ อ๋อ.. คนนั้นน่ะเหรอที่เมื่อก่อนตัดผมม้าใช่ไหม.. ถ้าใช่พี่พอจะจำได้เพราะเพื่อนหนูคนนั้นไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สักเท่าไร.. หึหึ…” เอกพลนึกถึงใบหน้าบึ้งตึงของเพื่อนเมียแล้วก็ทำให้เขาต้องหัวเราะออกมาเพราะเธอมักจะไม่ชอบใจเวลาที่เขาเดินไปนั่งรอที่หน้าคณะ.. ถึงแม้ว่าเราสองคนจะเรียนบริหารเหมือนกันแต่ด้วยที่ว่าเราสองคนเรียนห่างกันตั้งสองปีตารางเรียนมันก็ไม่ตรงกันบ้างมันคือเรื่องปกติ.. แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะอย่างน้อยเขาก็สามารถพิสูจน์ความรักของเขาให้เพื่อนของแก้วได้เห็นว่าเขานั้นรักแก้วแค่ไหน..
“ หึหึ.. คนนั้นแหละค่ะ.. อาจจะกลับดึกหน่อยนะคะ.. ถ้าหิวก็ทานข้าวก่อนเลยนะไม่ต้องรอหนูนะ.. จุ๊บ.. ไปนะคะ..” ทำไมเธอจะจำไม่ได้เล่า.. หนิงน่ะคอยเตือนเธอเสมอว่าให้ดูดีๆ เธอเองก็รู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นห่วงเธอ.. ถ้าไ่ม่ห่วงเพื่อนคงไม่เตือนหรอกจริงไหม….
“ ขับรถระวังนะถ้าขับรถไม่ไหวก็จอดทิ้งไว้เดี๋ยวพี่ไปรับเข้าใจไหม?..” เอกพลไม่อยากให้เมียของเขาต้องเกิดอุบัติเหตุเพราะแก้วไม่ค่อยชอบขับรถตอนกลางคืนสักเท่าไร..
“ ค๊า… รับทราบค่ะที่รักของหนู.. ไปทำงานกันได้แล้วค่ะ…”
เมื่อถึงเวลานัดแก้วก็สั่งงานเลขาของตัวเองเอาไว้ถ้ามีอะไรเร่งด่วนให้โทรหาเธอได้เลยแต่ถ้าไม่มีอะไรเร่งด่วนมากก็รอพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกัน.. แก้วขับรถไปยังจุดหมายที่เพื่อนของเธอนัดเอาไว้และมันก็โชคดีที่อยู่ไม่ไกลมากนักมันเลยทำให้เธอไม่เลทมากสักเท่าไร..
ตึกตึกตึก…
“ หนิง… หนิงจริงๆด้วย.. คิดถึงจัง.. เป็นยังไงบ้างไม่ได้เจอกันนานเลย.. หนิงสวยมาก สวยเสียเราคิดว่าทักคนผิดแน่ะ..” ดูสิเพื่อนเธอสวยมากๆ เซ็กซี่สุดๆไปเลย.. ดูต่างจากเธอมากๆ เธอน่ะเหรอแต่งตัวธรรมดาตามแบบฉบับเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร..
“ แก้ว.. คิดถึงจังไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะแต่แก้วก็สวยกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะ.. ตั้งแต่มีสามีเนี่ย.. สวยขึ้นเยอะเลยน๊า… มาๆนั่งลงๆเรายังไม่ได้สั่งอะไรเลยเพราะเรารอสั่งพร้อมกับแก้วเผื่อว่าแก้วไม่ชอบอะไรเราจะได้ไม่สั่งเก้อ…” จะว่าไปเพื่อนเธอก็สวยขึ้นนะเนี่ยถึงแม้ว่าจะแต่งตัวปกปิดมิดชิดแต่ก็ยังคงความสงบแบบนักธุรกิจ.. แต่เธอไม่จำเป็นต้องแต่งแบบนั้นเธออยากจะแต่งยังไงเธอก็แต่งเพราะตอนนี้เธอสามารถทำมันได้แล้ว.. ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นเพราะสามีเธอชอบสั่งให้เธอใส่หรือไม่ใส่อะไร… สั่งจนเธอรำคาญเธอไม่รุ้เลยว่าเธอน่ะมีสามีหรือมีพ่อกันแน่ เพียงแค่ปัญหานิดๆหน่อยมันทำให้เธอและเขาทะเลาะกันทุกวัน ทะเลาะกันจนไม่สามารถที่จะพูดเรื่องนี้ได้อีก.. ไม่ใ่ช่แค่เรื่องการแต่งตัวแต่มันยังมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวพันอีกน่ะสิ.. เขาน่ะสั่งห้ามเธออย่างนั้นห้ามอย่างนี้.. แต่อีผู้หญิงหน้าด้านพวกนั้นน่ะเหรอ.. แต่งยิ่งกว่าผู้หญิงทำงานกลางคืนอีก.. พอเธอจับได้เธอก็เลยถามเขาว่าทำไมเวลาเธอแต่งแบบนั้นเขาถึงห้าม… รู้ไหมว่าเขาให้คำตอบกับเธอว่ายังไง.. เขาบอกว่าผู้หญิงพวกนั้นเขาไม่ได้ควงออกงาน.. แค่นอนด้วยกันครั้งคราว.. มันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสั่งห้ามใครให้แต่งแบบไหนหรือแต่งยังไง.. แต่กับเธอ.. เธอที่เป็นเมียเขา เธอจะต้องวางตัวให้เป็นผู้ดีมีชาติตระกูลและจะไม่ต้องทำให้เขาขายหน้า… เพราะเพื่อนของเขาส่วนใหญ่เป็นคนมีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในสังคม.. เมื่อเธอทนไม่ได้เธอจึงขอเขาหย่า.. และการหย่าของเธอในครั้งนี้มันก็ถือว่าคุ้มเพราะเม็ดเงินที่เธอได้มันก็ไม่ได้น้อยๆเลย….
“ มาๆเรามาอัพเดทชีวิตของพวกเรากันดีกว่า.. ว่าแต่.. แก้วยังคบอยู่กับพี่คนนั้นอยู่รึเปล่า…”
“ อยู่สิหนิง.. เราแต่งงานกับพี่เอกได้หลายปีแล้วนะ.. ตอนนั้นเราส่งการ์ดเชิญไปให้หนิง.. แต่หนิงไม่ได้มางานแต่งงานเรา… ”
“ ตอนไหน.. เราไม่ได้อยู่ไทยตั้งแต่ตอนอายุยี่สิบห้าแล้วนะแก้ว.. แก้วแต่งงานกันตอนไหนเนี่ย.. เสียดายจัง…” ใช่เธอรู้จักกับสามีของเธอไม่ใช่สิ.. สามีเก่าของเธอได้ไม่นานแล้วเธอก็บินไปอยู่ที่ฮ่องกงกับเขา.. เธอกับเขาแต่งงานกันตั้งแต่ตอนนั้นแหละจนถึงตอนนี้เธอก็อายุสามสิบห้าปีแล้ว.. จะว่าไปก็นานเหมือนกันนะ แต่ความเครียดสะสมต่อให้แต่งงานกันครึ่งชั่วโมงแล้วไม่มีความสุขยังไงก็คงต้องเลิกกันอยู่ดีอย่าอ้างว่าแต่งกันนานแล้วจะไม่เลิก.. เธอไม่เชื่อหรอกดูอย่างเธอสิ.. แต่งกับเขามาสิบปีกว่าๆยังเลิกกันได้เลย…
“ เราแต่งงานกับพี่เอกตอนอายุยี่สิบแปดน่ะ พอดีเราอยากจะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของพวกเราก่อนน่ะแล้วพี่เอกก็เห็นด้วยพออายุยี่สิบแปดพี่เอกก็ขอเราแต่งงาน…” ความสุขของเธอมันไม่สามารถปกปิดได้เลย.. เมื่อเธอนึกถึงเรื่องราวเมื่อก่อนมันก็ทำให้เธอต้องยิ้มออกมาทันที.. เธอจำได้เลยว่าวันนั้นเป็นวันที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และพี่เอกก็มาร่วมยินด้วย… พี่เอกถือดอกไม้ช่อโตมาหาเธอและไม่นาน.. พี่เอกก็ลงไปคุกเข่าขอเธอแต่งงาน.. นักข่าวและนักธุรกิจที่มาร่วมงานเปิดตัวสินค้าของเธอต่างพากันโฮ่ร้องออกมาด้วยความดีใจ.. โมเม้นต์นั้นมันทำให้เธอถึงกับน้ำตาไหลเลย.. เธอดีใจที่เธอเลือกคนไม่ผิด.. เขาเป็นรักแรกของเธอ.. เขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ.. เธอรักและเคารพพี่เอกมาก.. เราสองคนให้เกรียติซึ่งกันและกัน.. เราไม่เคยที่จะทะเลาะกันเลย.. เวลาเรามีปัญหาเรามักจะพูดคุยและปรึกษากันและกัน.. เมื่อใครคนใดคนนึงมีปัญหาเราก็จะช่วยกันหาทางออก.. นั่นคือชีวิตคู่ของเธอและเขา..
“ อ๋อ.. ที่แท้เราก็ไม่อยู่ไทยแล้ว..เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราซื้อของให้ย้อนหลังนะ.. ส่วนของเรา.. แก้วไม่ต้องซื้อให้เพราะเราหย่ากันสามีแล้ว… อะๆๆ ไม่ต้องถามถึงเหตุผล… เอาเป็นว่าเราประคองความรักแบบนั้นไว้ไม่ไหวแล้ว.. เอาเป็นว่าไม่ต้องรู้จะดีกว่ามันไม่มีอะไรน่าฟังหรอก… มาค่ะ.. สั่งอาหารกัน…”
สองสาวพากันสั่งของชอบของทั้งสองคนมานั่งทานกันจนเต็มโต๊ะ… เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของทั้งสองคนเรียกให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันมามองทั้งคู่เป็นระยะๆ.. คนนึงก็สวยเซ็กซี่.. ส่วนอีกคนก็สวยหวานดูผู้ดี..
ตึกตึกตึก…
“ แก้ว.. ”
แก้วหันไปต้นเสียงทันที.. และเมื่อเธอหันไปเธอก็เจอกับพี่พัท.. พี่พัทคือเพื่อนของพี่เอกนั่นเอง.. พี่พัทมาเล่นที่บ้านเธอบ่อยมากและทุกครั้งที่มาพี่เอกก็มักจะทำท่าทีโมโหและบ่นพี่พัทอยู่ตลอด.. ทั้งสองคนเป็นไม้เบื่อไม้เมาตั้งแต่สมัยที่เธอรู้จักกับพี่เอกใหม่ๆแล้ว..
“ พี่พัท.. มาทำอะไรคะ? กินข้าวรึยังคะ.. อ๋อ.. นี่หนิงค่ะเพื่อนแก้วเอง.. พี่พัทจำได้ไหมคะ? หนิงพึ่งกลับมาไทยน่ะค่ะเราเลยนัดมากินข้าวที่นี่.. ”
“ตามสบายครับ.. พี่แค่มาเอาของให้คุณแม่น่ะ.. ส่วนเพื่อนแก้วพี่จำไม่ค่อยได้หรอกมันนานแล้วน่ะ.. ยังไงพี่ไปนะเดี๋ยวจะเข้าประชุมไม่ทัน.. ไปนะครับทานให้อร่อยล่ะ…” พัทธนันท์ยีหัวของแก้วเบาๆด้วยความเอ็นดู.. ไม่ว่าจะกี่ปีเขาก็ยังคงทำเช่นนี้เสมอ..
“ พี่พัทอ่ะ.. ผมแก้วยุ่งหมดแล้วเนี่ย… เดี๋ยวแก้วจะฟ้องพี่เอก.. ” ตลอดเลยเวลาพี่พัทเห็นเธอมักจะใช้มือมายีหัวของเธอ.. ดูสิผมเสียทรงหมดแล้ว…
หึหึหึ…
“น่ารักดีนะ แต่พูดตามตรงพี่เขาก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง..” เธอน่ะจำได้หมดแหละทั้งสองคนเลยทั้งอิพี่เอกอะไรนั่นกับพี่คนเมื่อกี้.. เพราะเวลาอิพี่เอกมาหาแก้วพี่คนเมื่อกี้ก็มักจะมาด้วยเสมอ.. ตอนแรกเธอก็คิดว่าพี่คนเมื่อกี้จะจีบแก้วเพราะเธอมักจะสังเกตุแววตาของพี่เขาตลอด… แต่เปล่าค่ะกลับเป็นอีพี่เอกอะไรนั่น…
“โสด.. สนใจไหม? เธอต้องรีบขายพี่พัทให้เพื่อนของเธอก่อนเพราะคนดีๆแบบนี้หายากนะสมัยนี้อ่ะ..
“โนค่ะ.. ยังไม่พร้อม… ไม่เอาๆกินค่ะ..”
เอกพลยืนชะเง้อคอยาวรอเมียของตัวเองอยู่เพราะแก้วบอกว่าเพื่อนจะมาส่งเพราะสองสาวดื่มกันจนไม่สามารถขับรถกันได้.. เขาเองก็งงนะคำที่ว่าจะมาส่งน่ะคือยังไง..
เสียงของรถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้านทำให้เขาต้องลุกไปดูและสิ่งที่เขาเห็นก็คือ.. รถแท็กซี่นั่นเอง.. เมื่อประตูรถเปิดมาเขาก็เห็นเมียของเขาก้าวขาออกมาและไม่นานก็มีขาของใครบางคนก้าวออกมา.. เดี๋ยวนะ…
“ พี่เอก.. ยืนรอแก้วเหรอคะ? ฮึก..” หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจเพราะเธอไม่คิดว่าพี่เอกจะออกมายืนรอเธออยู่หน้าบ้าน…
“ ครับ.. เมาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย.. เข้าบ้านกันก่อนเธอ..” ตาของเขานั้นไม่สามารถละจากขายาวๆขาวเนียนของอีกคนได้เลยให้ตายสิ.. จะแต่งอะไรขนาดนั้นกัน.. ดีนะที่เมียเขาไม่แต่งตัวแบบนั้น..
