ยัยหัวหน้าห้องสุดโหด…ที่รัก

289.0K · จบแล้ว
พิมพลอย / Phimploy 9482
75
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เซทท์ ผู้ชายที่ขอบกีฬาและแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจต้องย้ายโรงเรียนต้องมาเจอคู่ปรับแบบ มิลินท์ หัวหน้าห้องสุดโหดที่แสนจะเนียบ เรื่องราวของเค้าและเธอจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ใน ยัยหัวหน้าห้องสุดโหด..ที่รัก

นิยายรักนิยายปัจจุบันตลกพลิกชีวิตรักหวานๆรักวัยรุ่นโรงแรม/มหาลัยผู้ชายอบอุ่นนักศึกษา25+

จุดเริ่มต้น

“มิลินท์เสร็จหรือยังลูก”

ฉันที่กำลังจัดของอยู่เงยหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูห้อง เออ ทุกคนอาจจะงงๆ ใช่ไหม ว่าฉันคือใคร งั้นขออนุญาตแนะนำตัวนะจ๊ะ สวัสดี ฉัน มิลินท์ ชื่อจริง ธมลวรรณ พงศ์ศิริโชติ เป็นลูกคนโต คุณแม่ชื่อ มิ้ม คุณพ่อชื่อ วาโย อะ เริ่มคุ้นกันแล้วใช่อะเปล่า คริคริ หากใครงงๆ ลองไปหาข้อมูลคุณพ่อและคุณแม่ฉันได้นะ (อาจารย์ครับ…ที่รักของผม) คริคริ แล้วรู้ใช่ไหมว่าคุณพ่อฉันคลั่งรักคุณแม่มาก รักลูกเท่าไหนรักคุณแม่มากกว่าหลายเท่ามากๆ

อ๋อ ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กน้อยตัวอ้วนปากเลอะเค้กแล้วนะจ๊ะ ตอนนี้โตเป็นสาวแล้วจ่ะ และที่สำคัญชอบเค้กคุณแม่มากๆ เหมือนเดิม ต้องกินวันเว้นวันอะ ตอนนี้ฉันอายุ 18 ปี ส่วนสูง 165 น้ำหนัก 48 สัดส่วนคือ 36 26 39 ผมสีดำยาวและตรงมาก ตอนนี้ผมฉันจะถึงเอวแล้ว ผิวขาว ตาโตปากนิด จมูกหน่อย จัดฟันด้วยจ้า ยางฟันสีชมพูอ่อน และฉันกำลังศึกษาอยู่ที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชน CC ระบบการสอนก็ไม่ต่างจากโรงเรียนรัฐบาลเท่าไหร่แทบจะคล้ายกันเลยด้วยซ้ำ แต่คงต่างกันตรงค่าเทอมแล้วก็ความสะดวกสบายของสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียนที่พร้อมใช้งานมากๆ นั่นแหละ แล้วพวกฉันชอบมาก เพราะผู้อำนวยการคือวัยรุ่นมาก ทุกอย่างเลยทันสมัย อีกอย่างที่นี่คือใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันค่อนข้างเยอะเกือบจะทุกคนเลยพูดกันคล่องมาก เพราะเค้าสอนตั้งแต่เด็กตัวน้อยๆ เลยอะ คือไม่ได้ให้ท่องจำตามหนังสืออะไรแบบนั้นนะ คือเขาสื่อสารเลยอะ พูดบ่อยก็จะพูดได้แล้วก็เข้าใจ บางคนอาจจะงงๆ กับอายุ คือฉันเกิดต้นปีเลยแล้วเข้าเรียนเร็วถ้าถึงวันเกิดฉันก็จะอายุเท่าเพื่อน

ตอนนี้ฉันดำรงตำแหน่งหัวหน้าห้องดูแลและรับผิดชอบเพื่อนๆ ในห้อง คือเป็นมาตั้งแต่อยู่มัธยมปีที่ 1 ยันปัจจุบัน นิสัยฉันเหรอ ฉันนิสัย เฟรนลี่ พูดเก่ง เข้ากับคนง่าย แต่ไม่ชอบให้ใครพูดหรือนินทาลับหลังถ้ารู้ก็จัดการ เวลาโมโหก็สุดเหมือนกัน ช่วยเหลือและทำกิจกรรมของโรงเรียนทุกอย่าง ผูกผ้าตามเวทีให้โรงเรียน จัดสถานที่ จัดดอกไม้ ดรัมเมเยอร์ นางรำ นักร้อง แข่งทักษะวิชาการ คือถ้าครูเรียกไปไหนทำอะไรก็ไปหมดอะยกเว้นเล่นกีฬา เพราะฉันไม่ชอบ มันเหนื่อยแล้วก็ร้อนอะ ถ้าใครชอบเล่นก็อยากจะหยุมหัวฉันใช่ปะล่ะ แต่กิจกรรมเริ่ดแล้วการเรียนต้องเริ่ดกว่าจ่ะ เกรดเฉลี่ยเทอมล่าสุดคือ 3.95 ได้ของขวัญจากคุณพ่อและคุณแม่เยอะมาก ไหนจะจากคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ปู่ทวด ย่าทวดของฉันด้วย เงินในคลังของฉันเองเลยเพิ่มขึ้นมาเยอะมากๆ

ฉันลืมบอกไปเลยว่าฉันมีน้อง 3 คน สองคนแรกเป็นฝาแฝดชายหญิงห่างจากฉัน 3 ปี ผู้ชายชื่อมาวิน ผู้หญิงชื่อมาหยา ตอนนี้อายุ 13 ปี และน้องเล็กสุดเป็นผู้ชาย ชื่อ มาร์ค ตอนนี้อายุ 9 ขวบ ห่างกับฉัน 7 ปี เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันหมด แต่คุณพ่ออยากมีน้องอีกนะ แต่คุณแม่บอกว่าไม่มีแล้วคุณพ่อก็ต้องทำไมจ๊ะ ต้องตามใจคุณแม่จ่ะ เพราะคุณพ่อแพ้ทางคุณแม่ตลอด และหากจะมีแฟนฉันก็ต้องรักฉันเหมือนที่คุณพ่อรักคุณแม่นี่แหละ ฉันขอตัวไปคุยกับคุณแม่ก่อนดีกว่าเนาะ อธิบายซะยาวเหยียดเลย คริคริ ฉันเปิดประตูก่อนจะยิ้มและถามคุณแม่

“มิลินท์เตรียมของใกล้จะเสร็จแล้วค่ะคุณแม่”

“จ่ะ ยกไหวหรือเปล่าลูก ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวให้คุณพ่อมาช่วยยก”

อ๋อ ฉันลืมบอกไปว่าตอนนี้เพิ่งเปิดเทอม และพอเปิดเทอมฉันจะไปอยู่ที่คอนโดที่คุณพ่อเป็นเจ้าของ คือเดินไม่ถึง 15 นาทีก็ถึงโรงเรียนแล้วอะ เพื่อนฉันก็มาเช่าอยู่เหมือนกันเพราะบางคนบ้านไกลฉันเลยไม่เหงา แต่น้องๆ ก็ยังอยู่ที่บ้านคุณพ่อกับคุณแม่ไปรับไปส่งตามปกติ ที่คุณแม่ให้ไปฉันไปอยู่นั่นเพราะฉันมีกิจกรรมเยอะกว่าจะเลิกแล้วกว่าจะได้พัก ฉันก็เลยจะกลับบ้านทุกวันศุกร์ตอนเย็นแล้วคุณพ่อจะไปส่งเช้าวันจันทร์ ถ้าอาทิตย์ไหนมีกิจกรรมก็ไม่ได้กลับ อ๋อ คุณพ่อฉันทำร้านป้ายกับพวกอสังหาริมทรัพย์ โครงการหมู่บ้าน คอนโดอะไรพวกนี้แหละ ฉันพยักหน้าก่อนจะยิ้มและตอบคุณแม่กลับไป

“ได้ค่ะคุณแม่ สบายมาก”

“พี่มิลินท์ไม่ต้องครับ ถ้าเสร็จแล้วเรียกวินได้เลย”

“ใช่ครับ เรียกมาร์คได้เลยครับ มาร์คจะช่วยพี่มิลินท์เอง”

“ขอบใจนะจ๊ะน้องชายที่น่ารักของพี่”

“มาหยาจะช่วยด้วยค่ะ”

ฉันใช้ยิ้มและใช้มือลูบหัวน้องสาวที่เดินเข้ามากอดเอวฉันไว้แน่นๆ คุณแม่เลยหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะบอกกับพวกฉันที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“จ้าๆ งั้นเดี๋ยวหนูให้น้องๆ ช่วยยกนะลูก เดี๋ยวคุณแม่ไปดูคุณพ่อก่อน ป่านนี้ยังไม่เสร็จเลย”

“คุณพ่อยังไม่เสร็จหรอกครับถ้าคุณแม่ไม่เดินไปเรียกคุณพ่อ”

“คริคริ ใช่แล้วค่ะ อันนี้น้องพูดถูกค่ะคุณแม่”

“หึหึ เด็กแสบ ถ้าทำอะไรเสร็จแล้วก็ไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวนะลูก เดี๋ยวคุณแม่กับคุณพ่อตามลงไป”

“ค่ะคุณแม่”

ฉันเดินเข้ามาเก็บของต่อแล้วก็มีน้องชายสองคนที่ช่วยกันถือของลงมาและนั่งรอคุณพ่อกับคุณแม่ มันเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่ฉันซื้อมาใหม่นั่นแหละ อ๋อ ถ้าปิดเทอมรายได้อีกหนึ่งทางคือช่วยงานที่ร้านของคุณพ่อนะจ๊ะ แต่พอเปิดเทอมก็จะช่วยในวันหยุด แต่คุณพ่อก็ไม่อยากให้ทำหรอกแต่ฉันชอบ ตอนรับเงินมันฟินมากนะ พอคุณแม่ลงมาฉันกับน้องๆ ก็ช่วยกันเตรียมแก้วแล้วก็เทน้ำวางไว้บนโต๊ะอาหาร ส่วนคุณพ่อก็จะช่วยคุณแม่ยกจานข้าวออกมาให้ และพอกินอิ่มก็ต้องเก็บของตัวเอง เพราะบ้านฉันไม่มีบ้านเลยช่วยกันเอง เรื่องราวคร่าวๆ ของครอบครัวฉันก็แบบนี้แหละ

“มิลินท์ลูก”

“คะคุณพ่อ”

ฉันนั่งเบาะหลังคู่กับน้องสาวก็เงยหน้าและถามคุณพ่อออกไปก่อนจะยิ้มหลังจากได้ยินคำถามของคุณพ่อ

“เงินค่าขนมพอหรือเปล่าลูก ถ้าไม่พอบอกคุณแม่ได้เลยนะ หนูทำกิจกรรมเยอะ เรียนก็เยอะ ต้องซื้อของกินบำรุงร่างกายตัวเองรู้ไหมลูก แล้วไม่ต้องเสียดายเงินนะลูก หนูอยากกินอะไร หนูอยากซื้ออะไรถ้าเงินไม่พอบอกคุณแม่ได้้เลยนะ”

“แล้วบอกคุณพ่อไม่เหรอครับ”

“ไม่ได้ครับผม”

“คริคริ ทำไมเหรอคะคุณพ่อ”

“เพราะเงินของคุณพ่ออยู่ที่คุณแม่หมดแล้วน่ะสิ”

“ที่รักอะ”

“ฮ่าๆ”

“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณพ่อ แค่ค่าขนมที่คุณพ่อกับคุณแม่ให้ก็เยอะมากๆ แล้วค่ะ”

“หนูต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะลูก ถ้ากิจกรรมไหนมันหนักเกินไปเราก็ไม่ต้องทำนะลูก แล้วไม่ต้องเครียดเรื่องเรียนรู้ไหมคะลูก คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้ซีเรียสกับตรงนี้นะลูก หนูแค่ใช้ชีวิตในแบบที่หนูชอบ แล้วก็หาความสุขให้ตัวเองก็พอแล้วรู้ไหม แม่ไม่ได้บอกพี่มิลินท์คนเดียวนะลูก พวกหนูด้วยนะคะ ลูกๆ ของคุณแม่กับคุณพ่อเก่งอยู่แล้ว ไม่ต้องกดดันตัวเองเพื่อคุณพ่อคุณแม่นะลูก คุณพ่อกับคุณแม่ภูมิใจในตัวลูกๆ มากๆ อยู่แล้ว”

“ใช่แล้วลูก หนูแค่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ทำสิ่งที่ตัวเองชอบก็พอแล้วลูก แค่นี้คุณพ่อกับคุณแม่ก็มีความสุขมากๆ แล้ว”

“ครับ”

“ค่ะ”

“แต่มาหยามีแฟนแล้วครับ”

“คริคริ มาหยามีแฟนอีกแล้วเหรอ ไหนบอกพี่สิว่ารอบนี้คือใครเอ่ย”

“พี่มิลินท์ดูพี่วินสิคะ เพื่อนผู้ชายคนไหนมาคุยกับมาหยาพี่วินก็อาการหนักตลอด ทีตัวเองมีแฟนเค้ายังไม่พูดเลยนะ”

“เพราะพี่ไม่มีมาหยาจะพูดได้ไง ใช่ไหมน้องมาร์ค”

“มาร์คก็ไม่แน่ใจครับ”

“นั่นเห็นไหม ตัวอะปิดบัง แฟนพี่วินอะชื่อ มาญ่า ม.ม้า เหมือนเราด้วย”

“หึหึ เจ้าแฝด นี่เราผลัดกันมีแฟนมาตั้งแต่สองขวบนิดๆ แล้วนะลูก รอบนี้ของจริงหรือเปล่าคุณพ่อกับคุณแม่จะได้เตรียมตัวต้อนรับลูกเขยกับลูกสะใภ้”

“ฮ่าๆ”

ฉันกับน้องชายคนเล็กแล้วก็คุณพ่อพากันหัวเราะออกมา แล้วครอบครัวฉันไม่ได้เคร่งขนาดนั้นหรอกนะ แต่คบกันก็ต้องอยู่ในสายตา แบบนี้แหละฉันเลยชอบมาก เพราะฉันคุยกับคุณพ่อและคุณแม่ น้องๆ เรียกว่าครอบครัวใหญ่ของฉันเลยดีกว่า คือคุยได้ปรึกษาได้ทุกเรื่องอะ ฉันมีอะไรก็บอกคุณพ่อกับคุณแม่ตลอดเพราะอยากให้พวกท่านรู้เป็นคนแรกในการตัดสินใจของฉัน ส่วนน้องๆ ก็คุยกันทุกเรื่องไม่ว่าจะน้องผู้หญิงหรือผู้ชาย เลยทำให้สนิทกันมากๆ

“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่”

“จ้า ลูกสาวคนโตคนเก่งของคุณแม่ ถ้ามีอะไรก็โทรไปหาพ่อกับแม่รู้ไหมลูก”

ฉันกอดคุณแม่เอาไว้แน่นๆ ก่อนจะพยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบคุณแม่กลับไป

“ค่ะคุณแม่ มิลินท์รักคุณแม่แล้วก็คุณพ่อมากๆ เลยนะคะ”

“หึหึ เด็กแสบ คุณพ่อกับคุณแม่ก็รักเรามากๆ รู้ไหมลูก”

“ผมก็รักพี่มิลินท์”

“ผมด้วย”

“หนูด้วย”

ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วตอนนี้คือหน้าโรงเรียนนะแต่ครอบครัวฉันกอดกันกลมไปหมด คุณพ่อกอดไหล่คุณแม่แล้วก็ใช้มือลูบศีรษะฉันเบาๆ ส่วนน้องๆ ตัวแสบก็พากันมากอดฉันแล้วก็คุณพ่อคุณแม่ไว้ สรุปก็คือกอดกันทุกคน ฉันยิ้มก่อนจะตอบน้องทุกคนกลับไป

“จ้า พี่มิลินท์ก็รักน้องๆ ของพี่มิลินท์มากๆ เลยจ้า”

“หึหึ พากันเข้าโรงเรียนได้แล้วลูก คนอื่นมองกันหมดแล้ว โตกันหมดแล้วนะยังมากอดคุณพ่อกับคุณแม่เป็นเด็กน้อยๆ กันอยู่อีก ไม่กลัวเพื่อนล้อหรือไงเด็กแสบทั้งหลายของแม่”

“ถ้าเพื่อนล้อเรื่องนี้มิลินท์ก็จะเลิกคบเลยค่ะ มิลินท์รักคุณพ่อกับคุณแม่แล้วก็น้องๆ นี่คะ ใครล้อมิลินท์จะจัดการเองค่ะ”

“คริคริ ใช่ค่ะ พี่มิลินท์โหดมาก เพื่อนๆ แล้วก็ทุกคนกลัวพี่มิลินท์ยอมพี่มิลินท์กันหมดเลยค่ะ”

“แต่กับน้องๆ ของพี่ พี่เป็นยังไงนะ”

“พี่มิลินท์ใจดีมากๆ ค่ะ”

“พี่มิลินท์ใจดีครับ”

“หึหึ พากันเข้าโรงเรียนกันได้แล้วลูกจะได้ไม่ต้องรีบ”

“ค่ะ มิลินท์กับน้องๆ เข้าโรงเรียนก่อนนะคะ”

ฟอด ฟอด

ฉันยิ้มก่อนจะหอมแก้มคุณแม่แล้วก็คุณพ่อ คือฉันไม่อายอะ แล้วบ้านฉันก็หอมกันบ่อย มันเป็นการแสดงความรักอะ จากนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ก็หอมแก้มฉันแล้วก็น้องๆ ด้วย จะผู้หญิงหรือผู้ชายฉันก็หอม มันเป็นความเคยชินไปแล้วอะ อีกอย่างหอมได้อีกไม่กี่ปีก็จะหอมน้องชายไม่ได้แล้วเพราะน้องโตขึ้น ฉันสลับกันหอมแก้มจนครบแล้วก็บ๊ายบายคุณพ่อกับคุณแม่จากนั้นก็พากันเดินเข้าโรงเรียน อ๋อ ส่วนของคุณพ่อกับคุณแม่บอกว่าจะเอาไปไว้ที่คอนโดให้เอง พอเดินมาได้สักพักก็ได้ยินเสียงน้องชายกับน้องชายพูดขึ้นมาพร้อมกับยกมือบ๊ายบายฉัน

“พี่มิลินท์ผมไปหาเพื่อนก่อนนะครับ วันศุกร์พี่มิลินท์กลับบ้านด้วยนะครับ”

“ผมด้วยครับ”

“มาหยาด้วยค่ะ พี่มิลินท์อย่าลืมนะคะ”

“จ้าๆ มีอะไรมาหาพี่เลยนะ”

“ครับ”

“ค่ะ บ๊ายค่ะพี่มิลินท์”

“บ๊ายบายครับพี่มิลินท์”

“บ๊ายบายจ่ะน้องๆ ที่น่ารักของพี่มิลินท์”

“ครับ!”

“ค่ะ”

“หึหึ เจ้าเด็กน้อยตัวแสบ”