บท
ตั้งค่า

พ่อเลี้ยงบำเรอกาม /17

“สงสัยฉันต้องออกกำลังกายให้หนักขึ้น”

“ฮิ ฮิ ก็ออกกำลังกายกับดาวทุกวันไงคะ พี่ปิงจะได้มีร่างกายแข็งแรง ไม่เหนื่อยง่ายแบบนี้อีก” เธอออเซาะฉอเลาะน่าตี

“ฉันแข็งแรงนะ แต่เธอนั่นแหละยัยตัวแสบเล็กมาก”

“เล็กตรงไหน” เธอดึงตัวขึ้นนั่งอยู่บนหน้าท้องของเขา ทำแก่นแก้วเอามือวางทาบเนินนางของตน “ไม่เล็กเลยนะนี่ มือดาวยังแทบปิดไม่มิด” พูดอย่างไม่อายปากจนน่าหมั่นไส้

“ฉันรู้ว่าเธอมีเนินหลังเต่าอวบใหญ่มาก แต่ร่องเนื้อเธอต่างหากที่เล็กถ้าเทียบกับมังกรของฉัน”

แสงดาวหันไปมองมังกรของเขา

“ก็จริงนะคะ ดุ้นพี่ปิงทั้งใหญ่ ทั้งยาว เข้าไปทีดาวจุกเลย”

“แก่แดดใหญ่แล้ว ลุกขึ้นจากตัวฉันเสียที” เขาไล่เธอดื้อๆ

“อ้าว! ไล่ดาวซะแล้ว”

“ตัวเธอหนัก”

“โห...ปากจัด ลงก็ได้ เชอะ!” ผู้หญิงถ้าถูกทักว่าอ้วนเป็นต้องออกอาการแง่งอนเสมอ

ปรมัยกระตุกยิ้มแล้วมองหากางเกงนอนของเขา ก่อนจะเห็นว่ามันลอยไปอยู่อีกมุมก็เดินไปเก็บ กลับมาเห็นแสงดาวใส่เสื้อคลุมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับ

“งอนเหรอ”

“เปล่า”

“ไม่งอนแล้วหน้าจะงอได้ไง” เขาแกล้งถาม

“ไม่ได้งอน” เธอสะบัดหน้าหนี ทำปากยื่นแหลม

“งั้นก็เข้าบ้านได้แล้ว ตรงนี้ยุงเยอะ”

“คอยดูนะ ดาวจะลดน้ำหนัก แล้วพี่ปิงจะลืมยัยเด็กอ้วนคนนี้ไปเลย”

นั่นไง แสงดาวงอนเขาจริงๆ

ปรมัยส่ายหน้ายิ้มๆ ตากกางเกงไว้กับเปลไม้แล้วจูงคนแสนงอนเข้าบ้าน สาวน้อยลอบมองร่างเปลือยเปล่า ทุกย่างก้าวของเขาเป็นไปอย่างมั่นคง มองแล้วก็น้ำลายสอ

“อย่าบอกนะว่าหิวอีก” เจอดักทางเข้าให้

“บ้า!!” รีบปฏิเสธเสียงหลง

“ดึกแล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย เธอกินแล้วเหรอ” เขาแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

สาวน้อยถึงกับหน้าแดงเมื่อถูกแกล้งแบบนี้ ปรมัยหัวเราะอารมณ์ดีที่ได้แกล้ง แม้ใบหน้าสวยของเธอจะยังไม่คลายแง่งอน แต่หัวใจของแสงดาวก็พองโตเป็นลูกบอลลูนลอยฟ้า

“ตกลงจะกินมั้ย”

คนถูกถามพยักหน้าตาลอยๆ

“รอเดี๋ยวนะ”

พอถูกบอกให้รอ ก็เลยหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องโถงเสียเลย ปรมัยเดินไปทางครัว พอไม่เห็นเธอเดินตามมาก็หันมาหา

“อ้าว! ไปนั่งรอทำไมตรงนั้น รอที่โต๊ะอาหารสิยัยบื้อ”

แสงดาวได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้าง นี่ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดไว้

“ดาวไม่กินข้าวนะคะ”

ชายหนุ่มหันกลับมาทำหน้ายุ่ง

“กินอะไรมาแล้วหรือ”

“เปล่าค่ะ”

“แต่เมื่อกี้ฉันถามจะกินมั้ย เธอก็บอกว่ากิน”

“เอ่อ...” เธอหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก น่าแปลกบทจะยั่วก็เหมือนถูกผีเข้าไม่ได้อายเอาเสียเลย พอตอนนี้อายนักอายหนา “ดาวจะลดน้ำหนักค่ะ”

“ลดทำไม แบบนี้ก็สวยอยู่แล้ว”

แสงดาวสบตาคนพูด เขามองตอบเธอแล้วหมุนร่างเปลือยๆ เข้าครัว บางทีเธอคงติดโรคหน้าด้านมาจากเขา

“เมื่อกี้ยังว่าดาวตัวหนักอยู่เลย” เธอเดินตามเข้าไป

“เราขึ้นมาจากน้ำแล้วเล่นรักกันอย่างเต็มที่ ลมก็แรง เธอนอนทับฉันเกือบครึ่งชั่วโมงไม่คิดว่าฉันจะเป็นตะคริวเลยหรือไง ฉันไม่ใช่ก้อนหินนะ”

“แหวะ! ที่แท้ก็แก่นี่เอง”

“ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไม่เมื่อยแขน” คราวนี้ร่างสูงปัดเธอพ้นทางแล้วเดินหนีขึ้นห้อง กลายเป็นคนขี้งอนแทนเธอไปแล้ว

แสงดาวมองตามอ้าปากหวอ ให้ตายสิ นี่จะไม่มีใครยอมใครกันเลยใช่มั้ย เธอคิดดังนั้นก่อนจะหัวเราะร่วน แบบนี้ก็ดี ต่อไปนี้เธอจะได้ทำอะไรตามใจตัวเองเสียที

พี่ปิงจะต้องออกกำลังกายทุกวัน เพื่อร่างกายจะได้แข็งแรง ฮิ ฮิ

แสงดาวเคาะประตูเรียกปรมัยตอน 8.00 น. พอดีเป๊ะ เคาะจนเจ็บมือก็ยังไม่เปิดจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดู ภายในห้องนั้นว่างเปล่าไม่มีเงาของปรมัย เธอขมวดคิ้วแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ไปเจอเขากำลังยกดัมเบลบริหารกล้ามแขนอยู่หลังบ้าน

“วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ อุ๊ยน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ น่ากระซิบเบียดกายกระแซะ แล้ววางมือแหมะไว้บนหัวเข่า อยากกระซิบเบาๆ ว่าตอนนี้เหงาใจจังเลย อื้อหือ...หล่อจัง อ้าห๊า...มาดแมน”

ปรมัยเหลือบตามองสาวน้อยอารมณ์ดี เห็นเธอทำหน้าตาน่าหยิกก็นึกอยากจะฟาดก้นงอนๆ สวยๆ รับอรุณจริงๆ ยิ่งพอกวาดตามองชุดนอนที่เธอใส่แล้วกระตุกยิ้ม ยกดัมเบลขึ้นอีก 2-3 ครั้งก็วาง

“เสร็จแล้วเหรอคะ” แสงดาวกระดี๊กระด๊ากระโดดไปจับมัดกล้ามของเขา “แข็งจังเลย ไม่รู้ว่า...อย่างอื่นจะแข็งเหมือนกล้ามแขนหรือเปล่านะ”

ปรมัยหมั่นไส้จัดก็ตบก้นงอนๆ ของสาวช่างยั่วไปเพียะใหญ่ แสงดาวร้องวี้ดแต่ไม่หนี ผวาเกาะคอชายหนุ่ม

“ทำไมเมื่อคืนไม่บอกว่าจะใส่ชุดนี้นอน”

“ถ้าบอก ดาวก็ไม่ได้นอนสิคะ”

เขามองกลีบปากที่ขยับเขยื้อนช่างเจรจาแล้วกดจูบหนักหน่วง สาวน้อยหัวเราะแผ่วๆ จูบตอบเขาอย่างยินดี ปลายเท้าเล็กเขย่งขึ้น มือใหญ่ช้อนใต้สะโพกบีบขยำ บั้นท้ายของเธอทั้งแน่นทั้งนุ่ม

“ใส่ชุดนอนลงมาเดินแบบนี้ เธอก็มีจุดประสงค์เหมือนกันล่ะดาว”

แสงดาวยิ้มกริ่ม

“เมื่อคืนดาวเพลียไปนิด เช้านี้เลยลงมาเสิร์ฟให้แต่เช้าไงล่ะคะ”

“แสบจริงๆ เลยนะเธอนี่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel