ย้อนเวลาเปลี่ยนวาสนารัก

57.0K · จบแล้ว
Ocean Books
40
บท
24.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ตัวละครหลัก มู่เสวี่ยหลิง หญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองเป่ย เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง หากเพียงหลงผิดชั่ววูบ นอกจากทำให้ตนเองตกตายไร้ที่กลบฝัง ยังทำให้คู่หมั้นที่ตนเองทอดทิ้งไป ต้องมีชะตาชีวิตอันเลวร้ายจนคาดไม่ถึง เขาตายอย่างอนาถอนาถาในตรอกสกปรก ทั้งที่หากเขาไม่หลงรักนาง ชีวิตของเขาจะรุ่งโรจน์​ สมบูรณ์พูนสุขไปแล้ว หยวนเซิ่งเจ๋อ คุณชายใหญ่ของตระกูลพ่อค้าอันดับหนึ่งของเมืองเป่ย ชีวิตเขาย่อมรุ่งโรจน์หากไม่พานพบคู่หมั้นที่เป็นดั่งตัวอับโชคของเขา นางทำให้เขาหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น​ แต่นางกลับทิ้งเขาไปเพียงเพราะเขามิใช่ขุนนางมากยศ แต่เมื่อเห็นนางอันเป็นที่รักถูกลากมาทิ้งไว้ในตรอกร้างท้ายเมือง เขากลับไม่อาจเพิกเฉยต่อนางได้ เขายอมถูกตัดออกจากตระกูล ยอมกระทั่งเป็นขอทาน​ ทั้งหมดนี้ล้วนเพื่อให้ได้อยู่กับนางอันเป็นที่รักเท่านั้น สุดท้ายเขากลับตกตายโดยไร้ที่กลบฝังเพราะนาง

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายจีนโบราณเกิดใหม่โรแมนติกพระเอกเก่ง18+

1. สำนึกเสียใจ[1]

มู่เสวี่ยหลิง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเสียใจสิ่งใดในชีวิตมาก่อน นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินแยกเป็นเสี่ยงก็ยังมีท่านพ่อและคู่หมั้นค้ำยันไว้ให้ ภัยอันตรายอันใดไม่มีทางแตะต้องผิวกายเนียนนุ่มดุจหยกชั้นเลิศของนางได้เป็นแน่

เพียงแต่ตอนนี้ แค่นางทอดสายตามองเขา ความรู้สึกปวดแปลบในใจยากจะกลบเกลื่อน รวดร้าวเกินบรรยาย เจ็บแสบเสียจนหัวใจไร้ความรู้สึกอื่นให้สัมผัสอีกต่อไป

มู่เสวี่ยหลิงร่างกายขาวโปร่ง ไร้ข้อมือและข้อเท้าทั้งยังมีความดำมืดสายหนึ่งโอบล้อมอยู่รอบกาย นางเป็นเพียงวิญญาณที่ไม่สามารถละห่วงตนเองได้ หลงวนเวียนอยู่ในอารมณ์ความรู้สึกทั้งยังยึดมั่นถือมั่นจนไม่อาจปล่อยวาง

นางควรจะเป็นวิญญาณอาฆาต ตามติดคนที่ทำร้ายนางจนชีวิตปลิดปลิวพวกนั้น แต่ไม่เลย นางเป็นเพียงวิญญาณหญิงงามเศร้าโศกทุกข์ระทม ล่องลอยอยู่รอบกายอดีตคู่หมั้นหนุ่มไม่ห่าง

หยวนเซิ่งเจ๋ออดีตคู่หมั้นนาง กำลังนั่งอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกและน้ำขังเกรอะกรัง เพียงกลิ่นที่ลอยโชยออกไปนอกตรอกก็ทำผู้คนหลีกหนีหน้า ไม่อยากมองเข้ามาให้เสียสายตา เป็นสถานที่โสมมที่แม้แต่ขอทานยังไม่เหยียบย่าง

ทว่าหยวนเซิ่งเจ๋อกลับยังนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเขาเหม่อมองออกไปไกลลิบ มุมปากขยับยกเป็นรอยยิ้มหล่อเหลา ราวกับด้านหน้ายังมีนางในดวงใจขยับกายร่ายรำด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยเหมือนเมื่อปีนั้น ปีที่มู่เสวี่ยหลิงเพิ่งปักปิ่นได้ไม่นานและสัญญาว่าจะนั่งเกี้ยวแปดคนหาม แต่งเข้าตระกูลหยวนของเขา

“หลิงหลิง”

เสียงแหบแห้งพึมพำอยู่ในลำคอ ยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงครึกครื้น มู่เสวี่ยหลิงกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน

“หลิงหลิง เจ้าหิวหรือไม่”

มู่เสวี่ยหลิงกัดริมฝีปากกลั้นสะอื้น นางคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา พยายามตะโกนเรียกเขาซ้ำ ๆ แต่โลกวิญญาณและคนเป็นแยกจาก ต่อให้มู่เสวี่ยหลิงจะพยายามมากเท่าไหร่ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงสายลมอ่อนจางพัดผ่านใบหน้าหยวนเซิ่งเจ๋อเท่านั้น

“หลิงหลิง” เขาพูดขึ้นอีกครั้ง เสียงในครั้งนี้ดังกว่าครั้งก่อนอยู่สักหน่อยแต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหลือคนานับ ใบหน้าหล่อเหลาของหยวนเซิ่งเจ๋อบิดเบี้ยว ทั้งสายตาก็เริ่มอึมครึม “เป็นข้าไร้สามารถเจ้าถึงต้องหิวตาย เป็นข้าไร้สามารถเจ้าถึงได้รับความอยุติธรรมเช่นนี้ เป็นข้า-”