2
ร้านยาจีน จังหวัดนครสวรรค์
“เหม่ยลี่ ถึงเวลาไปฝึกมวยไทยแล้วนะ ทำไมยังไม่ไปอีก”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละเตีย” หญิงสาวที่กำลังเดินลงบันได ตอบบิดาที่อยู่ตรงหน้าตู้เก็บยาสมุนไพร
“เรียนเสร็จแล้วรีบกลับบ้านล่ะ อย่าไปก่อเรื่องที่ไหนอีก” หมอตี๋ที่ชาวบ้านพากันเรียกจนติดปาก มีชื่อจริง ๆ ว่าหยวนตง บอกกับลูกสาวที่พาข้ามประเทศมาจากอู่ฮั่นตั้งแต่อายุแค่ห้าขวบ
“เตียลืมหรือเปล่า วันนี้หนูต้องไปว่ายน้ำ”
“ว่ายน้ำเสร็จแล้วก็รีบกลับล่ะ ถ้าเตียรู้ว่าไปยิงนกตกปลาอีกนะ โดนแน่” บิดาคุยกับลูกสาวด้วยภาษาจีนทุกคำ ส่วนลูกจะตอบกลับเป็นไทยบ้างจีนบ้างตามแต่สมองคิดออกในตอนนั้น
“จริง ๆ หนูก็มีนัดกับเพื่อนต่อนะเตีย แต่ไม่ได้นัดไปซนที่ไหนหรอก”
“แล้วจะไปไหนกัน ดูหนังเหรอ”
“เปล่า จะไปคลินิก”
“ไปทำไม เพื่อนป่วยเหรอ บอกอาการมาสิ เดี๋ยวเตียจัดสมุนไพรให้”
“ไม่ได้ป่วย แต่นัดจะไปทำนมกันน่ะ” เธอไม่พูดเปล่าแต่ใช้สองมือประคองเต้าที่อวบอิ่มส่ายตัวไปมา
“เหม่ยลี่!”
เสียงตวาดของบิดาทำให้หญิงสาววัยสิบเก้าปีหัวเราะเสียงดังลั่น
“หนูล้อเล่นเฉย ๆ น่ะเตีย อย่าคิดมากสิ เดี๋ยวความดันก็ขึ้นหรอก ไปก่อนนะคะอาเตียขา” ส่งจูบให้บิดาด้วยท่าทางทะเล้นแล้ววิ่งออกจากร้าน ขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจและสวมหมวกกันน็อก
หยวนตงเดินตามไปส่งลูกสาวถึงที่รถ “ชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว เตรียมไปแล้วใช่ไหมเหม่ยลี่”
“เจ้าค่ะคุณเตีย” ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม โบกมือให้บิดาก่อนจะบิดคันเร่งจากไป
“ค่อย ๆ ขี่นะเหม่ยลี่” บุรุษวัยห้าสิบกลาง ๆ แต่หน้าตาและรูปร่างดูเหมือนหนุ่มใหญ่วัยแค่สามสิบนิด ๆ ตะโกนไล่หลังด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ส่งสายตามองลูกสาวจนลับตาจึงเดินกลับเข้าไปในร้าน..
และหยุดชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นบุรุษที่ยืนคอยอยู่ด้านใน
“ท่านมหาเทพ!.. คารวะท่านมหาเทพ” ได้สติก็รีบโน้มกายทำความเคารพ
“ท่านเทพรักษา ตกใจมากนักเหรอที่เห็นข้า”
“ใช่ เกิดอะไรขึ้นครับ..ขอรับ” เทพรักษาที่มีอายุจริงเกือบ ๆ จะหนึ่งพันปีถามมหาเทพผู้เป็นนายใหญ่
มหาเทพคลี่ยิ้มละมุน “พูดตามสบายเถอะท่านเทพรักษา เราเข้าใจดีว่าท่านมาอยู่ที่โลกมนุษย์นาน อาจจะลืมภาษาเทพไปแล้ว”
“ไม่ลืมหรอกท่านมหาเทพ แล้วท่านลงมาพบข้าถึงที่นี่ มีเรื่องสำคัญอันใดขอรับ”
กริ๊ง...
เสียงโมบายที่ติดไว้ตรงประตูส่งเสียงดังขึ้น บอกให้รู้ว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน หยวนตงหันไปมอง.. ส่งยิ้มทักทายให้ลูกค้าเจ้าประจำ
“สวัสดีครับอาม่า”
“สวัสดี ๆ วันนี้ลื้ออยู่คนเดียวเหรอหมอตี๋”
“ครับ ทำไมเหรอครับอาม่า”
“ก็เมื่อกี้อั๊วมองเข้ามา อั๊วเห็นเหมือนลื้อกำลังคุยกับใครอยู่”
“..อั๊ว..อั๊วร้องเพลงแก้เหงาน่ะอาม่า วันนี้อาม่าจะรับอะไรดี” แก้ตัวแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนาง
“อาเหม่ยลี่ไปไหนล่ะ อั๊วไม่เห็นอีมาสักพักแล้ว”
“อีไปฝึกมวยไทยน่ะอาม่า”
“เป็นสาวเป็นนางไปฝึกมวยไทยเนี่ยนะ! ลื้อคิดอะไรของลื้ออยู่หมอตี๋” อาม่าทำสีหน้าไม่เห็นด้วย
“เอาไว้ป้องกันตัวไงอาม่า อาม่าจะเอายาตัวไหนครับ”
“ลื้อนี่นะ พออั๊วถามถึงอาเหม่ยลี่ทีไรก็บ่ายเบี่ยงตลอด” อาม่าตำหนิอย่างขัดใจ “ลื้อรังเกียจหลานชายอั๊วเหรอ”
ได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่นั่งฟังอยู่บนเก้าอี้ไม้ แต่เหมือนเป็นแค่ธาตุอากาศอยู่ในห้องนี้ หยวนตงก็หันไปมองด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย.. ‘ท่านมหาเทพอย่าหัวเราะสิขอรับ ข้ากำลังปกป้องนางเพื่อท่านนะขอรับ’ สื่อสารกับอีกฝ่ายผ่านทางจิตและมุ่งความสนใจไปที่อาม่าต่อ
“ผมจะรังเกียจได้อย่างไร ในเมื่อหลานชายของอาม่าแต่ละคนเก่ง ๆ กันทั้งนั้น”
ได้ยินดังนั้นอาม่าก็คลี่ยิ้มกว้างพึงพอใจ เขย่าแขนหมอตี๋เบา ๆ พร้อมสีหน้ากรุ้มกริ่ม
“แล้วทำไมลื้อถึงไม่ยอมยกอาเหม่ยลี่ให้เป็นหลานสะใภ้คนเล็กของอั๊วล่ะ”
“โธ่..ลูกสาวผมเพิ่งจะสิบเก้าเองนะอาม่า ปีนี้อีต้องไปเรียนที่จีนด้วย ครอบครัวผมก็จะย้ายกลับไปเหมือนกัน”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ หมั้นเอาไว้ก่อน เรียนจบค่อยกลับมาแต่งงานกันก็ได้ ลื้อจะอยู่ที่จีนก็ไม่เป็นไร อั๊วสัญญาว่าจะดูแลหลานสะใภ้อย่างดี” อาม่ารวบรัดตัดตอนเบ็ดเสร็จ
“อาม่าครับ ลูกสาวผมแก่นเซี้ยวอย่างกับทอมบอย เธอไม่เหมาะกับหลานชายที่แสนสุภาพของอาม่าหรอก”
“เหมาะสมจะตาย ลูกลื้อเหมือนทอมบอย ส่วนอารันหลานอาม่าก็เรียบร้อยเหมือนผู้หญิง คู่สร้างคู่สมชัด ๆ”
“อาม่า” หยวนตงถอนหายใจเบา ๆ ริมฝีปากยังเปื้อนยิ้ม “ผมขอบอกกับอาม่าตรง ๆ เลยก็แล้วกันนะ เรื่องนี้ผมเคยถามเหม่ยลี่ไปแล้ว แต่เขาบอกผมว่า..” โน้มตัวที่สูงใหญ่ลงไปอีกนิด แล้วยกมือป้องปากที่ข้างหูของผู้ที่อาวุโสกว่าในเมืองมนุษย์ “เธอชอบผู้หญิง”
“หา!” อาม่าตบอกไล่ลมหายใจที่ตีตื้นขึ้นมาจนเกือบจะทำให้เป็นลม
“อาม่า! นั่งก่อน ๆ” หยวนตงรีบพยุงอาม่าไปนั่งที่เก้าอี้ที่วางเรียงไว้ให้ลูกค้านั่งรอด้วยความเป็นห่วง รู้สึกผิดเล็กน้อยที่คำพูดบอกปัดของตนทำให้คนแก่ลมขึ้น
“ทำไมลื้อถึงปล่อยให้อีเป็นแบบนั้นล่ะหมอตี๋”
