ตอนที่ 9 เขม่น
ตอนที่ 9
เขม่น
“เจ้าแก้ม เดี๋ยวนั่งเฝ้าที่เต็นท์นะ” แพรวาเดินมาบอกเจ้าแก้มที่นั่งพักอยู่
“ค่ะพี่แพร” เจ้าแก้มจึงวางแก้วน้ำที่ดื่มอยู่ลงแล้วตอบรับทันที
“ถ้าอย่างนั้นพวกฉันไปละ” เมื่อเพื่อนมีหน้าที่ต้องทำแล้ว หนูดีก็เอ่ยขอตัวทันทีด้วยท่าทางที่กระตือรือร้น
“ดี๊ด๊าจริงนะ” จนชิงชิงอดที่จะแขวะไม่ได้
“มันแน่อยู่แล้ว เด็กคณะนี้งานดีกันทุกคนเลย ไปละจ้าาา” หนูดีเชิดหน้าแล้วพูดออกมา จากนั้นก็รีบเดินไปที่สนามบอลทันที
ชิงชิงจึงรีบหอบกระเป๋าตามไป
“คิกคิก” เจ้าแก้มได้แต่มองตามแล้วหัวเราะคิกคักออกมา
เจ้าแก้มนั่งเฝ้าอยู่ที่เต็นท์ก็มีคนมาขอเบิกยาเรื่อย ๆ
จนมีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาแล้วโยนกล่องปฐมพยาบาลไปที่ด้านหน้าของเจ้าแก้ม
ปึก
เจ้าแก้มตกใจจนถึงกับสะดุ้งโหย่ง
“เอ่อ” เธอเงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำแล้วมองด้วยความแปลกใจ เพราะเธอไม่เคยคุ้นหน้าคนนี้เลย
“ขอยาพารา” หญิงสาวที่เป็นคนโยนกล่องยาเอ่ยขึ้นเสียงห้วนแล้วจ้องหน้าเจ้าแก้มเขม็ง
“คณะไหนคะ?” เจ้าแก้มจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ทำไม อยู่คณะอื่นแล้วขอไม่ได้หรือยังไง หรือต้องเป็นวิศวะเท่านั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามจากเจ้าแก้ม หญิงสาวรายนั้นก็มีท่าทางฉุนเฉียวขึ้นมาทันที
“เปล่าค่ะ สักครู่นะคะ” เจ้าแก้มส่ายหน้าปฏิเสธแล้วรีบก้มหน้าลงจัดยาให้อีกฝ่ายทันที
“นี่ค่ะ” เจ้าแก้มยื่นกล่องยาคืนให้กับหญิงสาวคนนั้นด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
กึก
แต่เหมือนเธอจะไม่ยอมรับไมตรีจากเจ้าแก้ม เพราะเธอกระชากกล่องออกจากมือเจ้าแก้มอย่างแรง
“เอ่อ” เจ้าแก้มชะงักไปด้วยความงงงัน
“เธอเป็นอะไรกับพี่โซ่?”
จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ถามขึ้นแล้วจ้องหน้าเจ้าแก้มเขม็ง มือของเธอจับไปที่มือของเจ้าแก้มที่ค้างเติ่งอยู่แล้วออกแรงบีบ
“อ๊ะ ปล่อยนะคะ” เจ้าแก้มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแล้วพยายามชักมือกลับ
“ตอบฉันมา!!” เธอจึงตะคอกใส่หน้าเจ้าแก้มเสียงดังลั่น
“แก้มไม่ได้เป็นอะไรกับเขาค่ะ”
เจ้าแก้มตอบออกไป มือก็พยายามดึงออก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย เธอจิกเล็บเข้าที่มือของเจ้าแก้มอย่างแรง
“ไม่จริง!!”
“ฮึก แก้มเจ็บนะ” เจ้าแก้มเจ็บจนน้ำตาคลอ
“แก” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี เพื่อนที่มาด้วยกับผู้หญิงคนนั้นก็พยายามห้าม
“มีอะไรหรือเปล่า?”
เป็นจังหวะที่แพรวาเดินกลับมาพอดีแล้วเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แพรวาจึงเดินเข้ามาแล้วถามขึ้นทันที
ทำให้ทั้งสามคนที่ตั้งใจมาหาเรื่องเจ้าแก้มชะงัก คนที่จับมือของเจ้าแก้มอยู่ก็รีบปล่อยออกทันที
“เปล่า” จากนั้นก็รีบปฏิเสธ
“ไปกันเถอะ” แล้วหันไปชวนกันกลับ
เมื่อทั้งสามคนออกไปแล้ว แพรวาก็หันมามองรุ่นน้องบองเธอด้วยความเป็นห่วง
“เจ้าแก้ม”
“อึก พี่แพร” เจ้าแก้มกลั้นสะอื้นแล้วเรียกแพรวาเสียงสั่น
“เป็นอะไร?”
แพรวาเห็นท่าทางรุ่นน้องก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เธอสำรวจตามตัวของเจ้าแก้มแล้วเห็นรอยเล็บขนาดใหญ่ที่ข้อมือของเจ้าแก้มก็ถามขึ้นทันที
“นี่ ฝีมือยัยพวกนั้นใช่ไหม?”
ด้วยความที่เจ้าแก้มเป็นคนที่ขาวมาก ฉะนั้นรอยพวกนี้จึงเห็นได้ชัด
เจ้าแก้มไม่ตอบ แต่พยักหน้ารับแทน
แพรวามีท่าทีโมโหขึ้นมาแล้วหมุนตัวจะตามไปเอาเรื่องกับคนพวกนั้น
“พี่แพร!” เจ้าแก้มจึงรีบจับตัวรุ่นพี่ตัวเองไว้ทันที
“ปล่อย พี่จะตามไปเอาเรื่องพวกนั้น”
“อย่าเลยค่ะ แก้มไม่ได้เป็นอะไร” เจ้าแก้มพยายามห้าม เพราะไม่อยากให้มีเรื่องกัน เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องใหญ่
“แล้วทำไมพวกนั้นถึงมาหาเรื่องเรา?”
แพรวามีท่าทางขัดใจแล้วหันมาถามเจ้าแก้มด้วยความสงสัย เพราะพอคิดอีกทีคือการมาหาเรื่องเจ้าแก้มนี่มันคืออะไรที่ไร้เหตุผลที่สุด เจ้าแก้มเป็นคนยังไงทุกคนรู้ดี จะไปมีเรื่องกับใครได้ ซื่อ ๆ แบบนี้
“เขามาขอยา แล้วก็ถามแก้มว่าเป็นอะไรกับพี่โซ่”
เจ้าแก้มจึงเล่าให้รุ่นพี่ฟัง เพราะเธอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
เมื่อได้ยินคำตอบแล้วแพรวาก็เข้าใจทันที ว่าสาเหตุที่คนพวกนั้นมาหาเรื่องเจ้าแก้มนั้นเพราะอะไร
“เฮ้อ”
เธอถอนหายใจออกมาแล้วจ้องหน้าเจ้าแก้มด้วยความละเหี่ยใจ
“มา พี่ทายาให้” จากนั้นก็จับมือเจ้าแก้มไปนั่งแล้วทายาให้
“ขอบคุณค่ะ”
“เดี๋ยวเจ้าแก้มตามพี่มาดูคนที่แถวก็แล้วกัน”
เมื่อปล่อยเจ้าแก้มไว้คนเดียวไม่ได้แล้ว แพรวาจึงต้องลากไปด้วยแทน
“แล้วที่เต็นท์...”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้เพื่อนพี่มาดู”
แพรวาพาเจ้าแก้มไปเรียกเพื่อนของเธอให้ไปเฝ้าเต็นท์ แล้วรีบมาดูรุ่นน้องที่กำลังทำกิจกรรมกลางสนามต่อทันที
เจ้าแก้มเดินตามแพรวาไปเหมือนลูกไก่ตามแม่ไก่ แล้วหัวเราะรุ่นน้องที่ถูกลงโทษไปด้วยตลอดทาง
โซ่เห็นรอยยิ้มของเธอแล้วก็รู้สึกดี หายเหนื่อยขึ้นมาทันที
เขาเดินไปหยิบน้ำแล้วเดินมาหาเจ้าแก้มที่ยืนอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็ยื่นขวดน้ำที่เปิดแล้วไปให้เธอ
“พี่โซ่” เจ้าแก้มหันขวับไปมอง พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
แพรวาหันมามองก็รู้ทันทีว่ารุ่นน้องของเธอลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเสียแล้ว
“น้ำ” โซ่จึงพูดขึ้นแล้วจ้องตาเจ้าแก้มนิ่ง
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” เจ้าแก้มจึงรับขวดน้ำมาแล้วเอ่ยขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้ม
แต่โซ่เห็นตาแดง ๆ ของเธอก็รู้สึกสงสัย
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”เขาถามขึ้นทันที
“เปล่าค่ะ” เจ้าแก้มจึงส่ายหน้าปฏิเสธงง ๆ
“โซ่” แพรวาที่ยืนอยู่ข้างเจ้าแก้มเอ่ยเรียกโซ่
“???” ทำให้ทั้งโซ่และเจ้าแก้มหันไปมองทันที
“ขอคุยด้วยหน่อย” แพรวาหันไปมองเจ้าแก้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น
“พี่แพร” เจ้าแก้มจึงนึกขึ้นได้ เธอเรียกรุ่นพี่ไว้แล้วส่ายหน้า เธอไม่อยากให้โซ่รู้เรื่องนี้เลย
“เจ้าแก้มไปนั่งพักก่อนได้นะ” แต่แพรวาไม่สนใจ เธอบอกให้รุ่นน้องไปนั่ง จากนั้นก็เดินเลี่ยงออกไปทันที
โซ่เองก็หันมามองหน้าเจ้าแก้มเล็กน้อย แล้วเดินตามแพรวาไป
ทั้งสองยืนคุยกันอยู่ไม่ไกล โดยมีสายตาของเจ้าแก้มมองไปตลอดที่ทั้งคู่ตลอดด้วยความเป็นกังวล ส่วนทั้งสองคนก็มีหันมามองเจ้าแก้มบ้างเป็นระยะ
ไม่นานโซ่ก็เดินกลับมาหาเจ้าแก้มด้วยสีหน้าถมึง
พรึบ
เขาเดินมาจับมือของเจ้าแก้มแล้วมองสำรวจทันที
“อ๊ะ พี่โซ่”
มือเห็นรอยเล็บขนาดใหญ่ที่ตอนนี้มันช้ำจนเห็นได้ชัดกว่าเดิมแล้วโซ่ก็กัดฟันกรอดด้วยความโมโห
กรอดดดดด
“เจ็บไหม?” เขาค่อย ๆ ลูบไปที่แผลเพื่อปลอบประโลม จากนั้นก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“แก้มทายาแล้วค่ะ” เจ้าแก้มจึงตอบขึ้นแล้วยิ้มออกมา เพื่อบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร
ไลอ้อนเดินหาเพื่อนอยู่นานเห็นว่าอยู่กับสาวก็รีบเดินเข้ามาขัดทันที
“ไอ้โซ่ เดี๋ยวมึงต้องขึ้นไปว้ากต่อนะ” เขาพูดขึ้นแล้วมองเพื่อนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
แต่โซ่กลับตวัดสายตาไปมองเขาดุ ๆ
“จัดการแทนกูที เดี๋ยวกูมา” จากนั้นก็พูดขึ้นแล้วค่อย ๆ ปล่อยมือเจ้าแก้มลง
โซ่เดินหนีออกไปทันที
“อ้าว เห้ย” ทิ้งให้ไลอ้อนได้แต่มองตามหลังไปอย่างงง ๆ
“มันไปไหนอ่ะน้อง” เขาหันมาถามเจ้าแก้มด้วยความสงสัย
“แก้มไม่รู้ค่ะ” เจ้าแก้มส่ายหน้าแล้วมองตามหลังโซ่ไปเช่นกัน
ไลอ้อนจึงเดินกลับไปบอกให้ลีออนทำหน้าที่แทนโซ่อย่างงงงัน
