ตอนที่ 2

ไหล่ยิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้มีความเป็นชายชาตรีในทุกกระเบียดนิ้ว

“อ่า… ”

ฉี่เสร็จแล้ว คำรณพริ้มตาซี้ดปาก ทำหัวสั่น สะบัดคอเสียงดึงกรึบ คงรู้สึกโล่ง จับเจ้าอนาคอนดาของตัวเองสลัดเบาๆ จนสะเด็ดน้ำ

ความยาวใหญ่ทำให้มันห้อยเป็นลำลงมาฟาดต้นขาที่ปกคลุมไว้ด้วยเส้นขนสีดำเป็นแพคลุมลงมาถึงหน้าขา ครั้นเมื่อเสร็จกิจ ก็จับน้องชายยัดเข้ามาเก็บในกางเกงขาก๊วยตามเดิม

จากนั้นก็เดินผิวปากหวือเดินออกมาอย่างอารมณ์ดี หารู้ไม่ว่ามีอีกคนกำลังใจเกิดอาการใจเต้นระทึก แทบช็อกอยู่หลังพุ่มไม้ ห่างกันเพียงแค่สามเมตรกว่าๆ เท่านั้น

ในเวลาต่อมา

ตอนใกล้ค่ำ

“ป๋าขา… ที่นี่อากาศดีมากค่ะ”

ลิลลี่ยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่อยู่หลังเต็นท์พักแรม ปลายจมูกเชิดรั้นรับรู้ได้ถึงไอดินและกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าที่ปะปนมากับกระแสลมเอื่อยอ่อน รู้สึกถึงความเยียบเย็นที่ฝังตัวอยู่ตามราวไพร ผิวกายสัมผัสได้ถึงไอหนาว โรยตัวอยู่ทั่วยอดดอยสูงเสียดเมฆ ก่อนจะกวาดสายตาไปตามเทือกเขาที่พระอาทิตย์เริ่มสาดลำแสงมาจากเบื้องหลัง ดวงสีแดงกลมโตลอยเรี่ยต่ำเกือบแตะสันเขา

“ก็ป๋าเคยชวนแล้วหลายครั้งว่าลองมาเที่ยวป่าดูบ้าง… แต่หนูก็อิดออดไม่อยากมา”

เสี่ยหมงกล่าว

“ก็ลิลล์ไม่เคยรู้ว่าบรรยากาศในป่าจะดีขนาดนี้”

หญิงสาวตอบ และแอบตอบอีกประโยคอยู่ในใจว่า ‘ไม่คิดว่าจะได้เจอควาญช้างหล่อล่ำลำโต’

“นี่เสียงอะไรคะ… น้ำตกใช่ไหมคะ”

ลิลลี่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

ขณะทอดสายตามองทิวเขาสลับสล้าง สะท้อนปุยเมฆเป็นริ้วรายสีแดงเรื่อเรืองอยู่ที่ขอบฟ้า

“ใช่จ้ะ… มีน้ำตกอยู่หลังลำธารไม่ไกล”

เสี่ยหมงตอบ

ได้ยินเสียงสายน้ำ ตกลงกระทบโขดหินเบื้องล่างโครมครืน รู้สึกได้ถึงไอชื้นของละอองน้ำที่เจืออยู่ในบรรยากาศรายรอบ

“โอ้ว… ทางโน้นมีเมฆลอยลงมาต่ำมากๆ ค่ะ”

ลิลลี่อุทานตื่นเต้น ทอดสายตาไปยังทะเลหมอกหนา ขังตัวอ้อยอิ่งนิ่งอยู่ตามที่ราบต่ำ ลดหลั่นลงมาตามลำดับความสูงชันของภูมิประเทศ

“นั่นแหละที่เขาเรียกว่าทะเลหมอก”

เสี่ยหมงกล่าวพลางยกไปป์ยาเส้นขึ้นสูบ ก่อนจะหันไปเห็นร่างสูงใหญ่สะดุดตาของผู้ชายที่เดินเข้ามาใกล้ หลังจากตรวจตราความเรียบร้อยรอบๆ ที่พัก

“คำรณ… มาดื่มด้วยกันสิ”

เสี่ยหมงเรียกหัวหน้าควาญช้าง เชื้อเชิญอย่างไม่ถือเนื้อถือตัว

“ไม่เป็นไรครับเสี่ย… เดี๋ยวพวกผมนั่งดื่มกันทางโน้นจะดีกว่า”

คำรณพยักหน้าไปยังเต็นท์ที่พักของควาญช้าง ด้วยไม่อยากก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

“ไม่เป็นไร… กันเองน่ะ… มาดื่มกันสักแก้ว”

เสี่ยหมงกล่าวพลางรินเหล้าลงแก้ว

ครั้นเมื่อเห็นทีว่าจะขัดไม่ได้ คำรณจำต้องเดินมาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งบนเก้าอี้ผ้าใบที่เตรียมเอามาพร้อม

สุราฝรั่งราคาแพงถูกเปิดรินลงแก้ว

เสียงสนทนาคลอไปกับเสียงหัวเราะ ดูเหมือนว่าเสี่ยหมงกับคำรณจะคุยกันถูกคอ ตามประสาผู้ชายที่ชอบเดินป่า

เสี่ยหมงนิยมการท่องไพรเป็นชีวิตจิตใจ ต่างกันก็ตรงที่คำรณเดินป่าเพราะเป็นอาชีพของควาญช้าง แต่เสี่ยหมงเป็นนักท่องเที่ยว

“หนูลิลล์… มาดื่มกับป๋าสักแก้วไหมจ๊ะ”

เสี่ยหมงหันไปมองร่างเอิบอิ่มของหญิงสาวในชุดนอนแบบสายเดี๋ยวเส้นเล็กๆ เกี่ยวไว้ที่หัวไหล่กลมกลึงทั้งสองข้าง

‘โอ้ว… ’

คำรณแอบอุทานในใจเมื่อเหลือบไปเห็นหญิงสาวแหวกผ้าใบออกมาจากเต็นท์

ชายชุดนอนเนื้อผ้าซาตินสีชมพูยาวลงมาเกือบถึงเข่า สองเต้าอวบใหญ่กระเพื่อมไหวอยู่ภายใต้ผ้าบางๆ และการที่หล่อนโนบรา ทำให้คำรณมองเห็นตำแหน่งของจุกหัวนมทั้งสองข้าง แทงตุงขึ้นมาจากเนื้อผ้าบางๆ

‘โอ้ว… แม่คุณเอ๊ย’

คำรณแอบอุทานเป็นครั้งที่สอง เมื่อกระแสลมหอบหนึ่งสาดเข้ามาปะทะเรือนร่างสุดเย้ายวนของหญิงสาว

แรงลมทำให้เนื้อผ้าบางๆ แนบเน้นเข้ากับสรีระสุดเย้ายวน ทำให้มองเห็นส่วนโค้งส่วนเว้าของความเป็นหญิงชัดเจน สองเต้าคัพอีอวบใหญ่สะดุดตา เอวคอดรับกับสะโพกผายได้สัดส่วน เข้าตำราที่ว่าหน้าอกภูเขาไฟบั้นท้ายดินระเบิด

“ตามสบายค่ะป๋า… คืนนี้ลิลล์ยังไม่อยากดื่มค่ะ ลิลล์ง่วงแล้ว… ขอนอนก่อนนะคะ… ว่าแต่กลางป่าแบบนี้แน่ใจนะว่าจะไม่มีเสือมาคาบเราไปกิน”

ลิลลี่กล่าวขำๆ เมื่อแลไปรอบๆ ก็อดกลัวไม่ได้ ในยามที่กระแสลมพัดมาปะทะต้นไม้ ก้านกิ่งกระเพื่อม