5.ทางของเขา ทางของเธอ
รถตู้คันหรูขับออกจากกรุงเทพตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันศุกร์ ทีมงานแข่งรถเดินทางล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อเตรียมพร้อมและเช็กสภาพรถล่วงหน้า ก่อนที่คนขับจะไปถึง
อิทธิพัทธ์ เล่นโทรศัพท์มือถือ ไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างนั่งอยู่บนรถ ก่อนที่ไลน์จะเด้งขึ้นมา เมื่อเพิ่มเพื่อนอัตโนมัติจากเบอร์โทร ชายหนุ่มกดเข้าไปดู ก็พบว่า ทีเอคนใหม่ใช้รูปโปรไฟล์ เป็นรูปตัวเองท่ามกลางสวนผัก สีเขียวสุดลูกหูลูกตา
รอยยิ้มของเค้า มาอีกแล้ว แค่เพียงเห็นรูปของเธอ ข้อความในไลน์นับร้อยข้อความถูกเพิกเฉย ไม่อ่าน บางทีก็ลบออกไป ทั้งที่ยังไม่อ่าน ส่วนมากเป็นคู่ขา ที่พาไปนอนหลายครั้ง พอจะสนิทสนมกันระดับนึงแต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นคู่ควง
คอนโดริมทะเล ที่ซื้อเอาไว้ เป็นที่พักสำหรับการมาแข่งรถ แม้จะลากผู้หญิงขึ้นเตียงแทบทุกสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่เคยมีใครเคยมาค้างที่นี่สักคน
" คุณอิฐ จะไปสนามกี่โมงครับ ผมจะมารับ " คนขับรถส่วนตัว ถามระหว่างที่ส่งเจ้านายลงจากรถ
" ไม่ต้องมารับ เดี๋ยวไปเอง ไปพักได้เลย "
ลูกน้องรับคำสั่งแต่โดยดี คุณอิฐใจร้ายกับผู้หญิงเสมอแต่ไม่เคยหยาบคายกับลูกน้อง ไม่เคยดุด่า หรือ พูดจาไม่ดี สักครั้ง
ร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าอยู่ในอ่างน้ำอุ่น ด้วยความสบายใจ คอนโดริมทะเล และ คอนโดที่กรุงเทพ เป็นน้ำพักน้ำแรงจากการแข่งรถของเค้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ครอบครัวจะมีฐานะดี แต่ความดื้อรั้นของลูกชายคนเดียว ทำให้สองพ่อลูก ไม่เคยพูดกันดีๆมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่แม่เสียชีวิตไป เมื่อเกือบสิบปีก่อน
โทรศัพท์สั่นครืดคราด ทำให้คนที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยลืมตาขึ้นมามองดู พริตตี้สาว ขาประจำโทรเข้ามา เพื่ออะไรที่คุ้นเคยและรู้ใจกันดี
อิทธิพัทธ์ปล่อยให้โทรศัพท์สั่นอยู่อย่างนั้น จนกว่าคนที่โทรเข้ามา จะวางสายไปเอง เค้ายังไม่อยากนัดใครเอาไว้ก่อน เผื่อว่าหน้างาน จะไปเจอใครที่ถูกใจกว่า ก็เท่านั้นเอง
สนามแข่งรถ เต็มไปด้วยสาวสวยจำนวนมาก ที่มาเชียร์และมาสร้างสีสันให้กับนักแข่งรถ พริตตี้สาวสวย เดินตรงเข้ามาทักทายชายหนุ่มสุดหล่อด้วยความคุ้นเคย
อิทธิพัทธ์สวมแว่นกันแดดสีดำ เดินลงมาข้างสนาม พร้อมกับเสียงเรียกของผู้หญิงจำนวนมาก พริตตี้สาวในทีมเดินตรงเข้ามาหา พร้อมกับ ควงแขนชายหนุ่มเอาไว้ แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่
รถเมล์ปรับอากาศในช่วงเย็นวันศุกร์จอดนิ่งสนิท แทบไม่ขยับมากกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว คนที่ไม่ค่อยได้นั่งรถเมล์หยิบยาดมขึ้นมาดมแก้เวียนหัว โทรศัพท์มือถือสั่นรัวๆจนต้องรีบหยิบมันออกมาดู ก็พบว่า พ่อโทรเข้ามาหา
" ถึงไหนแล้วลูก " ผู้เป็นพ่อ ถามด้วยความเป็นห่วง เพราะพ่อกับแม่ ออกมารอที่จุดนัดพบได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่า ลูกสาวจะมา
" อีกสักพักเลยจ้ะ พ่อ รถไม่ขยับไปไหนเลย"
ลูกสาวตอบออกไปตามตรง ก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือ แล้วถอนหายใจ คิดว่า คงอีกเกือบชั่วโมงแน่นอน
" ไม่เป็นไร พ่อกับแม่รอได้ ลูกดมยาดมเอาไว้นะ " คนรู้ใจลูก บอกกำชับอีกครั้ง แล้วกดตัดสายทันที
ระยะเวลาที่คิดไว้ว่าจะมาถึงจุดนัดพบ ภายใน1ชั่วโมงครึ่ง กลายเป็น2ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางความเป็นกังวลของคนที่รอคอย ก่อนจะยิ้มร่า เมื่อลูกสาวเดินหน้าเพลียลงมาจากรถเมล์ในเวลาเกือบ1ทุ่มตรง
" เลี้ยงสุกี้ในห้างหน่อยสิแม่ อยากกินขนมเค้กด้วย "
ลูกสาวอ้อนแม่ ที่กำลังมองลูกสาวด้วยความคิดถึงเหลือเกิน รถกะบะขับเข้าไปจอดในห้างใหญ่ พร้อมกับที่พ่อแม่ลูก สามคน เดินเข้าไปในร้านสุกี้ชื่อดัง ตามคำขอของลูกสาวเพียงคนเดียว เสียงคุยกัน บอกเล่า เรื่องการทำงานของลูก ทำให้พ่อแม่ยิ้มทั้งน้ำตา คิดถูกแล้ว ที่ให้ลูกไปทำงาน ไปใช้ชีวิตของตัวเอง ประสบการณ์ข้างนอก จะทำให้ลูกเก่งขึ้น แม้เงินเดือนจะไม่มากมาย เทียบกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ลูกเรียนจบมา ก็อยากมีงานทำ ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ของตัวเอง อย่างเต็มที่
" เอาไว้เงินเดือนออกก่อนนะ ลูกจะพามาเลี้ยง " ลูกสาวอ้อนแม่อีกครั้ง เมื่อเห็นแม่จ่ายค่าอาหาร หลักพันบาท คนที่ทำงานมีรายได้วันละไม่ถึงพันอย่างพ่อกับแม่ ไม่เคยขี้เหนียวสักครั้งในสิ่งที่ลูกร้องขอ และ พราวรุ้งรู้ดีว่า เธอเป็นที่รักสุดหัวใจของพ่อและแม่เพียงใด
เค้กชิ้นเล็กราคาไม่เล็กอีกหลายชิ้น ถูกชี้ใส่กล่องกลับบ้าน แม่ไม่ลืมว่าลูกร้องอยากกิน แม้เจ้าตัว จะทำลืมไปแล้ว เพราะอยากให้พ่อกับแม่ กินข้าวนอกบ้านบ้าง เท่านั้นเอง
พ่อแม่ลูกสามคน ขับรถกลับมาถึงบ้านเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เลยเวลาปกติไปมาก ระยะทางจากที่ทำงานมาบ้าน ทำให้คนที่ตื่นแต่เช้า หลับคอพับคออ่อนทันที
" รุ้งตื่นเถอะลูก ถึงบ้านแล้ว " แม่ปลุกลูกสาวให้รู้สึกตัว ก่อนจะพาเดินเข้าบ้านอย่างระมัดระวัง
พราวรุ้งหลับตาอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหลับสนิทไปในทันที เธอเหนื่อยกับการนั่งรถเกือบสามชั่วโมง และยังเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์อีกด้วย
รถของอิทธิพัทธ์ เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ท่ามกลางเสียงเชียร์ของสาวหลายคนที่เทใจให้ชายหนุ่ม รางวัลวันนี้หลายแสนบาทยังไม่รวมเงินอัดฉีดและเงินเดิมพันข้างสนามอีกหลายแสน ที่เค้าจะได้รับอีก ชายหนุ่มยืนรับรางวัล พร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเปิดแชมเปญฉลองแชมป์อีกครั้ง รอยยิ้มของผู้ชนะ มีค่ามากกว่าเงินรางวัล ความเร็ว เป็นสิ่งท้าท้ายสำหรับเค้า ทีมงานและผู้ใหญ่ เห็นศักยภาพในตัวของเค้า จึงชวนมาขับรถแข่งในสนาม จากเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปี มาจนเป็นอิทธิพัทธ์ในวันนี้ ไม่ง่ายเลย
" ดีใจด้วยนะอิฐ สุดยอดเลย " เพื่อนร่วมสนามเข้ามาแสดงความยินดี
" ขอบใจมาก เจอกันสนามหน้า " ชายหนุ่มผู้คว้าชัยชนะ ตอบด้วยรอยยิ้ม แล้วโยนหมวกที่ตัวเองสวมอยู่ให้กับคนที่มาเชียร์ เรียกเสียงตะโกนข้างสนามให้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
" พี่อิฐ พี่อิฐ พี่อิฐ "
อิทธิพัทธ์หลับตาลง เค้าซึมซับบรรยากาศแห่งชัยชนะ ในวันนี้เอาไว้ ด้วยรอยยิ้มและความสุข เป็นอีกวันหนึ่งที่เค้าจะไม่ลืมเลย
