บท
ตั้งค่า

ชีวิตใหม่

7ชีวิตใหม่

เสียงปาข้าวของ ดังสนั่น "อ๋องสามิหยางชงอวี้ หยามหน้าข้าเกินไปแล้ว ไม่ยอมพาอี้เฟยกลับมาเยี่ยมบ้านตามธรรมเนียม ทำแบบนี้หักหน้าข้าชัดๆ " หลิวอี้สง โหโม หน้าเปลี่ยนจากสีเขียว เป็นสีแดง จนกลายเป็นสีดำ

"ท่านพี่ใจเย็นๆนะเจ้าค่ะ ปกติท่านอ๋องสามก็ชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้ว ถ้าจะโทษ คงต้องโทษลูกสาวท่านที่ไม่สามารถพาท่านอ๋องมาได้" ปลอบใจสามีไปพลาง ใส่ไฟหลิวอี้เฟยด้วย หากสามีนางไม่ต้องการฐานอำนาจเพื่อการใหญ่ มีเหรอนางจะยอมให้หอกข้างแคร่ไปแต่งเป็นถึงพระชายาจวนอ๋องสาม

"ตอนเด็กๆก็หัวอ่อนเชื่อฟังทุกอย่างดีอยู่หรอก ทำไมหลายปีหลังมานี้นางเริ่มแข็งข้อ เป็นข้าที่อบรมสั่งสอนสั่งสอนนางไม่ดีเอง"

"ช่างเถอะฮูหยิน เดี๋ยวข้าจะให้คนส่งข่าว อี้เฟยเอง" เมื่อใจเย็นลงแล้ว ได้แต่คิดแผนต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้ได้ใจอ๋องสาม ยังไงแผนการใหญ่ก็ต้องการกำลังทหาร ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มาก อยู่ที่อี้เฟยแล้ว

"พระชายา ของขวัญที่จะส่งไปให้ฮูหยิน" บ่ายคล้อยแล้ว ซิงซิงไม่เห็นนายของนางจะส่งของขวัญออกไปเลย

"เมื่อวานเจ้าเห็นข้าซื้อ ของติดมือกลับมาด้วยหรือ?" หลิวอี้เฟย นั่งจิบชาเก๊กฮวย นางยังจำสีหน้าของจางหลงเมื่อวานได้ดี ข้าทำผิดต่อเจ้าจริงๆจางหลง

"ซิงซิง เจ้าไปหาพ่อบ้านหวังแล้วขอยาแก้ฟกซ้ำ เอาไปให้องครักษ์จางที"

"เพคะ" ซิงซิง ค้อมตัวเล็กน้อยแล้วเดินออกไป

เฮ้อ จวนอ๋องใหญ่โต กำแพงก็สูง นกซักตัวยังไม่บินผ่าน การที่ข้าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะหนีออกไปคงเป็นเรื่องยากที่สุดแล้วล่ะมั้ง เมื่อวานแค่ออกไปข้างนอกก็พาคนอื่นซวยไปด้วยอีก ยุคนี้โลกนี้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด ไม่รู้จักใครเลย ที่พึ่งพิงก็ไม่มี อำนาจยิ่งแล้วใหญ่เป็นศูนย์ พลังยุทธคืออะไรไม่ต้องพูดถึง เก่งแค่บีนต้นไม้ เท่านั้นล่ะนางน่ะ

มาอยู่ได้3-4วันแล้ว เจอแค่อนุเหม่ยหลันหลัน จวนนี้อาจจะสงบสุขก็ได้นะ แค่ทำให้อ๋องสามไม่มายุ่งกับนาง ชีวิตนางน่าจะสงบสุข แต่การจะอยู่แบบนี้คงเหงาไม่น้อย คิดถึงพ่อกับแม่จัง

เวลาผ่านไปเกือบอาทิตที่อยู่จวนอ๋อง วันๆหลิวอี้เฟยจะอยู่ในห้อง ไม่ก็ไปเดินเล่นในสวน แล้วก็กลับ ไม่สุงสิงกับใคร "โอ้ย ข้าเบื่อซิงซิง ข้าเบื่อ ข้าเบื่อออออ" เมื่อสะกดอารมไม่ไหวต่อไปแล้วจึงระเบิดเสียงออกมาก

หน้าสวยๆบิดเบี้ยว

ตกดึกคืนนั้น หลิวอี้เฟย นอนไม่หลับ เนื่องจากตอนกลางวันก็นั่งๆนอนทั้งวัน หยิบเสื้อคลุมสีขาวเดินออกจากเรือนเหมยฮัวไป เดินเหม่อลอยออกไป ว่าจะไปนั่งริมสระบัวให้สบายอารมซักหน่อย ช่วงนี้นางรู้สึกกดดันทั้งกายและใจอย่างรุนแรง หลิวอี้เฟยนั่งอยู่ริมศาลาข้างสระบัว ผมสยายยาวมาถึงสะโพก สีหน้าเศร้าหมอง พระจันทร์ทอแสงสีนวลอ่อน ยิ่งทำให้จิตใจหวั่นไหว

นางคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ จริงอยู่ที่นางตกลงปลงใจที่จะอยู่ยุคนี้ เป็นหลิวอี้เฟย แต่นางก็ตัดไม่ขาด

นางไม่รู้ในเงามืด มีคนแอบมองนางอยู่ อ๋องหยางชงอวี้ เดินออกมาจากเรือนอนุมี่ฮวา อนุอีกนางหนึ่งของเค้า มองเห็นหลิวอี้เฟยเดินไปทางสระบัว สีหน้าไม่ค่อยดี เค้าจึงแอบเดินตามนางมา ไม่คิดว่าจะเห็นนางในมุมนี้

"อยู่ที่นี่ ทำเจ้าเศร้าโศกขนาดนั้นเลยหรือ หลิวอี้เฟย" แววตาขี้เล่น เจ้าเล่ห์ ทำเค้าสนใจในตัวนาง ทั้งตอนอยู่จวนราชครูแล้วก็ตอนที่อยู่ในห้องหอด้วยกัน แต่ทำไมตอนนี้มีแต่ความเศร้าหมอง

หลิวอี้เฟย ไม่รู้ถึงคนที่มายืนข้างหลัง เนื่องจากนางเหม่อมองจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอหันหลังจะกลับเรือน ก็ปะทะเข้ากับอกแข็ง กำลังจะร้องกรี๊ดพอหงายหน้าขึ้น" ท่านอ๋อง" ซวย ซวย จริงๆอี้เฟยเอ้ย แถมหยางชงอวี้ยังกอดนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อยอีก "พระชายา ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก" ถามแปลกตานี้ ถ้านอนจะมายืนให้เจ้ากอดอยู่แบบนี้หรือไง "กำลังจะกลับเรือนนอนเพคะ ท่านอ๋องโปรดปล่อยหม่อมชั้นก่อน" ปล่อยสิปล่อยโจรแต๊ะอั้ง เสียงหลิวอี้เฟยหวาน แต่นางกับมองตาเขียวใส่หยางชงอวี้

"เปิ่นหวางกอดชายา ผิดตรงไหน'' หยางชงอวี้ ไม่พูดป่าว ก้มลงไปหอมแก้มอี้เฟย คนถูกหอม ช๊อคตัวแข็งไปแล้ว

"ยังกับข้าอยากแต่งกับท่านนัก'' เนื่องจากอารมเศร้ายังคลุกกรุ่นใจใน แล้วยังมาถูกปล้นหอมแก้มไปอีก หลิวอี้เฟย ระเบิดอารมณ์ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ พอรู้สึกตัวรีบเอามือปิดปากตัวเอง ยัยโง่เอ้ยยยย หาเรื่องตายไวจนได้ ได้แต่ด่าตัวเองในใจ

"ในเมื่อแต่งมาแล้ว เจ้าก็เป็นคนของเปิ่นหวางแล้ว เป็นพระชายาของเปิ่นหวาง ไม่ว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม"

"หม่อมชั้นทราบดีเพคะ" หาหนทางหนีจากตรงนี้ไปก่อนแล้วกัน

หยางชงอวี้ก้มลงจูบปากนาง ปากน้อยๆสีชมพู ระเรื่อ หลิวอี้เฟยตกใจตาโต พยายามหันหน้าหนี แต่หยางชงอวี้ไม่ปล่อยง่ายๆ มือหนึ่งกอดเอวนางไว้ อีกมือจับหลังศีรษะนางล๊อคเอาไว้ จูบนั้นเนินนาน หยางชงอวี้ไม่ยอมห่างริมผีปากนาง พยายามตักตวงความหวานจากปากน้อยๆนั้น หลิวอี้เฟยสติหลุดไปแล้วสาวน้อยไร้ประสบการณ์หรือจะสู้อ๋องสามที่ผ่านสาวงามมามากมาย เมื่อตักตวงความหวานจนพอใจแล้ว หยางชงอวี้จึงคลายอ้อมแขน ปล่อยนางเป็นอิสระ

เมื่ออยู่ๆก็ปล่อยมือ หลิวอี้เฟยจึงลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น

"พระชายาก็รีบนอนล่ะ ดึกแล้ว น้ำค้างจะทำให้ไม่สบายได้นะ"พูดจบ หยางชงอวี้ ก็หมุนตัวเดินออกจากศาลาไปหายไปในความมืด

"ไอ้อ๋องบ้ากามมมมม" หลิวอี้เฟยเค้นเสียงก้นด่า แต่เสียงที่ออกไปนางไม่ดังมากเนื่องจากปากนางบวมเป่ง จากจูบเมื่อกี้ จูบแรกถูกไอ้บ้ากามนั้นปล้นไป

หยางชงอวี้วันนี้นั่งอ่านหนังสืออารมดี ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ คิดดอกเบี้ยที่นางกล้าไล่เขาออกจากห้องหอ มู่หลง ลอบมองอ๋องสามเป็นระยะ เมื่อคืน ท่านอ๋องไปเรือนอนุมี่ฮวา มีเรื่องอะไรดีๆหรือไง ถึงอารมดีขนาดนี้ ปกติท่านอ๋องไปหาอนุคนไหนก็ไม่เคยค้างเลยซักครั้ง เมื่อคืนกว่าจะกลับเรือนก็ดึกมากแล้ว พอตอนเช้าก็มานั่งยิ้มอยู่คนเดียว อยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ลอบมองเป็นระยะๆ

ส่วนทางเรือนเหมยฮัว เช้านี้ซิงซิง ยกอ่างน้ำเข้ามาก็เจอพระชายานั่งอยู่ที่โต๊ะกระจก แน่นอน หลิวอี้เฟยนางไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งโกรธทั้งโมโห ทั้งแค้น หยางชงอวี้บังอาจขโมยจูบแรกของนาง ยิ่งคิดยิ่งโมโห รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว "พระชายา น้ำล้างหน้าเพคะ" เสียงซิงซิง ปลุกนางจากห้วงแค้น "วันนี้พระชายาตื่นแต่เช้าเลยนะเพคะ " ตื่นแต่เช้ากับผีสิ นางยังไม่ได้นอนต่างหาก ช่างเถอะ เดี๋ยวนอนกลางวันเอา ล้างหน้า ทานโจ๊กไปนิดหน่อย จิบน้ำกระเจี๊ยบ ที่นางสอนซิงซิงทำ รสชาติถูกปาก ค่อยอารมดีขึ้นมาหน่อย

ประตูห้องเปิดออก คนที่ก้าวเข้ามาในห้อง อ๋องหยางชงอวี้ ยิ้มกวนอารม เปิดเข้ามาเหมือนห้องตัวเอง ไม่มีแม้แต่เคาะประตู "ถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ"

หลิวอี้เฟย ยอบก่ายลงเคารพให้อ๋องสาม

"อย่ามากพิธีเลย คนกันเองพระชายา" พลางยิ้มยียวน ให้นาง "เสด็จมาเรือนเหมยฮัว มีเรืองอันใดเพคะ ให้คนมาตามก็ได้ " หลิวอี้เฟยรีบคิดหาทางไล่ส่วนเกินของเรือนนาง

"เปิ่นหวางจะมาทานอาหารกลางวันกับพระชายาที่นี่''

"ท่านอ๋องไม่ต้องเข้าวังหรือเพคะ" ไม่มีการมีงานทำหรือไง ถึงมากวนประสาทนางถึงห้อง

"ฮ่องเต้ มีราชโองการให้เปิ่นหวางพักงานช่วงแต่งงาน 3 เดือน จะได้มีทายาทไวๆ"

"อนุท่านอ๋องก็มีตั้งหลายคน ไม่มีลูกกับพวกนางซักคนล่ะ แค่นั้นก็มีเด็กวิ่งเต็มจวนแล้วมั้ง"

"จะเทียบกับลูกจากพระชายาเอกได้อย่างไรล่ะ เปิ่นหวางแต่งชายาก็ต้องอยากมีลูกกับพระชายาอยู่แล้ว" ไม่พูดเฉย ยิ้มเจ้าชู้ให้นาง

มีลูก บิดาเจ้าเถอะ มีอนุเต็มจวน มาวุ่นวายอะไรกับข้าเนี้ย หลิวอี้เฟยแสร้งนั่งยิ้มทำท่าเขินอาย แต่ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป กำลังเสียเปรียบเงียบไว้ดีที่สุดแม่สอนไว้

ซิงซิง ยกสำรับอาหารเข้ามา ทั้งสองจึงเริ่มทานอาหาร

หยางชงอวี้ คีบกับข้าวใส่ชามให้อี้เฟยตลอด จนชามเกือบจะล้นออกมา ส่วนอี้เฟยก็นั่งทานเงียบๆปั้นยิ้มตอบ หยางชงอวี้ตอนคีบกับข้าวมาให้เป็นช่วงๆ

คงมีเพียงซิงซิงคนเดียวละมั้งที่รู้สึกได้ถึงพลังงานบางจากที่ปล่อยออกมาจากตัวพระชายา

หลังจากทานเสร็จอ๋องหยางชงอวี้บอกหลิวอี้เฟยว่า ตอนเย็นจะมาทานข้าวด้วย แล้วก็เดินออกจากเรือนไป

"อ๊ายยยยยยยยย" เส้นความอดทนขาดสบั้น หลิวอี้เฟยแหกปากออกมา หลังจากที่ทิ้งระยะเวลาจนคิดว่า หยางชงอวี้ เดินออกไปไกลแล้ว

แต่ผิดคาด อ๋องหยางชงอวี้ยังยืนอยู่หน้าเรือนเหมยฮัว ได้ยินเสียงนั้นชัดเจน "ฮ่าๆ ความอดทนนางมีแค่นั้นเองหรือ" ปล่อยขำออกมาก ยิ่งนึกหน้านางตอนนั่งทานข้าวยิ่งขำ มู่หลงรู้สึกเปิดหูเปิดตาอย่างมาก ช่วงนี้ท่านอ๋องอารมดี หัวเราะเกือบทุกวัน

มีE-book หรือติดตามผลงานได้ที่readawrite ขอบคุณค่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel