บทที่ 4 หลานตัวป่วน 2
16:00 น.
“ป๋มอยากอยู่ต่ออีกจังเลย” หนุ่มน้อยทำหน้ามุ่ยเมื่อใกล้ถึงเวลากลับบ้าน พลางเอียงหน้าซบไหล่ส่งสายตาออดอ้อน
“ไม่ได้ค่ะ เอเดนต้องไปเรียนหนังสือ วันไหนเลิกเรียนเร็วก็แวะไปหาพี่ภาที่บริษัทได้นะ” เธอหันมาเอ็ดเบา ๆ และไม่ยอมตามใจเด็ดขาด โดยยื่นข้อเสนออย่างอื่นให้แทน
สำหรับเธอแล้ว เรื่องเรียนต้องมาก่อนเสมอ
“จริง ๆ นะฮับพี่ภา เอเดนเห็นที่สวนสาธารณะมีสนามเด็กเล่นด้วย พาไปหน่อยได้ไหมครับ สัญญาว่าจะไม่งอแง เป็นเด็กดี”
ไม่ได้คืบจะเอาศอก ต้องให้ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
“ได้สิ เดี๋ยวพี่ภาขอตัวไปถอดแว่นก่อนนะ จะได้ไปออกกำลังกายด้วย” ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปยังห้องนอนเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกาย สวมใส่คอนแท็กต์เลนส์แทนสวมแว่นหนาเตอะ รวบมัดผมรวบ ๆ ทาครีมกันแดดให้เรียบร้อย เดินลงมาพาหนุ่มน้อยเจ้าเสน่ห์ไปสวนสาธารณะ
-------------------
ปริ้นนน
รถคันหรูจอดลงหน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างสูงเดินลงมาจากรถ มือหนึ่งสอดเข้ากระเป๋ากางเกง ชะเง้อมองในบ้านก็ไม่พบใคร ในจังหวะนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมา ดูแล้วน่าจะเป็นแม่ของภารดาหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะมีส่วนเค้าโครงที่คล้ายกันอยู่มาก
“สวัสดีครับ ใช่บ้านของภารดาหรือเปล่าครับ ผมเป็นคุณลุงของเอเดน” ยกมือไหว้ พลางเอ่ยถามและแนะนำตัวด้วย
“ใช่จ้ะ เข้าบ้านก่อนสิลูก เอเดนกับยัยภาอยู่ที่สวนสาธารณะ อีกสักพักคงกลับมา” นางเลิกขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าใครมา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเจ้านายของยัยหนูแบบชัด ๆ ไม่คิดเลยว่าหล่อเหลาบาดใจขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่สาว ๆ จะติดพันมากมาย ดูจากสายตาแล้วคงเจ้าชู้ไม่เบา ไม่ต่างอะไรกับหลานชายเลยสักนิด ถอดแบบเหมือนกันเปี๊ยบทั้งลุงทั้งหลาน
นางเลือกมานั่งข้างบ้านซึ่งเป็นสถานที่ทำขนม จะให้นั่งคนเดียวในบ้านเหงา ๆ ก็กระไรอยู่
“คุณน้ากำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ” เสียงทุ้มพลางมองของตรงหน้าด้วยความสงสัย เมื่อวานมารดาเขาคุยโวตอนกินข้าวว่าแม่ของภารดาทำขนมหวานอร่อยมาก เขาเลยลองชิมสองสามอย่าง อร่อยจริงอย่างที่ท่านพูด
“ทำทองหยิบกับฝอยทองจ้ะ พอดีมีลูกค้าสั่งเอาไว้ น้าเลยต้องรีบทำ”
“งั้นผมขอสั่งด้วยได้ไหมครับ พอดีลูกค้าจากญี่ปุ่นจะมาไทยอีกสามวัน คุณน้าพอทำทันหรือเปล่าครับ” เขาเลยถือโอกาสอุดหนุนซะเลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรเป็นของต้อนรับลูกค้าดี
“ทันสิ เอากี่กล่องดีล่ะ”
“เอาอย่างละ 10 แล้วกันนะครับ อีกสามวันผมจะให้ลูกน้องมาเอา”
“ได้เลยลูก น้าขอบใจมากเลยนะที่รับยัยภาเข้าทำงาน แล้วยังให้เงินเดือนเยอะอีก”
“ลูกสาวของคุณน้าร้ายไม่เบาเลยนะครับ จัดการคู่ขาของผมซะน่วมเลย เข็ดหลาบจนไม่กล้ามาหาผมที่บริษัทอีก” เขานั่งลงเก้าตรงข้ามมารดาของภารดาจะได้มองเห็นการทำขนมไปด้วย
“ฮ่า ๆ ได้เชื้อมาจากพ่อเขาน่ะ สามีน้าแกเป็นตำรวจเก่า มีฝีมือทางด้านการต่อสู้ ตอนนี้ก็ไปเป็นครูสอนต่อยมวยให้เด็กแถวบ้านทุกวัน”
“ดีจังเลยนะครับ”
“เดี๋ยวอยู่ทานข้าวด้วยกันนะก่อน น้าทำขนมใกล้เสร็จแล้ว เมื่อกี้ข้างบ้านให้ปลาช่อนตัวโตมา กะว่าจะทำแกงส้มกินสักหน่อย”
“ได้ครับผม ถ้าไม่รังเกียจให้ผมช่วยทำขนมนะครับ เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย อยากลองดูบ้าง” เขาบอก พอได้มาเห็นกับตาก็รู้เลยว่าขนมไทยแต่ละอย่างล้วนทำยากทั้งนั้น
ถ้าหากใจไม่รัก ไม่อดทนจริง คงทำไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ จับปืน จับปากกาทำงานอย่างเดียว ของประณีตอะไรพวกนี้ไม่เคยสนใจเลย
เมื่อมีโอกาสอยู่ตรงหน้าก็ต้องลองซะหน่อย ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้กับชีวิต
“กลับมาแล้วค้าบบบ อ้าว! ลุงเพลิงมาตอนไหนเนี่ย” น้ำเสียงดี๊ด๊าดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัววิ่งเข้ามาในบ้าน ทว่าต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นคุณลุงกำลังนั่งช่วยคุณยายลุงทำขนมอยู่
“มาได้สักพัก นี่ไปทำอะไรมาถึงได้มอมแมมเหงื่อท่วมตัวแบบนี้ล่ะ” เขาถามกลับ เห็นความมอมแมมของหลานชายแล้วอดขำไม่ได้ คงน่าสนุกไม่เบากับการมาอยู่ที่นี่
“ไปออกกำลังกายกับพี่ภามาครับ”
“สวัสดีค่ะบอส” ภารดาเดินเข้ามาพลางเอ่ยทักทาย ทว่าดันลืมไปสนิท ตอนนี้เธอไม่ได้สวมแว่นเหมือนตอนทำงาน
“---”
“ยัยเฉิ่ม??? เธอคือยัยเฉิ่มเลขาของฉันเหรอ...” อ้าปากค้างด้วยความตะลึง ยกมือขยี้ตาเบา ๆ ให้เห็นชัดว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไป เลขาที่เขาทำงานมาด้วยเกือบเดือน แต่งตัวเหมือนมนุษย์ป้า ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคน สวมชุดออกกำลังกายกระชากใจชายเหลือเกิน
“อ้าวบอส! จำภาไม่ได้เหรอคะ ภารดาเลขาของบอสไง!” สะกิดแขนเบา ๆ เพื่อเรียกสติกลับมา พลางขำเบา ๆ กับท่าทางของชายหนุ่ม แต่ก็เข้าใจแหละ เธอในตอนนี้กันตอนทำงานคงต่างกันมาก
“จำไม่ได้เลย นี่เธอถอดแว่นเหรอ” ขยี้ตาอีกรอบแล้วเอ่ยถาม พลางมองสำรวจใบหน้านวลด้วยความสนใจ ภารดาสวยจริงตามที่มารดาเคยบอกไว้ สวยกว่าคู่ขาเขาทุกคน อันนี้คือเรื่องจริง! เขายอมรับ
“ใช่ค่ะ พอดีภาไปออกกำลังกายเลยใส่คอนแท็กต์เลนส์ แปลกใจใช่ไหม”
“ใช่ อย่างกับคนละคนเลย”
“ฮ่า ๆ ลูกสาวน้าคนนี้ตัวจริงสวยมาก เพียงแค่ใส่แว่นปกปิดเอาไว้ น้าไม่อยากให้มีปัญหากับใคร ยัยนี่สวยจนเพื่อนอิจฉา มีคนมาปองร้าย น้ากับลุงเลยต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน ไม่อยากให้เจ็บตัว” ฟ้าลดากล่าว
“ป๋มบอกลุงเพลิงแล้วว่าพี่ภาน่ะสวยมาก สวยเหมือนนางฟ้าเลย ตอนนี้เชื่อแล้วยังล่ะ”
“เชื่อแล้ว สวยเหมือนที่เราพูดไว้ไม่มีผิด แต่ตอนนี้ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าไหม ตัวเหม็นมากกก”
“เหม็นที่ไหนกัน เอเดนออกจะหอมลองดมดูสิฮับ” เอเดนปีนขึ้นไปนั่งบนตัวแล้วเอาเนื้อตัวไปถูไถให้คุณลุงดมความหอมชื่นใจเข้าไปเต็มปอด พลางหัวเราะออกมาอย่างขบขันอย่างชอบใจ
จนภารดาต้องเข้ามาอุ้มออก แล้วพาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของกลับบ้าน
“ขอบคุณมากเลยนะครับที่ช่วยดูแลเอเดนเป็นอย่างดี” หลังจากอยู่กินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที เพลิงพิษเอ่ยขอบคุณทั้งสองคนที่คอยช่วยดูแลเอเดนเป็นอย่างดีจนเจ้าตัวร้องอยากอยู่ต่อ พอเจอภารดาเอ็ดแค่ครั้งเดียวก็เงียบหงอยไปเลย
“ไม่เป็นไรหรอก แวะมาหายายปล่อย ๆ นะลูก ยายคิดถึง”
“คุณตาหายไปไหนครับ เอเดนยังไม่ได้ลาคุณตาเลย” ใบหน้าเล็กชะโงกตัวหาคุณตา แต่ก็ไม่เห็นวี่แววเลยสักนิด
“คุณตามีติดสอนมวยดึกน่ะวันนี้ ถ้าคุณตากลับมาเมื่อไร พี่ภาจะไลน์ไปหานะคะ โอเคไหม”
“โอเคครับ ผมกลับบ้านก่อนนะครับคุณยาย พี่ภา”
“มา ๆ ให้ยายชื่นใจหน่อยลูก ฟอด แวะมาหายายบ่อย ๆ นะ ยายคิดถึง” ฟ้าลดาหอมแก้มสองข้างฟอดใหญ่ รู้สึกใจหายเล็กน้อยที่เอเดนต้องกลับบ้าน นานครั้งเธอจะมีเด็กเล็กมากวนเล่นแบบนี้
“ฮับป๋ม เอเดนไปก่อนนะฮะ สวัสดีฮับ” ยกมือกระพุ่มไหว้ลาแล้วเดินขึ้นรถไปพร้อมกับคุณลุง
“ขับรถดี ๆ นะคะบอส”
“ขอบใจ พรุ่งนี้เจอกันที่ทำงาน”
รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปได้สักพักภารดาก็เดินเข้าบ้านไปช่วยมารดาทำขนมต่อ ทางด้านของเพลิงพิษและเอเดนหนุ่มน้อยร้องโอดโอยเสียดายไม่หยุดปาก ทำเอาเพลิงพิษเขกหัวหนัก ๆ เข้าไปหนึ่งที
“ลุงเพลิงฮะ ลุงเพลิง” กระตุกแขนเสื้อเรียกเบา ๆ
“ว่าไงตัวแสบ” หันหน้ามาถาม
“ลุงเพลิงชอบพี่ภาไหมฮับ”
“ทำไมล่ะ”
“เอเดนน่ะชอบพี่ภามากเลย อยากให้พี่ภามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ทำไมลุงเพลิงไม่จีบพี่ภาละฮับ” หนุ่มน้อยเริ่มปฏิบัติการหว่านล้อม
“ไม่ใช่สเป็กลุงเลย จะไปจีบทำไมกันล่ะ” เขาอยากจะเขกหัวเจ้าหลานชายตัวแสบจริง ๆ พูดมาได้ยังไงให้เขาไปจีบลูกน้องตัวเอง อีกอย่างเขาก็ไม่ได้คิดจะชอบพอกับภารดาด้วย
แทบไม่มีในหัวสมองเลย
“หม้ามี้บอกว่าลุงเพลิงเป็นคนพูดปากไม่ตรงกับใจ เมื่อกี้เอเดนเห็นคุณลุงมองพี่ภาตาไม่กะพริบ แปลว่าลุงเพลิงต้องชอบพี่ภาแน่ ๆ” ใช้สัญชาตญาณของตัวเองที่จำมาจากละครหรือซีรีส์
“นี่แน่ะ! คิดเองเออเองไปได้นะเอเดน ลุงกับยัยเฉิ่มนั้นเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง จะเป็นแฟนกันได้ยังไง” เขกหัวหนัก ๆ อีกรอบ ต่อไปนี้คงต้องกำชับพี่เลี้ยงให้ดูละครน้อยลง
จะได้ไม่ต้องมาพูดจากับหลานเขาแบบนี้ แก่แดดเกินวัยไปแล้ว
“ไม่รู้แหละเอเดนอยากให้พี่ภามาอยู่ที่บ้านด้วย เอเดนชอบพี่ภา คุณลุงต้องไปจีบพี่ภามาเป็นแฟนให้ได้นะ!!!” โวยวายไม่ยอมท่าเดียว ยกมือกอดอกเชิดหน้าอย่างงอน
“ไม่เอา!!!” ปฏิเสธเสียงแข็งทันที ไม่มีวันที่เขาจะจีบยัยเฉิ่มแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงก็ตามว่าสวยมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่นิยมกินลูกน้องของตัวเองให้เสียการปกครอง
“งั้นเอเดนไปบอกคุณยายก็ได้ ให้สั่งลุงเพลิงจีบพี่ภา” ไหนเมื่อหว่านล้อมคุณลุงไม่ได้ผล หนุ่มน้อยเลยจัดการหาวิธีเข้าทางคุณยายแทน เพราะท่านก็ชอบพี่ภาเหมือนเขาเช่นกัน
“หือ แสบนะเรา คนอย่างลุงถ้าชอบใครไม่จีบให้เสียเวลาหรอก มาเฟียอย่างเรานิยมฉุดทำเมียเท่านั้น” เขาไม่เคยจีบใครมาก่อนเลยในชีวิต แฟนเป็นตัวเป็นตนก็ไม่มี มีแต่คู่ขาอย่างเดียว ยิ่งมาสั่งกันแบบนี้ด้วยถือว่าเป็นการบังคับจิตใจกัน
คนเราจะรักจะชอบกันขึ้นอยู่กับสองฝ่าย โดยไม่ต้องบังคับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรอกนะ
“ถ้าลุงเพลิงแน่จริงก็ฉุดพี่ภาทำเมียให้เอเดนดูหน่อยสิฮับ” พูดอย่างท้าทายพลางยกคิ้วใส่ แม้จะไม่รู้ว่า ฉุดทำเมียคืออะไรก็ตาม
“แก่แดดนะเรารู้จักคำพวกนี้ด้วย คอยดูเถอะลุงจะทำให้พี่ภาของเรามาอยู่บ้านด้วยเลย รับรองไม่นานเกินรอแน่ ๆ” คนอย่างเพลิงพิษไม่มีวันยอมให้หลานชายตัวน้อยมาสบประมาทหรอก ในเมื่ออยากได้มากนักเขาก็จะสนองให้ ถือว่าเป็นเรื่องดีจะได้ศึกษานิสัยใจคอกันด้วย ถ้าไม่ลงรอยก็แค่แยกทาง
“อย่าหลอกเด็กนะ ไม่อย่างนั้นมีงอน”
เขาส่ายหัวเบา ๆ กับคำพูดของหลานชาย พลางอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะเริ่มจีบยัยเฉิ่มยังไงดี ถึงแม้ว่ายัยนี่จะแตกต่างไปจากสาว ๆ ที่เขาควงก็ตาม แต่ก็มีดีเยอะจนทำให้มารดาและเอเดนรักและหลงมาก
ทว่าก็เป็นการดีสำหรับเขาเหมือนกัน พ่อกับแม่จะเลิกบ่นหรือหาเมียให้เสียที ถ้าได้ภารดามาก็สมใจมารดาเลยแหละ
