ระอุรักเจ้าทะเลทราย

111.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
83
บท
58.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

โปรโมชั่นทัวร์ราคาทู้กถูก ถูกที่สุดในชาตินี้ ถูกกว่านี้คงต้องรอชาติหน้า ถูกจนขยายม่านตาของ  มุกระวี  จนกดซื้อทัวร์โปรไฟไหม้ไปเหยียบดินแดนทะเลทราย หวังจะได้ดื่มด่ำอารยธรรม และพักผ่อนหย่อนใจแต่สวรรค์คงลงโทษที่เห็นแก่ของถูก หลงเชื่อสโลแกนแหกตาที่บอกว่า ถูกจริง ไม่ทิ้ง ไม่เท เธอจึงมาเจอกับโจรทะเลทรายตัวเป็นๆ ไหนจะซวยซ้ำซวยซ้อนเข้าไปอีก เมื่อถูกโจรเอามาทิ้งไว้กลางทะเลทราย! ชีคฟาริส อัล มีดิส เก็บเธอมาจากผืนทรายร้อนระอุ ว่าที่กษัตริย์แห่งประเทศมีดีสอ้างว่ามีนโยบายให้ความคุ้มครองนักท่องเที่ยว โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อหลบมาอยู่ในอ้อมอกของเขา แต่มันต้องไม่ใช่ตื่นมาแล้วเจอกับขนหน้าอกในระยะประชิดขนาดนี้! “ผู้ชายมีดิสขยันทำมาหากิน เขาว่ากันว่ามีสามีเป็นชาวมีดิสนั้นโชคดีเหมือนมีรถขนทองหล่นทับ” มุกระวีผลักดันเขาออก “ฉันเชื่อค่ะ ว่าผู้ชายมีดิสขยันทำมาหากิน เพราะพวกคุณมีเมียได้ตั้งหลายคน ไม่ขยันจะเอาอะไรเลี้ยงเมีย” ฟาริสไม่เถียงด้วย เพราะนั่นเป็นความจริง “แต่ทั้งท่านอาและน้องชายของผม รวมทั้งญาติของผมหลายคนพวกเขามีเมียเดียว แล้วยังบอกว่ามีความสุขมาก ไม่ต้องฟังเรื่องเมียตีกันให้รำคาญหู ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” คำพูดของเขาพยายามสื่อบางอย่าง มุกระวีฟังแล้วอดใจสั่นไม่ได้ พยายามตั้งสติเตือนตัวเองว่านอกจากเขาจะเป็นมนุษย์โครมันยอง บางวันก็กลายเป็นมนุษย์ปากหวานได้เหมือนกัน ถ้าหลงเชื่อเขาแล้วไม่ได้เป็นแบบที่ฝัน คนที่จะถูกความปวดร้าวกระหน่ำจิตใจก็คือเธอคนเดียว เห็นมุกระวีหนีไปไหนไม่ได้ คนเจ้าเล่ห์ที่อดใจในความน่ารักไม่ไหวก็ยิ่งรุกคืบหาทางรังแกเมียเป็นกำไรเล็กน้อยสำหรับวันนี้ ดวงหน้าสวยของมุกระวีเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อ เพราะถูกมือแกร่งล้วงลึกเข้าไปวนเวียนบีบคลำอย่างไม่เกรงใจ “คนบ้า เอามือออกไปนะ” เขาทำเนียนหน้าตาเฉย แล้วช้อนตัวมุกระวีจะพามานั่งบนตัก ทว่าเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากกระเป๋าด้านซ้ายของเสื้อสูททำให้มุกระวีได้โอกาสกัดแขนกำยำแล้วพาตัวกลับไปนั่งที่เบาะตามเดิม “โอ๊ย” ชีคฟาริสครางเสียงหลง แล้วมองเมียรักอย่างคาดโทษ “เดี๋ยวคืนนี้ผมจะกัดคืน แต่กัดตรงไหนยังไม่บอก

นิยายรักจอมมารมาเฟียฟินๆเศรษฐีดราม่า

ตอนที่ 1-1โปรไฟไหม้ ไปได้แต่กลับไม่ได้

นี่เป็นอีกทริปที่สนุกสุดมันและคงเป็นทริปที่มุกระวีจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตก็ว่าได้ ‘มุกระวี หรือมุก’ สไตลิสต์ละคร ผู้อยู่เบื้องหลังความงามของดาราบนจอแก้ว สไตลิสต์ละครนั้นแตกต่างจากสไตลิสต์แฟชั่น สไตลิสต์ละครไม่ใช่ผู้นำแฟชั่น แต่เป็นการครีเอตเสื้อผ้าให้เข้ากับคาแรกเตอร์ของตัวละครนั้นๆ ซึ่งมีหลักการทำงานคือต้องจัดหาเสื้อผ้านักแสดงให้เข้ากับบทและโทนของเรื่อง โดยอิงจากบทละครโทรทัศน์เป็นหลัก

หลังจากปิดกล้องละครเรื่องดังที่สาวโสดอย่างมุกระวีเป็นสไตลิสต์ให้นั้น ก็ถูกเอ่ยชมในโลกโซเชียลอย่างมาก ทว่าไม่มีใครรู้ว่าสไตล์ลิสต์ผู้อยู่เบื้องหลังยังเป็นสาวโสด ใช่ โสดจริงๆ เรื่องซิงไม่ต้องพูดถึง จะมีใครบ้างที่ทำงานจนลืมเวลาและลืมหาแฟน จนมารู้ตัวอีกทีเวลานี้อายุก็ก้าวไปถึงยี่สิบหกย่างยี่สิบเจ็ดแล้ว

จากการทำงานอย่างทุ่มเทเกินไป ทำให้สไตลิสต์คนเก่งอย่างมุกระวีลืมดูแลตัวเอง บ่ายวันพุธเมื่อสองวันก่อนมุกระวีตื่นขึ้นมาแล้วต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นภาพสะท้อนในกระจกเงา

‘เชี่ย ผีอีเหมย ตามมาได้ไง’

เมื่อแสงแดดอ่อนๆ จากทางด้านหลังระเบียงห้องพาดผ่านม่านมาตกลงบนบานกระจก มุกระวีขยี้ตาอีกที นั่นไม่ใช่ผี แต่เป็นเธอเอง

“สงสัยจะทำงานหนักไป ต้องพักบ้างแล้วเรา”

จังหวะนั้นแอปพลิเคชันไลน์เด้งระรัว หญิงสาวขมวดคิ้วถอนใจยาว “ปิดกล้องแล้วจะตามอะไรอีก” ทุกวินาทีในสมองน้อยๆ มีแต่เรื่องงาน แต่ในที่สุดมุกระวีก็ยอมหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาดู ดวงตากลมโตสีดำขยับไปมา

‘ไม่ใช่ผู้กำกับหรือผู้จัดตามงาน ก็มันปิดกล้องไปแล้วนี่ เมื่อคืนเธอคงจะดื่มหนักไปหน่อย’

ขนตายาวเป็นแพราวกับผีเสื้อกระพือปีกขยับยุกยิกไปมา มันเป็นข้อความจากทัวร์ที่เธอเคยแอดไลน์เอาไว้ แต่ที่ทำให้ดวงตากลมโตขยายม่านตาขึ้นกว้างที่สุดคงเป็นเพราะข้อความโปรไฟไหม้ราคาถูก ถูกที่สุดในชาตินี้ ถูกกว่านี้คงต้องรอชาติใหม่ เหลือหนึ่งที่สุดท้าย

ทัวร์ประเทศมีดิส ฟาร์ส ฟินีเซีย ชมทะเลทรายอาหรับ และสุเหร่าที่งดงามที่สุด ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดหรู ชิมอาหารอาราเบียนในราคา 39,999 บาท เหลือเพียง 15,999 บาท

เดินทาง 15 สิงหาคม

โดยสายการบิน VIETJET AIR

รีบจองด่วน !!

มุกระวีจำได้ เธอกดแอดไว้จนลืม แม้กระทั่งนึกไม่ออกว่าประเทศมีดิส คือประเทศอะไร มันอยู่ส่วนไหนของโลก แต่เวลานี้เธอพอจะรู้จากมัคคุเทศก์ระหว่างการทัวร์เมื่อวาน ว่าประเทศมีดิสตั้งอยู่บนชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย มีทิศเหนือติดอยู่กับอ่าวเปอร์เซีย มีเมืองหลวงที่ชื่อว่า ‘ฟาริส’ แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน และเพิ่งยอมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้เพียง 3 ปี แต่ผู้คนมากมายทำนายไว้ว่าต่อไปประเทศมีดิสจะเจริญแข่งกับดูไบ เพราะมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่ได้เปรียบ

ฟาริสยังเป็นแหล่งการค้าเสรี และเป็นสวรรค์สำหรับนักช้อป เพราะชีคแห่งมีดิสได้รับการขนานนามว่าเป็นชีคนักบริหาร เขาทำให้ประชาชนของมีดิสมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่มุกระวีไม่ได้สนใจเรื่องชีคผู้นำประเทศอะไรมากนัก เพราะเป็นเรื่องไกลตัว ในสมองมุ่งเน้นเรื่องอาหารอาราเบียนและดินเนอร์สุดหรู ทั้งหมดนี้ในราคาแค่ 15,999 บาท

แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่มุกระวีวาดไว้อย่างสวยงาม และยังอุตส่าห์เตรียมชุดสวยๆ จากการไปส่องสไตล์การแต่งตัวของซาร่า มิเรอร์ นั้นไม่ได้ใช้ แต่กลายเป็นว่าเธอต้องเอาชีวิตมาทิ้งในทะเลทราย ไม่ใช่ถูกทัวร์พามาทิ้ง แต่ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้พนักงานที่ขับรถพาเธอเข้ามาทัวร์ทะเลทรายกลับขับออกนอกเส้นทางจากรถคันอื่นๆ ที่ทางทัวร์ได้จัดเอาไว้ ตอนนั้นเธอคิดว่าพนักงานขับรถคันที่เธอนั่งมาคงอยากสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้า ยิ่งเขาขับไว เธอยิ่งรู้สึกสนุก และยังติดใจในการดริฟต์เป็นบางช่วงบนเนินทราย สร้างความหวาดเสียวและสนุกสนานจนเรียกเสียงหัวเราะเหมือนคนบ้า ในขณะที่มือต้องหาที่เกาะยึดเอาไว้

“ว้าว สนุกมากๆ เลยค่ะ”

มุกระวีคิดว่าพอถึงโรงแรมจะต้องให้ทิปเขา ทว่าการดริฟต์อย่างผาดโผนบนสันทรายมันไม่ใช่การแสดง แต่มันเป็นของจริง เขากำลังพยายามหนีอะไรบางอย่าง

“ทุกคนกรุณาลงจากรถครับ” คนขับรถร้องบอกเป็นภาษาอังกฤษทำให้มุกระวีที่ยังสนุกสนานอยู่เบิกตามอง ลูกทัวร์ที่มาในรถคันนี้ราวห้าหกคนก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงคนในรถถามกันไปมา

“นั่นสิ เกิดอะไรขึ้น” มุกระวีก็ถามออกมา แต่ไม่มีใครได้รับคำตอบ

“ผมพาพวกคุณไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราเจอกับโจรทะเลทราย พวกคุณต้องหาที่หลบกันก่อน”

เสียงหวีดร้องด้วยความกลัวดังขึ้นตามหลังมาระงม ก่อนที่คนขับร่างใหญ่จะวิ่งไปหลบที่หลังสันทรายก่อนใคร มุกระวีเห็นทุกคนวิ่งลงจากรถพร้อมสัมภาระกันหมด เธอก็รีบลากกระเป๋าตามลงไป

สีหน้าหญิงสาวยังอยู่ในอาการงง เสียงหวานดังลอดไรฟันออกมา

“เจอกับโจรทะเลทรายงั้นเหรอ” ใบหน้าสวยหวานซีดเผือด “ซวยจริง ไหนในสโลแกนทัวร์บอกว่า ถูกจริง ไม่ทิ้ง ไม่เท แต่ดันมาเจอโจร” เธอจะทำยังไงดี ลูกทัวร์ที่เหลือวิ่งไปหลบตามสันทรายกันหมด เธอจะหนีไปไหนดี มองไปทางไหนก็เห็นแต่เนินทรายสีทองลูกเล็ก ลูกใหญ่สลับซับซ้อนทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา และตรงนั้นไกลๆ มีรถจี๊ปสามคันกำลังขับตรงมายังจุดที่เธอยืนอยู่ พร้อมกับเสียงปืนดังสนั่น

ปัง ปัง

มุกระวียกมือปิดหู ตกใจสุดขีด ปล่อยกระเป๋าแล้ววิ่งไปหลบหลังสันทรายใกล้ๆ กับคนขับรถ ไม่นานเสียงรถจี๊ปก็ดังใกล้เข้ามาก่อนที่เครื่องยนต์จะหยุดลง

“เอาทรัพย์สินมีค่าของพวกมันออกมาให้หมด”

หัวหน้าโจรตะโกนบอกเป็นภาษาท้องถิ่น มุกระวีใจสั่นยกมือไหว้พนมขอร้องต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เธอมีชีวิตรอดกลับไปด้วยเถิด

“นี่คุณขับรถพาเรามาตายแท้ๆ ฉันไม่น่าซวยเลือกทัวร์ของคุณเลย” มุกระวีหวาดกลัวจนต่อว่าคนขับรถ พลางขดตัวให้เล็กลง เธอเห็นโจรไปค้นทรัพย์สินลูกทัวร์คนอื่นก็ยิ่งหวาดกลัว เดี๋ยวอีกสักพักต้องมาถึงตัวเธอแน่