บท
ตั้งค่า

2 หนูยังไม่เคย

ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

มนลดา กำลังยืนรออยู่หน้าห้องพักฟื้นผู้ป่วยด้วยหัวใจที่บีบรัด คุณย่าของเธอเกิดล้มในห้องน้ำและถูกเพื่อนบ้านช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่ออยู่นานเกือบชั่วโมง ก่อนจะเห็นคุณหมอที่ตรวจอาการให้คุณย่าของเธอเดินออกมา

“หนูเป็นญาติคนไข้ใช่ไหมครับ”

“ค่ะคุณหมอ คุณย่าของหนูเป็นยังไงบ้างคะ” มนลดารีบถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

คุณหมอในชุดกราวน์สีขาวยิ้มให้เธอเล็กน้อย แต่ในแววตากลับฉายชัดถึงความจริงจัง

“อาการของคุณย่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทครับ...” มนลดาใจตกไปอยู่ตาตุ่ม

“ทางที่ดีควรรีบผ่าตัด เพราะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้อาจเป็นอัมพาตได้ เดี๋ยวหนูไปจองคิวผ่าตัดเอาไว้ก่อนนะ” คุณหมออธิบายด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทุกคำที่ออกมาล้วนเป็นเหมือนค้อนที่ทุบลงกลางใจของมนลดา

“แล้วต้องรอคิวนานแค่ไหนคะ” มนลดาถามต่อพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอ

“ถ้าใช้สิทธิ์บัตรทองตามระบบ คิวอาจจะยาวหน่อย ต้องรอประมาณเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเลย หรืออาจจะนานกว่านั้น อันนี้หมอก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดแบบเร่งด่วนก็ต้องสำรองจ่ายก่อน และค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง” คุณหมอพูดจบก็ถอนหายใจเบา ๆ

“ประมาณเท่าไหร่คะ คุณหมอ” เด็กสาวถามเสียงสั่น

“ก็หลักแสนปลายๆ ครับ” มนลดายืนนิ่งราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เงินจำนวนมากขนาดนั้นเธอจะไปหาที่ไหนได้ทัน

“แต่ถ้าหนูและคุณย่ายังไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายจริงๆ ระหว่างที่รอคิวผ่าตัด หมอแนะนำให้ทำกายภาพไปก่อนครับ” คุณหมอเสนอทางเลือกสุดท้าย แต่ในเมื่อการผ่าตัดคือความหวังที่คุณย่าจะหายเป็นปกติ มนลดาก็ต้องพยายามทุกวิถีทาง

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ...” มนลดาตอบพร้อมกับยกมือไหว้คุณหมออย่างนอบน้อม จากนั้นเธอก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที เพื่อโทรหาใครบางคนเพื่อขอความช่วยเหลือ

ถึงแม้ว่าจะสามารถเบิกได้จากสิทธิ์บัตรทอง แต่คิวในการผ่าตัดก็ต้องรอนานเป็นเดือน ซึ่งเธอไม่อาจเสี่ยงที่จะรอจนถึงวันนั้น มนลดาเดินคอตกกลับไปที่บ้าน ก่อนจะเตรียมเสื้อผ้า เพื่อมาเฝ้าคุณย่าของเธอในคืนนี้

ระหว่างจัดเตรียมเสื้อผ้าของใช้อยู่ภายในห้อง มนลดาก็ตัดใจโทรไปขอยืมเงินจากรุ่นพี่คนสนิทที่เคยร่วมงานกันเมื่อครั้งเธอยังเป็นพริตตี้ เพื่อจะนำเงินมาเป็นค่าผ่าตัดให้กับคุณย่าของเธอ

“พี่ก็ไม่มีเงินให้หนูยืมมากขนาดนั้นหรอก แต่พี่ช่วยหางานให้หนูได้นะ” เสียงนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความนัยของเอมมี่ดังออกมาจากโทรศัพท์ที่แนบหู

“ใช่งานพริตตี้ที่หนูเคยทำหรือเปล่าคะ่...พี่เอมมี่”

“ไม่ใช่หรอกค่าาาา..” โมเดลลิ่งสาวลากเสียงยาว

“งานแบบนั้นนาน ๆ จะมีอีเว้นท์สักทีหนึ่ง เอางานนี้ดีกว่า ง่าย ๆ สบาย ๆ ได้เงินเยอะ ๆ ดีกว่า”

“มันคืองานที่พี่เคยเสนอให้หนูหรือเปล่าคะ” มนลดาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“อืม...ก็นั่นแหละ รับรองว่า พี่จะหาลูกค้ากระเป๋าหนัก ๆ ให้หนูเอง ถ้าหนูตกลง”

“ถ้างั้นหนูขอทำแค่งานนี้งานเดียวได้มั้ยคะ” เธอต่อรองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน มนลดานั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ภายในห้องที่คับแคบของเธอ มือเรียวบางสั่นระริก

“ก็แล้วแต่หนูเลยจ้ะ แต่ส่วนใหญ่เด็กในสังกัดพี่ ครั้งแรกก็พูดแบบหนูกันทั้งนั้นแหละ” ปลายสายหัวเราะเบาๆ

“งั้นหนูขอคิดก่อนได้ไหมคะ” เธออ้อนวอนราวกับขอเวลาเพื่อซื้อลมหายใจให้ตัวเอง

“ก็ได้ แต่รีบ ๆ หน่อยนะ เพราะลูกค้ารายนี้ของพี่เค้าจะอยู่เมืองไทยอีกไม่นาน”

“เค้าเป็นคนต่างชาติเหรอคะ”

“ใช่... เค้าเป็นคนอเมริกัน”

เพียงเท่านั้น มนลดาก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนอีกครั้ง เธอวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบาแล้วนั่งนิ่งอยู่กับที่ ไม่เคยเลยที่เธอจะคิดว่าชีวิตจะพาเธอมาถึงจุดที่ต้องยอมแลกศักดิ์ศรีของตัวเองกับเงินทอง

เธอจำคำพูดของเอมมี่ที่เคยได้เล่าให้ฟังเมื่อครั้งก่อน ๆ ว่างานที่ชวนให้ไปทำ ก็คล้าย ๆ กับเป็นเมียเช่า คอยเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว และเป็นคู่ควงให้คนต่างชาติ มันเป็นงานที่สบาย ได้เงินดี แค่แต่งตัวสวยๆ พูดจาหวานๆ เอาใจเก่งๆ ก็พอ

เด็กสาวเงยหน้ามองรูปถ่ายของคุณย่าที่วางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้ายิ้มแย้มของท่านในรูปทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ถ้าคุณย่าตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร ท่านจะเสียใจแค่ไหน

‘แต่หนูยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายเลยนะคะ’ คำพูดที่เธอเอ่ยออกไปก่อนหน้านี้ยังก้องอยู่ในหัว

‘ตอนแรกๆ ก็อาจจะกลัว เมื่อก่อนพี่ก็กลัวเหมือนหนูนั่นแหละ’

‘แต่หลังๆ ก็ชินไปเอง แถมยังสนุกอีกด้วย’
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel