บท
ตั้งค่า

บทที่ 004 วิวาห์สายฟ้าแลบ

ผู้ชายคนนั้นเหล่มองยศพัฒน์แวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่ายศพัฒน์ไม่มีการต่อต้านใดๆ ที่จะให้จับมือกับเทวิกา เขาจึงยื่นมือขวาออกไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าต้องการจับมือกับเทวิกา เพื่อแนะนำตนเอง “สวัสดีครับพี่สะใภ้ ผมชื่อเดชวิทย์ เป็นเพื่อนสนิทกับนายพัฒน์”

เทวิกายิ้มพลางตอบทันที “คุณเดชวิทย์เรียกฉันว่าเทวิกาก็พอแล้วค่ะ

เดชวิทย์เหล่มองยศพัฒน์แวบหนึ่ง และยังคงยืนกรานที่จะเรียกเทวิกาว่าพี่สะใภ้

เมื่อไม่สามารถให้อีกฝ่ายเปลี่ยนคำเรียกขาน เทวิกาก็ไม่อยากยืนกรานต่อ

เดชวิทย์พาทั้งสองคนเดินเข้าไป เขาเดินพร้อมทั้งพูดกับยศพัฒน์ “คิดไม่ถึงเลยว่าฉันมีวันที่สามารถให้บริการนายได้ด้วย โชคดีจริงๆ ฉันยังคิดว่าหลังจากที่เปรมาไปต่างประเทศแล้วนายก็จะกลายเป็นคนที่ที่มีหัวคิดครองตัวเป็นโสดเสียแล้วเนี่ย”

เทวิกาหูผึ่งทันที เพื่อฟังคำซุบซิบนินทา

เปรมา? คนที่อยู่ในใจของพี่พัฒน์งั้นเหรอ?

ตอนที่เธอถามเขา ทำไมเขาถึงพูดว่าเขาไม่มีแฟนล่ะ?

ยศพัฒน์ยังไม่ทันตอบ เดชวิทย์ฉุกคิดได้ว่าเทวิกาก็อยู่ด้วย จึงรีบอธิบายกับเทวิกาทันที “พี่สะใภ้ พี่อย่าเข้าใจพัฒน์ผิด เรื่องเขากับเปรมาเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้หลายปีดีดัก ก็แค่ พวกเขาสองคนรักกันตั้งแต่เด็กและเติบโตมาด้วยกัน เปรมาเดินทางไปต่างประเทศเมื่อสิบปีก่อน หลายปีกว่าจะกลับมาสักครั้ง”

เทวิกาหัวเราะพลันตอบกลับเสียงดังลั่น “ฉันไม่สนค่ะ”

เธอว่าจ้างพี่พัฒน์เป็นสามีของเธอ ซึ่งใช้เหตุปัจจัยนี้เพื่ออุดปากคุณแม่สุดที่รัก เพื่อไม่ให้รบเร้าให้เธอไปนัดบอด แถมยังเป็นข้อดีที่ทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ

ในส่วนก่อนหน้านี้ยศพัฒน์หรือว่าตอนนี้จะมีคนที่อยู่ในใจหรือไม่ เธอก็ไม่สนใจจริงๆ ผู้ชายที่โดดเด่นเฉกเช่นยศพัฒน์เช่นนี้ ถ้าไม่มีผู้หญิงที่ชื่นชอบอยู่ เธอก็ยังรู้สึกว่ามันผิดแปลกชอบกล

เดชวิทย์เห็นเทวิกาไม่สนใจจริงๆ ถึงถอนหายใจโล่งอก พลางแอบโทษตัวเองปากมาก ที่หลุดปากเอ่ยชื่อเปรมาออกมา

ในกลุ่มแวดวงเพื่อนฝูง ทุกคนต่างรู้ว่าเปรมาเป็นรักแรกของยศพัฒน์ที่โตมาด้วยกัน ยามเมื่อดอกรักผลิบานเปรมาก็ตกหลุมรักยศพัฒน์ พวกเขาล้วนคิดว่าทั้งสองคนจะกลายเป็นคู่ที่มีความสุขคู่หนึ่งเลยทีเดียว

ใครเล่าจะรู้สิบปีก่อน จู่ๆ เปรมาก็เดินทางไปต่างประเทศ ส่วนเหตุผลคืออะไร พวกเขาเคยถามเปรมา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ พอมาถามยศพัฒน์ คำตอบของเขาคือเปรมามีขา เธออยากจะไปไหนก็ไปได้นี่ มันไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับเขา

ตอนที่เดชวิทย์หลุดปากเรื่องเปรมา ยศพัฒน์ชำเลืองมองเทวิกาก่อน สายตาแอบตึงเครียดอยู่เล็กน้อย แต่ความสนใจของเทวิกาไม่ได้สนใจในตัวของเขาเลย และไม่ได้จับความเปลี่ยนแปลงทางสายตาของเขาอีกด้วย

เมื่อเห็นเทวิกาแสดงอาการไม่แยแส ยศพัฒน์แอบถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็ถลึงตาใส่เดชวิทย์ตามมาติดๆ แถมยังใช้สายตาตักเตือนเดชวิทย์ ถ้าขืนพูดเพ้อเจ้ออีก เขาจะดึงลิ้นของเดชวิทย์ออก พวกปากยื่นปากยาวจริงๆ ไอ้ผู้ชายปากมาก

เดชวิทย์แอบหัวเราะ เขาแค่เผลอพลั้งพูดไปเท่านั้นเอง ปล่อยเขาไปเถอะ!

ถัดมาติดๆ ถึงแม้เดชวิทย์จะแปลกใจมากเรื่องจุดเริ่มต้นของยศพัฒน์กับเทวิกา แต่ก็ไม่กล้าซักไซ้ให้มากความ เพราะกลัวว่าตนเองจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรจะพูดออกไป

ยศพัฒน์อายุยี่สิบเก้าแล้ว และยังไม่เคยมีความรักแบบจริงจังมาก่อน (เปรมาชอบพอเขา แต่ยศพัฒน์ไม่เคยยอมรับถึงความสัมพันธ์แบบคนรักกับเปรมามาก่อน) คนในแวดวงล้วนคิดว่ายศพัฒน์เป็นคนไร้หัวจิตหัวใจ แต่ผลคือเขาจดทะเบียนสมรสโดยไร้ข่าวเล็ดลอดออกมา

ปกปิดได้แนบเนียนมาก!

ภายใต้เดชวิทย์ที่มาเป็นสักขีพยาน ยศพัฒน์กับเทวิกาจดทะเบียนสมรสได้อย่างราบรื่น

เดชวิทย์ยังคิดจะออกไปส่งสองคนที่เพิ่งจะเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ยศพัฒน์ปฏิเสธข้อเสนอของเขา เดชวิทย์จึงพูดกับเทวิกา “พี่สะใภ้ ต่อไปมีเวลาว่างก็มาเที่ยวบ้านผมกับนายพัฒน์นะ ภรรยาผมต้องอยากเป็นเพื่อนกับคุณแน่ๆ เลยครับ”

เทวิกาตอบรับตามมารยาท “ตกลงค่ะ”

“งั้นพวกคุณเดินทางดีๆ ผมไม่ออกไปส่งแล้วนะ”

ปากเดชวิทย์พูดว่าไม่ออกไปส่ง แต่ก็ยังทิ้งทวนตบท้าย แถมยังอาศัยจังหวะที่เทวิกาไม่สังเกต แอบต่อยยศพัฒน์เล็กน้อย พร้อมทั้งกระซิบเสียงทุ้มต่ำ “คืนพรุ่งนี้ต้องเลี้ยงข้าวพวกฉันด้วย เรื่องนี้ยังกล้าปิดบังพวกเรา”

ยศพัฒน์กระซิบเสียงต่ำ “พรุ่งนี้ฉันต้องไปเจอผู้ใหญ่ ไม่ว่าง”

เดชวิทย์: ขนาดผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้เจอหน้าก็ถึงขั้นจดทะเบียนกันแล้ว นี่มันคือวิวาห์ฟ้าแลบใช่มั้ยเนี่ย?

หึ ทำไมตอนนี้เขาถึงเพิ่งจะคิดได้ คนสองคนมาดำเนินการเรื่องเอกสาร ทางฝั่งผู้หญิงไม่ได้เอาทะเบียนบ้านมาด้วย ถึงแม้จะไปเอาใบรับรองมาจากสถานีตำรวจ ก็มองออก พวกเขาตัดสินใจจดทะเบียนสมรสแบบเร่งด่วนจนเห็นได้อย่างชัดเจน

เดชวิทย์ทำราวกับไปเจอแผ่นดินผืนใหม่เช่นนั้น ยศพัฒน์ถึงขั้นแต่งงานสายฟ้าแลบ!

แต่ช่างน่าเสียดาย ถึงแม้เขาจะมีคำถามมากมาย แต่ยศพัฒน์ก็ไม่ให้โอกาสเขาได้ซักไซ้เลย

หลังจากขึ้นรถแล้ว ยศพัฒน์เอ่ยถามเทวิกาเสียงอ่อนโยน “ไปกินอะไรกันสักหน่อยมั้ย? หรือให้พี่ส่งเธอกลับที่ร้านกาแฟเลย”

เทวิกาเปิดทะเบียนสมรสของเธอ พลันจ้องมองรูปคู่ของเธอกับยศพัฒน์ เมื่อได้ยินคำถามของยศพัฒน์ เธอตอบกลับทั้งที่ไม่เงยหน้าด้วยซ้ำ “ส่งฉันกลับร้านก็พอค่ะ ในร้านฉันมีของกิน”

ยศพัฒน์ยิ้ม “ครับ”

เทวิกาปิดทะเบียนสมรส จากนั้นนำทะเบียนสมรสยัดใส่กระเป๋าเสื้อของตนเอง พร้อมทั้งยิ้มและพูดออกมา “พี่พัฒน์ คิดไม่ถึงเลยว่าฉันกับพี่จะจดทะเบียนและมีเล่มเล็กๆ พวกนี้ด้วย”

“ต่อไปก็เรียกพี่ว่าพัฒน์เถอะ ทำแบบนั้นจะทำให้คนอื่นไม่รู้สึกสงสัย”

ยศพัฒน์จัดการแก้ไขคำเรียกขานเขาจากเธอทันที โดยที่ไม่สนว่าพวกเขาจะจดทะเบียนด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายกันแล้ว เขาไม่อยากจะเป็นพี่ชายของเธออีกต่อไป

พลางจ้องมองหน้าตาอันงดงามของเธอ รอยยิ้มของเธอเป็นธรรมชาติและสดใสมาก จนทำให้มุมปากของยศพัฒน์กระดกขึ้นมาทันที “ผมก็คิดไม่ถึงว่าเมียผมจะเป็นคุณ”

ถึงแม้พวกเขาจะแต่งงานกันสายฟ้าแลบ แต่ ยศพัฒน์ก็ไม่รู้สึกเสียใจภายหลังสักนิด

“พี่พัฒน์ เราแค่แต่งงานแบบหลอกๆ พี่ก็เรียกฉันว่าเทวิกาเถอะค่ะ อย่าได้เรียกภรรยาอะไรเลยนะ”

ยศพัฒน์กลับไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่กลับถามเธอทันที “ต่อหน้าครอบครัวของคุณก็ไม่ให้ผมเรียกคุณว่าเมียเลยเหรอ?”

เทวิกา: “…พยายามเรียกให้น้อยหน่อยค่ะ ฟังดูแล้วขนลุกซู่”

“ก็ได้”

ยศพัฒน์กดสตาร์ทรถยนต์ หลายนาทีต่อมาก็เอ่ยถามเทวิกาอีกครั้ง “คุณเช่าที่พักอยู่ที่ไหนเหรอ? คืนนี้ผมจะได้ย้ายมาพักกับคุณเลย

“ห๊ะ?”

ยศพัฒน์เตือนเธอ “คุณพูดว่าจะให้เงินผมเดือนละสองหมื่นห้านะ มีที่พักและอาหารให้ แถมยังจะซื้อเสื้อผ้าให้ผมทุกซีซั่นละสองชุดอีก”

ในเมื่อจะเลี้ยงดูกันแล้ว เขาย่อมต้องย้ายมาพักกับเธอสิ

เทวิกา “...พี่เช่าคอนโดกรีนทาวน์อยู่ไม่ใช่เหรอ? ตรงนั้นสภาพแวดล้อมดีมาก ห้องที่ฉันเช่าอยู่เทียบกับคอนโดกรีนทาวน์ไม่ได้แน่”

“ก็คุณพูดเองว่าค่าเช่าคอนโดกรีนทาวน์มันแพงมาก ถึงแม้ว่าผมจะจ่ายค่าเช่าไหว แต่ตอนนี้ผมเป็นคนมีครอบครัวแล้ว ก็ต้องประหยัดเงินหน่อยใช่มั้ยล่ะ ผมย้ายไปอยู่ที่นั่นกับคุณเลย ในเมื่อทำตามข้อตกลงที่เราได้เซ็นกันเอาไว้ แถมยังประหยัดเงินค่าเช่าห้องของผมอีก”

เทวิกาไร้ความสามารถในการตอบโต้ ใครล่ะที่ให้เธอร่างเป็นแฟนหลอกๆ กับเขา และเขียนร่างข้อตกลงแบบนั้นขึ้นมา ตอนนี้ถือว่าเธอย้ายก้อนหินมาทับเท้าของตนเองแล้วแหละ

“ฉันเช่าห้องหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก อยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟมาก ใช้เวลาเดินสองสามนาที ห้องที่ฉันพักอยู่ตอนนี้ พี่พัฒน์ ถ้าพี่ย้ายมาพักกับฉัน งั้นต้องเป็นกัปตันห้องรับแขกแล้วแหละ”

ยศพัฒน์ที่กำลังขับรถถึงกับหัวเราะร่วนไปด้วย “ถ้าประหยัดเงินได้ เป็นเจ้าของห้องรับแขกก็เอา หรือไม่ ผมไม่ย้าย แต่คุณช่วยจ่าค่าห้องให้ผมด้วย ค่าเช่าห้องผมรวมค่าน้ำค่าไฟด้วยก็ห้าหมื่นกว่าต่อเดือนเอง”

พอเทวิกาได้ยินดังนั้น จึงรีบพูดสวนทันที “พี่ส่งฉันที่ร้าน แล้วหาของกินในร้านฉันนั่นแหละ แล้วพี่ก็รีบไปคืนห้อง และย้ายมาเลย”

นัยน์ตายศพัฒน์ทอประกายทันที มุมปากยิ้มกรุ้มกริ่ม “ตกลงครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel