บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 คนขี้นินทา

หลายวันต่อมา โม่หนิงหลงไปพบปะกับสหายที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง หลังจากสนทนาดื่มสุรากันอยู่นานโม่หนิงหลงก็ขอตัวกลับ แต่เขาก็ได้พบกับสหายอีกอีกคนหนึ่งซึ่งนับว่าเป็นสหายสนิทของเขาผู้หนึ่ง

เซียวเล่ย

“อาเล่ย เจ้าก็มาเที่ยวหรือ”

เซียวเล่ยพยักหน้า

“เจ้าจะกลับแล้วหรือ”

“อืม กำลังจะกลับแล้ว”

“เจ้าอย่าเพิ่งไปไหน ช่วยข้าสักครั้งเถิด”

“เรื่องอันใด คุณชายเซียวเช่นเจ้าจึงต้องเอ่ยปากขอร้องข้า”

“ข้าขอยืมเงินหน่อย”

โม่หนิงหลง

“...”

เพียงเซียวเล่ยเห็นหน้าโม่หนิงหลงเขาก็ออกปากขอยืมเงินจากโม่หนิงหลงทันใด

“ข้าคงฟังไม่ผิดใช่หรือไม่ เจ้ากำลังขอยืมเงินจากข้า”

“ใช่ โชคดีที่เจอเจ้าข้ากำลังเข้าตาจนและเรื่องนี้ก็ให้ที่บ้านรู้ไม่ได้เด็ดขาด หากท่านพ่อรู้ข้าตายแน่ ๆ”

บิดาของคุณชายเซียวเล่ยคือเจ้ากรมการคลังที่อยู่ในวังหลวง ส่วนมารดาของเขาเองมีกิจการที่ลั่วหยาง

ลั่วหยางกับเมืองหลวงห่างกันหนึ่งร้อยลี้นับว่าใช้เวลาเดินทางไม่นาน เซียวเล่ยจึงมักจะติดตามมารดามาที่นี่ตั้งแต่ยังเด็กและคุ้นเคยกับบุตรชายเจ้าเมืองอย่างโม่หนิงหลงมาตั้งแต่เด็ก

แน่นอนว่าย่อมเป็นผู้ที่มีฐานะทว่าคุณชายผู้นี้กลับเที่ยวยืมเงินคนคงมีเรื่องเดือดร้อนที่ไม่อาจเอ่ยปากบอกที่บ้านได้เช่นนี้เขากำลังทำความผิดอันใด

“อาเล่ย ช่วงนี้เจ้าทำตัวลึกลับวุ่นวาย กระทั่งสหายเช่นข้าก็ยังบ่ายเบี่ยงมาพบวันนี้ได้เจอกันโดยบังเอิญก็เอ่ยปากขอยืมเงิน ตกลงแล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้นมากันแน่ หรือว่าเจ้าถูกผู้ใดข่มขู่”

เซียวเล่ยรีบส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มเก้อ ๆ

“ไม่ได้ถูกผู้ใดข่มขู่ เพียงแต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร หรือว่าเจ้าไปเล่นพนันจนหมดตัวและยังติดหนี้พนันอีก ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าข้าจะไม่ช่วยเรื่องนี้อีก”

เซียวเล่ยส่ายหน้ารีบยกมือขึ้นสาบาน

“ข้าสาบานว่าข้าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ตั้งแต่ถูกท่านพ่อโบยครานั้นข้าก็ไม่กล้าอีก”

“ชนไก่หรือ”

“ไม่ได้ไปนานแล้ว ท่านพ่อสั่งที่บ่อนไก่ว่าหากเห็นหน้าข้าให้ไล่ทันที”

“หรือว่าเรื่องผู้หญิง เจ้าอยากได้นางโลมคนใดอีกจึงต้องทุ่มเงินทอง”

เซียวเล่ยยิ้มแฉ่ง

“เรื่องสตรีน่ะใช่ แต่ครานี้ไม่ใช่นางโลมข้าจริงใจกับนาง”

โม่หนิงหลงขมวดคิ้ว เซียวเล่ยสหายของเขาผู้นี้นับว่าเป็นจอมเสเพลประจำเมืองลั่วหยาง เขาไม่ชอบเรียนหนังสือมาตั้งแต่เด็กมีนิสัยชอบต่อยตีและชื่นชอบการใช้วรยุทธ์จึงทำให้บิดาที่เคยสอบตำแหน่งเจี้ยนหงวนอันดับหนึ่งได้ถึงกับกุมขมับ

“เจ้าบอกข้ามาไม่ใช่นางโลมแล้วสตรีใดจึงต้องใช้เงินมากมายเพื่อซื้อใจนาง”

เขากระซิบแผ่วเบาเกรงว่าคนอื่นจะรู้เรื่องที่ตนเองกำลังทำ

โม่หนิงหลงได้ยินดังนั้นถึงกับขมวดคิ้ว

“ว่าอย่างไรนะ เจ้ายืมเงินข้าเพื่อไปข้าวเลี้ยงสตรีหรือ”

เซียวเล่ยพยักหน้า

“อืม ข้าไม่คิดว่านางจะพาคนมาเยอะเพียงนี้ เจ้าเองก็รู้ว่าบิดาข้าเป็นเจ้ากรมคลัง เขาค่อนข้างเข้มงวดกับเบี้ยหวัดรายเดือนของข้า ได้รับมาแล้วไม่อาจขอเพิ่มได้อีก แต่เงินเดือนเดือนหน้าของข้า ข้ายกให้เจ้าทั้งหมด”

โม่หนิงหลงส่ายศีรษะสีหน้าระอาใจยิ่ง

“ไยไม่รู้จักประมาณตน คิดเลี้ยงสตรีต้องดูเงินในกระเป๋า และนางผู้นั้นเป็นคนเช่นไรจึงได้กินอะไรเยอะแยะเพียงนั้นจนถึงขั้นทำให้คุณชายผู้ร่ำรวยเช่นเจ้าไม่มีเงินจ่ายได้”

“เอาเหอะน่า ข้าขอร้องเจ้าวันนี้ไม่อาจขายหน้าได้ ข้ารู้ว่าเจ้ามีเงินเหลือใช้เพียงใด เงินเพียงเท่านี้เจ้าย่อมมีแน่ เอามาให้ข้าก่อนสัญญาว่าจะรีบชดใช้คืน”

“เท่าไหร่”

“ห้าร้อยตำลึง”

ลู่หนิงหวังถึงกับขมวดคิ้ว เขาเป็นซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องบิดาเป็นเจ้าเมืองลั่วหยาง ฐานะทางบ้านย่อมไม่ธรรมดา ห้าร้อยตำลึงเป็นเงินไม่มากสำหรับเขา แต่ก็เป็นจำนวนไม่น้อยชาวบ้านธรรมดาสามารถใช้ดำรงชีวิตไปได้หลายปี

“สตรีใดจึงได้ขูดเลือดขูดเนื้อเจ้าเช่นนี้ ห้าร้อยตำลึงนี่มิใช่ว่าเหมาภัตตาคารแห่งนี้เลยหรือ นางมีกี่กระเพาะกันจึงได้กินล้างกินผลาญเช่นนี้”

เซียวเล่ยรีบส่ายหน้า

“ไม่ใช่เช่นนั้น พอดีว่านางพาคนมาเยอะและก็สั่งแต่ของที่ดีทีสุดราคาแพงที่สุด ค่าใช้จ่ายก็เลยมากเพียงนี้”

โม่หนิงหลงไม่พอใจแล้ว อย่างไรเขาก็อยากให้เซียวเล่ยได้พบสตรีที่ดีมิใช่สตรีที่ล้างผลาญคนและไม่เห็นใจผู้อื่นเช่นนี้

“เป็นสตรีใดกันถึงทำเช่นนี้ เจ้าเองก็หน้าใหญ่ใจโตระวังเอาไว้ให้ดี คุณหนูในห้องหอผู้ใดคิดจะทำเช่นนี้บ้าง เห็นได้ชัดว่านางมิได้รับการสั่งสอนที่ดีงาม สตรีเช่นนี้เจ้าชอบลงไปได้อย่างไร อาหารเจ้าไม่เลือกกินได้แต่สตรีเจ้าก็เลือกเสียหน่อย มิใช่ว่าจะคว้าเอาผู้ใดก็ได้มาทำให้ตนเองเดือดร้อนเช่นนี้”

เซียวเล่ยถอนหายใจยาว

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว จริง ๆ นางเป็นคนดีข้าเองที่ตามตื้อนาง ข้ารู้ว่านางคิดจะแกล้งข้าแต่ข้าก็อยากแสดงความจริงใจว่าข้ามีเงินมากพอที่สามารถเลี้ยงดูนางได้ หากไม่แสดงความจริงใจในคราแรกต่อไปก็คงหมดโอกาสแล้ว นางมิใช่คนธรรมดา เป็นรักแรกพบของข้า งดงามยิ่งนักข้าชอบนางจริง ๆ เอาใจนางด้วยเรื่องนี้เล็กน้อยยิ่ง”

โม่หนิงหลงเห็นว่าสหายเซียวของเขาคงตกอยู่ในบ่วงรักจนทำให้ตาบอดแล้วยิ่งต้องเตือนสติให้มากขึ้น

“นางเป็นผู้ใดกันจึงได้ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้ อีกอย่างมีผู้ใดบ้างพิสูจน์หัวใจด้วยการทุ่มเทเงินทองเลี้ยงสตรี เจ้ามันโง่เขลานักเจ้าถูกนางหลอกแล้ว นางไม่ได้หวังหัวใจแต่คงหวังเงินทองจากเจ้าอย่าโง่นักเลย”

“ข้าไม่ได้ถูกหลอก ข้าเต็มใจ นางร่ำรวยกว่าข้านักจะมาหลอกข้าเอาสิ่งใด สหายรักเจ้าเอาเงินมาให้ข้ายืมก่อนเถิด วันนี้อย่าให้ข้าเสียหน้าเลย”

“ไม่ จนกว่าเจ้าจะบอกว่าเป็นผู้ใด”

เซียวเล่ยจนหนทางจึงได้เอ่ยว่า

“นางคือฉางเจียอีคุณหนูรองของพ่อค้าสกุลฉาง”

โม่หนิงหลงไม่เคยเห็นใบหน้าของสตรีนางนี้ แต่ชื่อเสียงความหน้าเลือดของพ่อค้าฉางนั้นเขาได้ยินมาไม่น้อย เขาจึงแค่นเสียงเอ่ยว่า

“บิดาว่าหน้าเลือด บุตรสาวคงไม่ต่างกัน ทางที่ดีเจ้าถอยห่างนางจะดีกว่า สตรีที่ดีไม่มีผู้ใดประพฤติชั่วร้ายเช่นนางเพียงเจอกันคราแรกก็ผลาญเจ้าจนหมดตัว คนเช่นนี้ไม่เหมาะสมกับเจ้าปล่อยนางไปเถิด”

“นางไม่ใช่คนเช่นนั้นเชื่อข้าเถิด นางเป็นคนดีที่ข้าไม่เคยพบมาก่อน”

“บิดาเป็นอย่างไร บุตรสาวย่อมเป็นเช่นนั้น ดูจากวันนี้ที่นางพาคนมามากมายจนเจ้าเลี้ยงไม่ไหวก็ดูออกแล้วว่านางหมายจะข่มเหงคนเพียงใด เจ้ายังมาเข้าข้างนางอีก”

“ไม่ใช่ความผิดนาง เป็นข้าที่เสนอนางเอง”

“แต่คนเราควรมีมารยาท ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ได้ อีกอย่างนางเป็นเพียงบุตรสาวพ่อค้า ชื่อเสียงของบิดานางก็ย่ำแย่เพียงนั้น ไยเจ้าจึงได้ปักใจในตัวนางนัก คุณชายเช่นเจ้าจะหาสตรีที่ดีกว่านี้ก็ย่อมได้”

“นางดีที่สุดแล้ว”

“ถูกปีศาจบังตาหรืออย่างไร จึงเห็นว่าบุตรสาวของพ่อค้าขูดเลือดผู้นั้นดี”

“หึ อย่างน้อยนางก็ร่ำรวยข้าเป็นบุตรชายคนที่สี่ของสกุลเซียว สมองของข้าก็ไม่ปราดเปรื่องเหมือนพี่น้องคนอื่นท่านพ่อไม่เคยเห็นในสายตา หากได้ภรรยามีฐานะมั่นคงสักคนข้าก็คิดว่าชาตินี้คงอยู่สบายแล้ว”

โม่หนิงหลงถอนหายใจยาว

“บุรุษอกสามศอกไม่ควรหวังพึ่งภรรยา เจ้าไยคิดลดเกียรติตนเองลงไปเช่นนั้น”

“เจ้าเป็นถึงซื่อจื่อบุตรชายคนโปรดของท่านอ๋องอยากได้สิ่งใดก็ไม่ต้องแช่งชิงกับผู้ใดจะไปเข้าใจอันใด เอาน่า... เจ้าให้ข้ายืมสักครั้งเถิดนะ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณเลยพวกเราเป็นสหายกันมาตั้งแต่เด็กเลยจำได้หรือไม่”

ด้านฉางเจียอี นางเองก็ออกมาเข้าห้องน้ำเช่นกัน ห้องน้ำชายหญิงเดิมแยกกันคนละฝั่งทว่าก็มาบรรจบกันตรงกลาง ฉางเจียอีจึงบังเอิญได้ยินคนนินทานางเต็มสองรูหู

บุรุษผู้นั้นนางย่อมจำเขาได้ชัดเจน คนที่ทำให้ม้าของนางตื่นตระหนกและไม่รับผิดชอบการกระทำของตนเองวันนั้น

วันนี้ยังมาที่นี่ทั้งยังลอบนินทานางและบิดาอย่างน่ารังเกียจ

ให้ตายเถิดนางแค่พาคนมากินเลี้ยง เป็นคุณชายเซียวผู้นั้นที่ตามมาตอแยนางไม่หยุด ยังโอ้อวดว่าบ้านตนเองร่ำรวยบอกจะเลี้ยงอาหารนาง ให้นางพาคนได้ไม่จำกัดนางจึงพาบ่าวไพร่เกือบจะทั้งจวนมากินอาหารของเขาก็เท่านั้น

ในเมื่อคุณชายเซียวเสนอ นางก็แค่สนอง หวังสั่งสอนคนให้เข็ดหลาบอย่าได้โอ้อวดตนเช่นนี้อีก ไม่คาดว่าสุดท้ายตนเองจะถูกคนผู้หนึ่งกล่าวหาว่าเป็นสตรีที่มีความประพฤติชั่วร้าย

ข่มเหงกันทางคำพูดเกินไปแล้ว!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel