บทที่ 8 ท่านแม่ซูหมิงเสวี่ย
บทที่ 8 ท่านแม่ซูหมิงเสวี่ย
ดวงตาคู่นั้นเป็นของ มู่เจ๋ออวี่ น้องชายตัวน้อยของนางที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงตั้งแต่เมื่อคืน เขากำลังมองดูการกระทำที่น่าเหลือเชื่อของพี่สาวอย่างตกตะลึง! เขาเห็นพี่สาวของเขาใช้มือสัมผัสข้อมือขวาเบาๆ แล้วอยู่ๆ ร่างของนางก็พลัน หายวับไปในอากาศ!
ใบหน้าเล็กๆ ของมู่เจ๋ออวี่เต็มไปด้วยความตกใจสับสนและความประหลาดใจ แต่ดวงตาของเขากลับฉายแววเฉลียวฉลาดและจดจำทุกสิ่งที่เขาเห็นได้ราวกับภาพถ่าย เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วคลานออกจากใต้เตียง
"พี่ใหญ่...หายไปไหน หายไปได้อย่างไรกันนะ?" เขาพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ความกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อยๆ ของเขา เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวของเขา แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา
มู่เจ๋ออวี่ไม่กล้าไปไหน เขานั่งยองๆ อยู่ข้างเตียง จ้องมองไปที่จุดที่พี่สาวหายตัวไปอย่างไม่กะพริบตา ความกลัวที่เกาะกุมหัวใจค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็น เขานั่งรอ...รออย่างเงียบๆ ...รอคอยให้พี่สาวของเขากลับมา
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า... ราวกับไม่มีวันสิ้นสุด ความเงียบในกระท่อมที่น่ากลัวทำให้มู่เจ๋ออวี่รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว แต่เขาก็ยังคงนั่งรออย่างอดทน
เวลาผ่านไปราวเค่อครึ่ง และแล้วในที่สุด...
ฟึ่บ!
ฟึ่บ!
ร่างของพี่สาวก็พลันปรากฏขึ้นอีกครั้งในอากาศ! มู่เจ๋ออวี่ ถึงกับร้องเสียงออกมาด้วยความตกใจและดีใจ เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะเข้าไปหาพี่สาว แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าในอ้อมแขนของ มู่ชิงเหยียน นั้นเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย!
มีทั้งถุงผ้าที่เต็มไปด้วยขวดแก้วและตำราเล่มหนา ใบหน้าของพี่สาวดูเหนื่อยอ่อน แต่ดวงตาของนางกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความดีใจอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
'นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกัน!?' มู่เจ๋ออวี่คิดในใจ แต่ถึงแม้เขาจะตกใจและสับสนเพียงใด แต่สิ่งที่เขาเห็นเมื่อครู่กลับถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของเขาแล้ว! ความลับของพี่สาว เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร!
ในขณะเดียวกัน มู่ชิงเหยียน ที่เพิ่งกลับออกมาจากมิติก็ต้องตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ! ดวงตาของเธอก็พลันสบเข้ากับดวงตาเล็กๆ ของน้องชายที่กำลังยืนอ้าปากค้างอยู่! ใบหน้าของเขามีแววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและความหวาดกลัวที่ยังไม่จางหายไป
'ตายแล้ว! เขาเห็นทุกอย่าง!'
หัวใจของมู่ชิงเหยียนหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่ม ความดีใจและความมุ่งมั่นที่เคยมีบัดนี้กลับถูกแทนที่ด้วยความกังวล นางจะอธิบายเรื่องราวที่เหนือธรรมชาติเช่นนี้ให้น้องชายของนางฟังได้อย่างไร? น้องชายที่ยังเป็นเพียงเด็ก!
แต่แล้ว... ความคิดของนางก็พลันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นางจ้องมองไปที่แววตาของน้องชายที่ฉายแววเฉลียวฉลาดอย่างที่เด็กวัยแปดขวบไม่ควรมี... เขาไม่ใช่เด็กธรรมดา! และเมื่อเห็นว่าเขาสามารถเก็บความลับได้ นางก็ตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงดู!
“เจ๋ออวี่... เจ้าเห็นอะไร...?” มู่ชิงเหยียนถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ใบหน้าของนางซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
มู่เจ๋ออวี่ไม่ตอบ เขาเพียงแค่ยืนนิ่งแล้วมองมาที่พี่สาว ก่อนที่เขาจะกระซิบเสียงเบาอย่างตื่นเต้น
“พี่ใหญ่... ท่านหายไป...หายไปในอากาศและออกมา…ท่านทำได้อย่างไร ท่าน..ท่านเป็น..เป็นนางฟ้าหรือไม่?”
คำพูดเพียงไม่กี่คำทำให้มู่ชิงเหยียนต้องกัดริมฝีปากแน่นนางกำถุงผ้าในมือไว้แน่น แล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเขา
“...อวี่เออร์!!!” นางเรียกเขาอีกครั้ง น้ำเสียงของนางกลับมาหนักแน่นและจริงจัง
“เจ้าเก็บความลับ...ได้หรือไม่?”
มู่เจ๋ออวี่
…."….."….
----
ย้อนกลับมาหนึ่งเค่อก่อนหน้านี้
ด้านนอกห้องของมู่ชิงเหยียน ตั้งแต่ตอนที่นางหายวับเข้าไปในมิติ ทันใดนั้นเอง! ซูหมิงเสวี่ย ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างก็หันขวับมองไปที่ห้องลูกสาวอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่เคยว่างเปล่าบัดนี้ฉายแววที่ยากจะเข้าใจ
ในวินาทีต่อมา พลังมิติที่กำลังหมุนวนในห้องของมู่ชิงเหยียนก็พลันระเบิดออกมาอย่างรุนแรง! พลังนั้นพุ่งตรงไปยังร่างของซูหมิงเสวี่ยราวกับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรที่กำลังจะกลืนกินทุกสิ่ง!
แต่ก่อนที่มันจะกระแทกเข้ากับร่างของนาง พลังอำนาจที่มองไม่เห็นอีกสายหนึ่งก็พลันพุ่งกระจายออกมาจากร่างของซูหมิงเสวี่ยอย่างรุนแรงเช่นกัน! พลังนั้นไร้ลักษณ์ ไร้ตัวตน แต่กลับยิ่งใหญ่และทรงอำนาจพอๆ พลังมิติของมู่ชิงเหยียน!
พลังทั้งสองสายเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง! อากาศโดยรอบถูกบิดเบี้ยวจนมองเห็นเป็นคลื่นใสๆ ต้นไม้ใบหญ้าด้านนอกหน้าต่างต่างก็หยุดนิ่งราวกับถูกตรึงไว้กับที่ เสียงกระซิบกระซาบของเหล่าภูตผีปีศาจและสิ่งลี้ลับที่เคยอยู่รอบตัวบัดนี้เงียบสงัดลงในทันที ราวกับถูกกดข่มด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า!
พลังทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดราวกับคลื่นยักษ์สองลูกที่กำลังจะทำลายกัน แต่แล้ว... พลังมิติของมู่ชิงเหยียนก็ค่อยๆ ถอยร่นกลับเข้าไปในห้องอย่างช้าๆ ก่อนที่จะหายไปในที่สุด ราวกับว่ามันเพิ่งต้องการทดสอบหรือล้อเล่นเท่านั้น
ความจริงแล้ว... พลังมิติของมู่ชิงเหยียนไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ แต่เป็นเหมือนสัญญาณที่ถูกส่งออกมาเพื่อปลุกพลังที่หลับใหลอยู่ในร่างของซูหมิงเสวี่ยให้ตื่นขึ้นมา! พลังที่ถูกปิดผนึกไว้มานานหลายปีในที่สุดก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเพื่อปกป้องร่างกายของเจ้านายโดยสัญชาตญาณ... มันคือ พลังวิญญาณแห่งเต๋า ที่เคยยิ่งใหญ่และทรงอำนาจที่สุดในยุค!
ซูหมิงเสวี่ย หอบหายใจอย่างหนัก ใบหน้าของนางซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด การปะทะเมื่อครู่ทำให้พลังวิญญาณที่เคยถูกปิดผนึกไว้ในร่างของนางต้องถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อปกป้องบุตรสาวโดยสัญชาตญาณ... แต่มันก็เป็นไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ...พลังที่ระเบิดออกมาพลันหดกลับเข้าไปในร่างของนางอย่างรวดเร็วเช่นกัน ดวงตาที่เคยเปล่งประกายแห่งความรู้แจ้งก็กลับไปว่างเปล่าเหมือนเดิม ราวกับว่าเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาที่ทุกคนสร้างขึ้นมาเอง
ซูหมิงเสวี่ย พลันหันศีรษะขวับไปทางห้องของบุตรสาวทันที! ท่าทางของนางไม่ใช่การหันอย่างธรรมดา แต่ราวกับมีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นกระชากนางไปทั้งตัว! ดวงตาที่เคยว่างเปล่าของนางบัดนี้กลับมีประกายแสงแปลกประหลาดวูบไหว เส้นแสงสีทองบางเบาหลายเส้นพลันพาดผ่านดวงตาของนางในชั่วพริบตา ราวกับแผนที่ดวงดาวบนฟากฟ้าที่กำลังหมุนวนอย่างรวดเร็วเพื่อคำนวณชะตา!
นางยกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ นิ้วเรียวสวยที่เคยใช้ปักผ้าบัดนี้กลับเคลื่อนไหวอย่างสง่างามกลางอากาศ ปลายนิ้วสัมผัสกันเบาๆ สร้างเป็นรูปทรงที่ซับซ้อนราวกับ วงแหวนดวงดาว นางคำนวณและคำนวณ... ใบหน้าของนางยังคงนิ่งเฉย แต่ในดวงตากลับฉายแววความรู้แจ้งและโล่งใจอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน!
ในวินาทีนั้นเอง... ซูหมิงเสวี่ยรู้สึกราวกับมี โซ่ตรวนที่มองไม่เห็น ขาดสะบั้นลงอย่างรุนแรง! เป็นโซ่ตรวนที่พันธนาการพลังวิญญาณและปิดผนึกความทรงจำของนางมานานนับสิบปี!
พลังอำนาจที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตบัดนี้ค่อยๆ ไหลเวียนกลับมาในร่างของนางอย่างช้าๆ มันไม่ใช่การกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของพลังที่กำลังจะฟื้นคืน นี่คือสัญญาณแห่งการเริ่มต้น!
นางมองไปที่มือของตนเอง มือที่เคยอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงบัดนี้กลับมีความแข็งแกร่งบางอย่างซ่อนอยู่! ความรู้สึกที่สูญหายไปนานบัดนี้กลับมาแล้ว! นางกำลังฟื้นคืนพลัง!
จากนั้นนางก็ลดมือลงแล้วหันกลับไปมองหน้าต่างอย่างช้าๆ ดวงตาที่เคยว่างเปล่าบัดนี้กลับมีแววตาที่ลึกล้ำราวกับห้วงดวงดาวที่ไร้จุดสิ้นสุด นางรู้แล้วว่าบุตรสาวคนนี้ของนางคือ ผู้ถูกเลือก ที่สวรรค์ส่งมาให้เพื่อปลดปล่อยนางออกจากโซ่ตรวนแห่งโชคชะตา!
มู่ชิงเหยียนที่นางเห็นในตอนนี้ไม่ใช่บุตรสาวที่ไร้เดียงสาอีกต่อไป แต่เป็น ผู้ถูกเลือก ที่ถูกส่งมาจากอีกห้วงมิติเพื่อแก้ไขโชคชะตาที่บิดเบี้ยวของครอบครัว นางเห็น เส้นด้ายแห่งกรรม ที่เกี่ยวโยงระหว่างมู่ชิงเหยียนกับมิติโอสถวิญญาณ... มันเป็นลิขิตที่สวรรค์กำหนดมาให้!
หลังจากการคำนวณเสร็จสิ้น วงแหวนดวงดาวบนปลายนิ้วของนางก็ค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ แสงในดวงตาของนางกลับไปว่างเปล่าเหมือนเดิม นางลดมือลงแล้วหันกลับไปมองหน้าต่างอย่างช้าๆ ราวกับว่าเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาที่ทุกคนสร้างขึ้นมาเอง
ในวินาทีนั้นเอง ซูหมิงเสวี่ยรู้สึกราวกับมีมีดนับพันเล่มกรีดลงบนหัวใจ มู่ชิงเหยียน บุตรสาวคนโตของนางจากไปแล้ว... จากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน ความรู้สึกเสียใจถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนแทบจะทำให้เธอทรุดตัวลง
แต่แล้ว อีกวูบหนึ่ง นางก็รับรู้ได้ว่า มู่ชิงเหยียนคนนี้ก็คือบุตรสาวของนางเช่นกัน! เพียงแต่ถูกโชคชะตาเล่นตลก ส่งจิตวิญญาณของคนจากอีกภพหนึ่งมาสถิตอยู่ในร่างของบุตรสาวนาง และพลังนั้นก็คือพลังที่ถูกส่งมาเพื่อช่วยเหลือครอบครัว!
น้ำตาของซูหมิงเสวี่ยไหลออกมาอย่างเงียบๆ ไม่ใช่เพราะความเศร้าโศกจากการจากลา แต่เป็นความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบายได้... โชคชะตาที่พรากบุตรสาวของนางไป บัดนี้กลับมอบสิ่งวิเศษบางอย่างกลับคืนมาให้... นี่คือพันธนาการแห่งโชคชะตาที่เชื่อมโยงพวกนางไว้ด้วยกัน!
"ดวงดาวได้โคจร... ลิขิตชีวิตใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว..."
นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเสียใจ ดีใจ และความหวัง..."
นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า แต่เต็มไปด้วยอำนาจและเสน่ห์ที่ลึกลับ นี่ไม่ใช่เสียงของหญิงสาวผู้ความจำเสื่อมธรรมดา... แต่เป็นเสียงของ ปรมาจารย์ผู้ทำนายดวงชะตา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค!
นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า แต่เต็มไปด้วยอำนาจและเสน่ห์ที่ลึกลับ นี่ไม่ใช่เสียงของหญิงสาวผู้ความจำเสื่อมธรรมดา... แต่เป็นเสียงของ ปรมาจารย์ผู้ทำนายดวงชะตา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค!
ทันใดนั้นเอง... ในขณะที่แสงสีทองสุดท้ายเลือนหายไปจากดวงตาของนาง ความเจ็บปวดอันรุนแรง ก็พลันแล่นปราดเข้ามาในศีรษะ! มันไม่ใช่ความเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บทางกาย แต่เป็นความเจ็บปวดที่เกิดจากการหลั่งไหลของความทรงจำที่ถูกปิดผนึกไว้!
ภาพอดีตมากมายที่เคยเลือนหายไปบัดนี้กลับมาแจ่มชัดในห้วงความคิดของนาง ภาพของศิษย์ผู้ทรยศ... ภาพของพิษร้ายที่กัดกินเส้นประสาท และภาพสุดท้ายก่อนที่สติจะดับมืดลง...
นางเห็นตัวเองในอดีต ในชุดผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ ยืนอยู่บนยอดเขาสูงท่ามกลางหมู่เมฆ ในมือถือ คัมภีร์หมื่นดวงดาว ที่เปล่งแสงเรืองรอง นางคือ จื่อหลิงปรมาจารย์หญิงผู้ครองคัมภีร์ดวงดาว ผู้ที่มีอำนาจในการทำนายชะตาชีวิตของสรรพสิ่ง และเป็นหนึ่งในสามยอดเซียนหญิงแห่งยุทธภพ!
ความเจ็บปวดทุเลาลงช้าๆ ซูหมิงเสวี่ยหอบหายใจอย่างแรง ความทรงจำที่กลับมาทำให้นางรู้สึกหนักอึ้งราวกับแบกภูเขาทั้งลูกไว้บนบ่า! นางมองไปที่มือของตนเอง มือที่เคยแข็งแกร่งและสามารถควบคุมพลังเต๋าได้ บัดนี้กลับผอมบางและเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น
นางรู้สึกได้ถึง พลังวิญญาณ ที่เคยลึกซึ้งในตัวบัดนี้กลับอ่อนแอราวกับสายลม แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพลัง นางก็สัมผัสได้ว่ามันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ถูกพิษร้ายชนิดหนึ่งที่กัดกินสมองของนางยับยั้งเอาไว้เท่านั้น
นางค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน ดวงตาที่เคยว่างเปล่าและเลื่อนลอย บัดนี้กลับฉายแววความรู้แจ้งและความมุ่งมั่นอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น!
"ในที่สุด...ข้าก็ได้พบเจ้า..."
นางพึมพำเสียงแผ่ว แต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกินจะอธิบายได้ นางมองไปที่ห้องของบุตรสาว ที่ซึ่งมู่ชิงเหยียนกำลังเดินทางเข้าสู่มิติของตัวเอง นางรู้แล้วว่าบุตรสาวคนนี้ของนางคือ ผู้ถูกเลือกที่สวรรค์ส่งมาให้ เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาที่บิดเบี้ยวของตระกูลมู่ และแคว้นต้านี้เอง !
**** ท่านแม่คือประธานปลอมตัว...ความจำเสื่อมมานี่เอง ****
