3 สายตาที่จ้องมอง
วันต่อมา
ที่สมัครงาน1
“ขอโทษนะคะน้อง ตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงรับสมัครงาน”
ที่2
“ตอนนี้ร้านเรารับแค่พนักงานประจำค่ะ”
ที่3
“ร้านนี้รับแต่ผู้ชายครับ”
.
.
.
.
.
ที่สมัครงานที่8
“พี่ขอโทษจริงๆนะคนสวย บอสพึ่งรับคนงานเข้ามาใหม่ ตอนนี้ตำแหน่งก็เต็มแล้วด้ว เอาไว้ถ้าตำแหน่งว่างเมื่อไหร่พี่จะโทรบอกเราก็แล้วกันนะ”
“เฮ้อ~ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย บททดสอบชีวิตหรือไงกัน”
วีนัสเดินขาลากออกมาหลังจากที่เธอไปถามร้านต่างๆที่ติดใบรับสมัครพนักงาน ไม่รู้ว่าพวกร้านบ้านั่นติดไว้ทำไมถ้าจะมาปฏิเสธเธอแบบนี้ ไม่ว่าจะงานที่ใช้หน้าตาร่างกายรวมไปถึงงานล้างจานก็ไม่ว่างเลยสักตำแหน่ง ไม่รู้ว่าเธอนั้นถูกสวรรค์กลั่นแกล้งอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงได้หางานยากเย็นขนาดนี้
“พรุ่งนี้ค่อยไปหาใหม่เรื่อยๆก็ได้วะ วันนี้มันยังไม่ใช่วันของเรา” วีนัสตั้งมั่นกับตัวเอง ก่อนจะลากสังขารกลับไปที่คอนโดด้วยความทุลักทุเล เพราะเธอเดินหางานทั้งวัน ทั้งล้า ทั้งเหนื่อย ไม่พอรองเท้าสุดรักสุดหวงยังมากัดจนเป็นแผลทั้งสองข้างอีก
3วันผ่านไป
“อ๊ากกกก นี่มันอะไรกันเนี่ย ฮืออออออ หางานไม่ได้เลย” พรุ่งนี้เธอต้องไปเรียนแล้วหลังจากที่ผ่านพ้นวันหยุดยาวไป เธอไม่นึกเลยว่าการหางานมันจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็โดนปฏิเสธไปหมด เธอไม่เคยท้ออะไรขนาดนี้มาก่อน หรือเธอจะต้องลาออกแล้วกลับไปทำงานอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่จริงๆ
“โถ่เอ้ย เหนื่อยแล้วนะ ไม่มีงานไหนที่รับเลย” วีนัสนอนตีแขนตีขาอยู่บนเตียง ก่อนที่มือเธอจะฟาดไปโดนกับกระเป๋าใบโปรด ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอไปค้นข้างในกระเป๋าดู จากนั้นเธอก็หยิบกระดาษที่คุ้นเคยใบนั้นออกมา
“นี่เจ๊ต้องเล่นของใส่หนูแน่ๆ” เธอพูดกับนามบัตรใบนั้นเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรไปตามเบอร์ที่ระบุอยู่บนนั้น
“ฮัลโหลลล สวัสดีค่า ผู้ชายหรือผู้หญิงค่าาาาาา” เสียงเจือยแจ้วแสบแก้วหูดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์ วีนัสรีบดึงโทรศัพท์ออกจากหูของตัวเองทันที
“เอ่อ…สวัสดีค่ะเจ๊เชอร์รี่แยม”
“อุ๊ยตาย! เสียงดูคุ้นๆ ใครเอ่ย เราเคยเจอกันหรือเปล่าจ้ะ”
“ค…เคยค่ะเจ๊เชอร์รี่แยม หนูชื่อวีนัสไงคะ วันนั้นเจ๊เชอร์รี่แยมเข้ามาช่วยหนูจากไอ้บ้ากามที่มันกำลังจะคตบหนูไง”
วีนัสรีบแนะนำตัวออกไป หวังว่าปลายสายจะยังจำเธอได้หรอกนะ
“อ๋อน้องวีนัสนี่เอง โทรมาหาเจ๊วันนี้มีอะไรหรือเปล่าจ้ะคนสวย”
“ค…คือวันนี้หนูว่าอยากไปเที่ยวสักหน่อย หนูไปหาเจ๊ได้ไหมคะ” เธอยังไม่กล้าบอกเจ๊เขาว่าอยากไปทำงานด้วย ขอเธอไปคุยต่อหน้าดีกว่า อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอมั่นใจมากกว่าตอนคุยผ่านโทรศัพท์แบบนี้
“วันนี้หรอลูก อืมมมมม ได้สิ เดี๋ยวเจ๊เทนัดผู้ชายเพื่อหนูเองเลยจ้ะ”
“ขอบคุณมากๆนะคะเจ๊เชอร์รี่แยม”
“จ้าๆ ไว้เจอกันเย็นนี้นะคะลูกสาว แต่งตัวมาแซ่บๆเหมือนเดิมเลยน้า เจ๊อยากถ่ายรูปด้วย”
“โอเคค่ะเจ๊เชอร์รี่แยม งั้นเจอกันตอนเย็นนะคะ”
“จ้า บายค่ะลูกสาว”
ติ๊ด!
“ฟู่วววว ในที่สุด เฮ้อ เอาวะ ลองไปก่อนละกันไอ้วีนัส ดีไม่ดีค่อยว่ากันทีหลัง” ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เธอปฏิเสธเจ๊เขาไปในวันนั้น จะได้โทรกลับไปหาเจ๊ในวันนี้ แต่ตอนนี้เธอยังไม่มีความกล้าที่จะบอกเจ๊ไปว่าต้องการทำงานกับเจ๊เขา เอาไว้เจอหน้ากันก่อนแล้วกัน เธอน่าจะบอกกับเจ๊เขา
วีนัสทิ้งตัวลงบนที่นอนสุดนุ่มของตัวเอง ก่อนจะเหม่อคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมาภายในไม่กี่วัน เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะเดือดร้อนเรื่องเงินขนาดนี้ แต่จะโทษใครได้หล่ะถ้าไม่โทษตัวเองที่ใช้เงินเปลืองราวกับเป็นเศษใบไม้ขนาดนี้
วีนัสคิดเรื่องราวมากมายจนผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบห้าโมงเย็น ตัวของวีนัสก็รีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวรอไปเจอเจ๊เชอร์รี่แยมอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ลืมออกไปหาอะไรกินรองท้องสักหน่อยก่อน เพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากอาหารเช้า
21.00น.
ผับXDS
ตื้ดดดดดด ตื้ดดดดดด ตื้ดดดดดดด
เพียงแค่ก้าวเข้ามาเสียงเพลงก็กระแทกเข้าทั้งสองหูของเธออย่างจังจนปวดหูไปหมด ก่อนจะเดินไปตามที่เจ๊เชอร์รี่แยมบอก วันนี้เจ๊เขาอารมณ์ดีเลยจองโต๊ะVIPข้างบนไว้เพื่อนั่งกับเธอ ตอนแรกเธอก็เกรงใจ แต่เจ๊เขาก็ไม่ยอมฟังเลยได้แต่เลยตามเลยเจ๊ไป
วันนี้วีนัสแต่งตัวไม่จัดเต็มมาก แต่ก็สวยและเซ็กซี่มากอยู่ดี อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้ผอมแห้ง แล้วยิ่งหน้าอกที่แม่ให้มาแบบขนาดใหญ่เกินตัวนั่นอีกเลยทำให้ไม่ว่าจะแต่งแบบไหนก็ดูเซ็กซี่ไม่ก็ดูโป๊นิดโป๊หน่อยไปหมด
“ลูกสาวๆ วีนัสลูก ทางนี้ๆๆๆๆ”
เธอเดินขึ้นมาชั้นสองก็หาเจ๊เชอร์รี่แยมได้ทันที เพราะเจ๊แกเล่นส่งเสียงเรียกเธอตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นมาบนนี้ก้าวแรก เรียกได้ว่าเธออายผู้คนเพราะเจ๊เขาเนี่ยแหละ
“สวัสดีค่ะเจ๊เชอร์รี่แยม” มาถึงโต๊ะเธอก็รีบสวัสดีเจ๊เขาก่อนทันที จะได้ดูเป็นเด็กที่มีมารยาท
“สวัสดีจ๊ะคนสวย นั่งๆเลยนะ วันนี้เจ๊อารมณ์ดี เดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเอง สั่งได้เต็มที่เลย”
“หู๊ยยย นัสเกรงใจค่ะ”
“อย่าใช้คำนั้นจ๊ะ เพราะวันนี้เจ๊รวยฮ่าๆๆๆๆ”
“แฮะๆ ขอบคุณนะคะ”
“จ้า สุดหล่อรับออเดอร์หน่อยจ้า”
วีนัสและเจ๊เชอร์รี่แยมต่างก็สั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองชื่นชอบมา ก่อนจะถามสารทุกข์สุกดิบกันเล็กๆน้อยๆจากนั้นก็ถ่ายรูปกันเพื่อเพิ่มความสนิท แต่สีหน้าของวีนัสนั้นก็บ่งบอกถึงความกังวลที่มีอยู่ในใจ คนที่มีประสบการณ์อยู่กับผู้คนมามากมายอย่างเจ๊เชอร์รี่แยมก็ทักขึ้นมา
“ลูกสาว เป็นอะไรหรือเปล่า เจ๊เห็นหนูไม่ค่อยอารมณ์ดีเลย หรือว่าโดนทิ้งมาลูก”
“ป….เปล่าค่ะเจ๊เชอร์รี่แยม คือว่า…..เอ่อ….คือว่า” วีนัสสายตาหล่อกแหล่กเล็กน้อยเพราะไม่รู้จะเริ่มประโยคยังไงดี
“ว่าไงลูกสาว พูดมาเลย เจ๊รอฟังอยู่”
“คือว่า…..เรื่องที่เจ๊เสนอหนูมาวันนั้น ถ้าหนูตอบตกลงตอนนี้จะยังทันอยู่ไหมคะ” วีนัสตัดสินใจพูดสิ่งที่ตัวเองกังวลที่สุดออกไป เธอกลัวว่าตำแหน่งงานนั้นมันจะเต็มเสียก่อน
“ต๊ายยย ลูกสาวกินอะไรมาเนี่ย ทำไมวันนี้ถึงอยากทำแล้วหล่ะจ๊ะ” เจ๊เชอร์รี่แยมตกใจเล็กน้อย เพราะวีนัสดูแตกต่างจากวันที่เจอวันแรกอยู่พอสมควร สีหน้าของวันนี้ทั้งดูประหม่าและหม่นหมองจนเห็นได้ชัด
“พอดีหนูมีปัญหาเรื่องการเงินนิดหน่อยค่ะ ทางบ้านส่งเงินมาให้ไม่ได้แล้ว แล้วหนูก็ไม่อยากออกจากมหาลัยกลางคันด้วย เจ๊รับหนูเข้าทำงานนะคะเจ๊เชอร์รี่แยม”
วีนัสลุกขึ้นไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับเจ๊เชอร์รี่แยม ก่อนจะเกาะแขนอ้อนวอนอย่างน่ารัก
“คิกๆ ไม่ว่าตำแหน่งมันจะเต็ม เจ๊ก็ทำให้มันว่างได้อยู่แล้วจ้ะลูกสาว มันล็อคไว้ให้คนสวยๆแบบหนูอยู่แล้ว ว่าแต่ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม เข้ามาแล้วยกเลิกไม่ได้นะคะลูกสาว”
“ค่ะเจ๊เชอร์รี่แยม หนูเต็มใจทำค่ะ”
“โอเคลูกสาว พร้อมเซ็นสัญญาวันไหนก็มาหาเจ๊ได้เลยนะ”
“ตอนนี้เลยได้ไหมคะ” วีนัสกลัวว่าจะไม่ได้ทำงาน เธอเลยรีบถามออกไปทันที
“รีบร้อนนะคะลูกสาว แต่ตอนนี้เจ๊ไม่ได้ถือสัญญาไว้กับตัวสักฉบับเลย อยู่ที่บอสสุดหล่อหมด เอ๋? แต่เหมือนว่าวันนี้บอสจะเข้านะ เดี๋ยวเจ๊ลองทักหาบอสแป๊บ”
“ขอบคุณมากๆนะคะเจ๊เชอร์รี่แยม”
วีนัสนั่งรออย่างมีความหวัง ก่อนที่จะยิ้มออกเมื่อเจ๊บอกว่าบอสอยู่ห้องทำงาน เดี๋ยวจะพาเธอขึ้นไปเซ็นสัญญาเดี๋ยวนี้เลย
“ไปจ้ะ บอสบอกว่าจะให้เซ็นกับบอสเลย โชคดีนะคะลูกสาว บอสไม่ใช่ว่าจะเจอได้ง่ายๆเลย”
“แฮะๆ โชคดีจริงๆด้วยค่ะ”
เธอเดินตามหลังเจ๊ขึ้นไปชั้นสาม ซึ่งน่าจะเป็นชั้นทำงานทั้งหมด ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่ง เพียงแค่เห็นประตูใจเธอก็เต้นไม่หยุดแล้ว มันตื่นเต้นแล้วก็กลัวผสมปนเปกันไปหมด
“ฟู่วววว ฟู่ววววว ฟู่ววววว”
“ไปๆๆ ลูกสาวเข้าไปเลย”
“อะ…อ้าว เจ๊ละคะ ไม่เข้าไปหรอคะ”
“ก็อยากเข้าไปด้วยหรอกจ๊ะ แต่ผู้ที่เจ๊นัดไว้มาแล้ว เจ๊เทคนนี้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะคะลูก เข้าไปคนเดียวนะ บอสเจ๊ไม่กัดแน่นอน”
วีนัสมองตามหลังของเจ๊เชอร์รี่แยมที่เดินออกไปตาปริบๆ ก่อนที่เธอจะหันกลับมาประชันหน้ากับประตูที่อยู่เบื้องหน้าอีกครั้ง
“อึก อึก”เสียงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ทำไมเธอถึงรู้สึกขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัวแบบนี้ ราวกับต้องไปเผชิญกับอะไรสักอย่างที่ดุร้ายอยู่ภายใน
“ฟู่วววว เอาวะ ไม่กล้าก็ไม่มีเงินแดกข้าวแล้วววว”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา!!!”
เสียงทรงพลังอันเกรงขามดังก้องออกมา เพียงแค่นั้นก็ทำให้ใจดวงน้อยๆของคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเต้นแรงขึ้นไปอีก
#อีกด้าน
“หึ!”
สายตาคมดุเหมือนเสือร้ายมองดูที่คอมพิวเตอร์ซึ่งกำลังฉายภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของเขา ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของเธอ พร้อมกับมือแกร่งที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดยกแก้วบรั่นดีขึ้นมาจิบทีละน้อยเพื่อรอเวลาว่าคนหน้าประตูจะเปิดเข้ามาเมื่อไหร่
