
บทย่อ
เธอเปรียบเสมือนแสงสว่างของดวงอาทิตย์ ที่ทำให้เขารู้สึกสดใสเขาเปรียบเสมือนความร้อนของดวงอาทิตย์ ที่พร้อมจะเผาเธอเป็นจุลได้ทุกเมื่อฉันจะต้องรอดจากมัจจุราชปีศาจอย่างเขาให้ได้...เธอไม่มีวันหนีฉันได้ริสา...“..เราเชื่อว่าคนบนนั้นได้ยินคำขอของเธอแล้ว หลังจากนี้เธอต้องเป็นเด็กดีนะ”“อืม..เราจะเป็นเด็กดี..ขอบคุณนะ.. หน้ากากทักซิโด้..^ ^” “ฉันจะทำให้เธอต้องการฉัน..ริสา"
ตอนที่ 1
“เฮียไค..มองอะไรอยู่..ผมมองด้วย..”
เสียงเล็กของเด็กชายวัย 5 ขวบ เอ่ยปากเจื้อยแจ้วออกมา พร้อมกับชะเง้อมองอย่างสงสัย กับสิ่งที่พี่ชายคนโตของเขาเฝ้ามอง ออกไปนอกหน้าต่างทุกวันในรถขนาดใหญ่ ที่ทางบ้านส่งมารับ ลูกชายทั้ง 3 ของตระกูลฟรองค์ ทุกวันหลังเลิกเรียน
“เปล่า....อ่านถึง ทฤษฎีของโคเปอร์นิคัส หรือยัง”
คนที่โดนพาดพิง..ไค พี่ชายคนโต วัย 11 ขวบ ..ตอบเสียงเรียบใส่น้องชายคนเล็ก..อย่างทันควัน ก่อนที่จะทำทีไปสนใจและพูดคุยเพื่อเบี่ยงประเด็น..กับเด็กผู้ชายอีกคนที่นั่งเงียบตลอดในรถ อย่าง..เค ลูกชายคนกลาง วัย 7 ขวบ ที่นั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับระบบสุริยะตั้งแต่เริ่มเข้ามาในรถ จวบจนตอนนี้ โดยไม่สนใจใคร..
และเมื่อเขาโดนพี่ชายถามอย่างนั้น เขาก็วางหนังสือลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย และเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับเอ่ยปากถามพี่ชายแทนที่จะตอบคำถามก่อนหน้าออกมาแทน ทันที..
“..ทำไมโลกต้องโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทั้งๆที่ดวงอาทิตย์ และโลก ต่างก็มีแรงดึงดูดกัน”
ส่วนไค ที่ตอนแรกอยากจะแค่เบี่ยงประเด็นจากน้องชายคนเล็ก ก็ยิ้มขึ้นมาเล็กๆอย่างเอ็นดูทันที เมื่อได้ยินน้องชายอีกคนถามแบบนั้น ก่อนที่จะหยิบหนังสือที่น้องชายของเขาตั้งใจอ่านตั้งแต่เมื่อวาน มาเปลี่ยนหน้าหนังสือไปยังหน้าที่แสดงถึงทฤษฎีของโคเปอร์นิคัส และแสดงรูปภาพสนับสนุนที่ทำให้นิ้วมือเล็กๆชี้ไปยังรูปภาพนั้น พร้อมกับเอ่ยปากอธิบายน้องชายอย่างใจเย็น เหมือนกับที่เป็นมาเสมอ
“โลกเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเชิงเส้นแบบนี้..ในขณะที่แรงดึงดูดระหว่างมวลของโลกและดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดแนวตั้งฉากกับทิศทางของความเร็วนั้น..เพราะว่าโลกก็หมุนรอบตัว ดวงอาทิตย์ก็หมุนรอบตัว เลยทำให้โลกที่มีมวลน้อยกว่าเปลี่ยนทิศความเร็วไปเรื่อยๆ จนเคลื่อนที่เหมือนว่าโลกจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ ....”
เมื่อพูดจบไคก็เปิดไปอีกหน้าก่อนจะพับหัวมุมหนังสือไว้ และเริ่มเอ่ยปากพูดต่อ
“ตรงนี้..หลักการ Conservation of Angular Momentum..ลองอ่านดูนะ.. จะได้เข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมโลก ดาวเคราะห์ หรือดวงอาทิตย์ถึงได้หมุนรอบตัวเอง..แล้วก็..หน้าน...”
“เฮียไค เฮียคิน.. เลิกคุยเรื่องพวกนี้ซะทีได้มั้ย..ผมฟังแล้วปวดหัววว”
แต่แล้วในขณะที่ไคอธิบายคำถามของน้องชาย และอยากจะเสนอแนะหน้าหนังสือที่เขาอ่านจบไปเมื่อไม่กี่วันกับน้องชายของเขา.. น้องชายคนเล็ก ก็โพล่งปากออกมากลางวง..ด้วยความเหนื่อยใจที่พี่ชายของเขาทั้ง 2 เอาแต่คุยกันเรื่องวิชาการที่เขาเข้าไม่ถึง ..
เขารู้ดีว่า พี่ของเขาทั้ง 2 คนเป็นอัจฉริยะ..แต่ว่าเขาก็อยากมีเวลาได้เล่นๆกับพี่เขาเหมือนเด็กๆทั่วไป และที่สำคัญ..เขามีเรื่องปวดหัวที่กำลังคิดไม่ตกและอยากให้เฮียๆของเขาช่วยเขาเช่นกัน นั่นเลยทำให้คินเอ่ยปากพูดทันที..เมื่อเห็นว่าพี่ชายของเขาหันมามอง
“เฮียว่า รางวัลครั้งนี้ ผมจะขอแด็ดซื้อ RX-7 FD3S หรืิอ NSX ดี เอ๊ะ หรือว่า 3000GT ก็น่าสนใจ”
และคำพูดนั้นก็ทำให้..ไคยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพับมุมหนังสืออีก 2-3 หน้า ที่อยากให้น้องชายอ่าน.. แล้วยื่นส่งไปให้เค.. จากนั้น เขาจึงเอ่ยปากตอบน้องชายตัวแสบของตนอีกคน ที่นิสัยช่างแตกต่างจากคนแรกอย่างสิ้นเชิง
“NSX เพราะ คราวที่แล้ว คินบอกเฮียว่า จะสะสมรถแข่งจากสนาม F1 ให้หมดก่อน”
“ก็นั่นสินะ แต่ว่า ผมอยากได้ RX-7 FD3S ด้วยอ่ะ.. 3000GT ก็อยากได้ ....อืม ถ้าผมขอ 3 ตัว แด็ดจะยอมมั้ยนะ”
“จำกฏไม่ได้หรือไง..แด็ดบอกว่า ให้ได้แค่อาทิตย์ละตัวเท่านั้น..ถ้าอยากได้ 3 ตัวนี้ ก็ทำตามเงื่อนไขของแด็ดให้ได้ และรออีก 3 อาทิตย์”
“..ผมอยากสะสมได้เร็วๆนี่นา..ถ้าผมต้องรออย่างเฮียว่า กว่าจะสะสมได้เต็มตู้ คงเป็นปีแน่ๆ อืมๆๆ ทำไงดีนะ”
แต่แล้วหลังจากคินพูดพึมพำอย่างหมดหวังอย่างนั้น อยู่ๆเขาก็ค่อยๆยิ้มอย่างมีความหวัง ก่อนที่จะเงยหน้ามามองพี่ชายของเขาทั้ง 2 และโพล่งปากในทันที
“แต่ว่า..!! ถ้าเฮียไค เฮียคิน ขอกันคนละคัน..แด็ดต้องให้แน่ๆเลย.. ยิ่งพวกเฮียอ่านหนังสือเป็นลังอยู่แล้วด้วย..”
แต่ว่า ทันทีที่คินพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนพี่ชายของเขาทั้ง 2 ไปอย่างนั้น ไคและเค ต่างก็เอาแต่ทำหน้านิ่ง.. ก่อนที่เคจะก้มลงไปอ่านหน้าที่พี่ชายเขาพับไว้ให้อย่างไม่สนใจ ส่วนไคก็เบือนหน้านิ่ง และหันไปมองกระจกแทน
“เฮีย..ผมอยากได้อะ ช่วยผมหน่อยสิ...น้าาาา นะๆๆๆ เฮียไค เฮียเค”
ในเมื่อเด็กน้อยน่ารัก คิดแผนการนี้ได้แล้ว เขาก็ไม่ยอมให้ความคิดเขาสูญเปล่าไปแน่ๆ นั่นเลยทำให้เขาพูดพร้อมกับเขย่าแขนพี่ชายของเขาไปมา และมันก็ทำให้เคเลิกอ่านหนังสือ..ก่อนจะมองไปยังพี่ใหญ่ เพื่อให้ไคตัดสินใจ.. ส่วนไคก็ส่งยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“..อ่านหนังสือเล่มไหนก็ได้จบ 5 เล่ม ภายในอาทิตย์นี้ แล้วตอบคำถามเฮียกับเฮียเคได้..พวกเฮียจะขอแด็ดให้..”
“ฮะ..อ่านหนังสืออีกแล้วเหรอ..ของแด็ดให้อ่านแค่ 3 เล่มเอง..ทำไมของเฮียเยอะจัง”
“….”
“อืมๆ ก็ได้ๆ..แด็ดก็ให้อ่าน เฮียก็ให้อ่าน รวมเป็น 8 เล่มเลยเหรอ เห้อออ..”
มันเป็นอย่างนี้เสมอ ของบ้านหลังนี้ บ้านตระกูลฟรองค์.. บ้านที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษา และพ่อแม่ของเด็กชายทั้ง 3 คนนี้ก็มักจะให้ลูกๆทั้ง 3 อ่านหนังสือทุกวันจนติดเป็นนิสัย..ซึ่งก็มีผลเฉพาะกับคนโตและคนกลาง ที่ชอบหาหนังสือมาอ่านเป็นความรู้ติดตัวเสมออยู่แล้ว แตกต่างจากคนเล็ก ...ที่ทางบ้าน ต้องเอาของรางวัลเป็นรถโมเดลจำลองมาล่อเสมอ..เหมือนอย่างตอนนี้
และด้วยความเจ็บใจเล็กๆ ที่คิน ที่แม้จะวัย 5 ขวบ แต่ต้องอ่านหนังสือความรู้สำหรับผู้ใหญ่อยู่เสมอ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ.. ทำให้เขาอดที่จะแกล้งพี่ชายเขาไปเบาๆไม่ได้
“เอ๊ะ เฮีย!! ผู้หญิงบนสะพานนั้น!”
อย่าคิดว่า เขาเป็นแค่เด็กน้อยวัย 5 ขวบ แล้วจะไม่ได้เป็นคนช่างสังเกต หรือเป็นเด็กที่เอาแต่เล่นไปวันๆไม่เหมือนพี่อีก 2 คน..เพราะแท้จริงแล้ว คินเป็นเด็กช่างสังเกตและรู้ดีว่า..ทุกๆครั้งขณะกลับบ้าน เมื่อถึงตรงสะพานใกล้บ้านทีไร พี่ชายคนโตของเขามักจะหันไปมองออกนอกหน้าต่าง เพื่อมองดูผู้หญิงคนนึงเสมอ
และคำพูดเล่นๆของคิน..ก็ทำให้พี่ชายอย่างไคที่นิ่งแต่ทว่ามีความรักน้องและครอบครัวสูง หยุดยิ้มที่ทำให้น้องชายอ่านหนังสือเพิ่มได้ เปลี่ยนเป็นหันไปมองในทันที..
ควับ!
ตอนแรกคินก็ไม่แน่ใจว่าที่พี่ชายมองออกไปนั้น เพราะผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า แต่อาการของพี่ชายเขาทำให้เขาแน่ใจแล้วว่าใช่.. แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพี่ชายเขามองเธอทำไม แต่ว่าการกระทำของพี่ชายเขาก็ทำให้คินอดที่จะภูมิใจไม่ได้ที่อย่างน้อยก็ทำให้พี่ชายที่ เก่ง หล่อ และเป็นแบบอย่างให้กับเขาและพี่ชายอีกคน เสียอาการได้แบบนี้
“คิกๆๆ ”
เสียงหัวเราะชอบใจ ของน้องชายคนเล็ก ทำให้เขารู้ตัวแล้วว่า..กำลังโดนน้องคนเล็กเล่นเข้าให้แล้ว นั่นเลยทำให้เขาหันไปมองน้องของเขาด้วยความรู้สึกว่า.. เจ้าน้องตัวแสบถี่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร..รู้เรื่องความลับของเขาเสียแล้วสินะ
ความลับ..ที่เมื่อรถขับผ่านตรงสะพานหลังรับกลับจากโรงเรียน จนเกือบจะถึงตัวบ้าน เขาจะต้องหันออกไปนอกหน้าต่าง..เพื่อมองใครบางคนที่เขาเห็นบ้างไม่เห็นบ้างแล้วแต่วัน..
คนที่เขามองนั้น ไม่ใช่คนรู้จักของเขาหรอก แต่ว่าก็ไม่รู้ทำไมว่าเขาถึงเลิกที่จะหยุดมองไม่ได้เลย ...เธอเป็น ผู้หญิงตัวเล็กที่ชอบผูกผมแกะ 2 ข้าง หน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาว..อายุไล่เลี่ยกับเขาเพียงเล็กน้อย ที่ดูแล้วไม่น่าจะมายืนอยู่ริมฟุตบาทตรงสะพานคนเดียวได้ แต่เธอก็มาอยู่บ่อยครั้ง ในช่วงเวลาเย็นๆโผล่เพล้ ใกล้ที่ดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้าไป..
เธอมักจะมายืน ยื่นมือไปสุดแขน และเอานิ้วชี้นิ้วโป้งเล็กๆนั้นทั้ง 2 ข้างมาแตะเข้าหากันจนเหมือนเป็นวงกลม และส่องไปยังดวงอาทิตย์ดวงกลมโตในเวลาช่วงเย็นเช่นนี้..
แม้ว่า เขาจะเห็นเธอแค่เพียงไม่กี่ครั้ง และเขาจะเห็นเธอแค่ไม่กี่วินาที จากการเคลื่อนตัวรถที่เขานั่งอยู่ แต่ว่า.. ภาพแสงอ่อนๆที่กระทบใบหน้าหวานจิ้มลิ้มที่ปรากฏรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอนั้น มันกลับเป็นภาพที่ตราตรึงใจ จนเขา..ไม่อาจจะลืมภาพนั้นได้ และก็อยากมองเห็นในทุกๆวัน..
แต่เขาก็ทำได้แค่นั้น..ทำได้แค่มองดูเธอไม่กี่วินาที และรอลุ้นว่า ทุกครั้งที่กลับบ้าน..เขาจะเจอเธอหรือไม่..ซึ่งวันนี้..เขาไม่เจอเธอ
“สิบเล่ม”
แต่แล้ว..ในขณะที่คินเอาแต่นั่งหัวเราะเล็กน้อย ที่ได้แกล้งพี่ชายเขาสำเร็จ ไคก็หันกลับไปนั่งหน้าตรงปกติ ก่อนจะเอ่ยพูดออกมาเสียงเรียบ..และคำพูดนั้น ทำให้คินต้องหยุดหัวเราะไปทันที..
เพราะนั่นมันเป็นการบ่งบอกว่า.. จาก 5 เล่มที่เขาต้องอ่านภายในอาทิตย์นี้เพื่อแลกกับที่พี่ชายเขาเอาโมเดลรถมาให้เขา ต้องเพิ่มกลายเป็น 10 เล่มแล้วอย่างนั้นหรือ..
“เฮีย..”
“ถึงแล้วครับคุณหนู”
ฟรึบ!
ยังไม่ทันที่คินจะพูดอะไร ..เฮียของเขาก็เปิดประตูรถลงไปเสียแล้ว..แล้วแบบนี้เขาคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากอ่าน 10 เล่มจริงๆสินะ.. พร้อมกับความคิดในหัว ขณะที่เดินลงจากรถไปว่า
เห้อ..ไม่น่าไปแกล้งเฮียไคเลย..ก็รู้อยู่ว่าเฮียไคน่ะ แม้จะใจดีกับน้องชาย แต่บทจะใจร้าย..ก็น่ากลัวสุดๆ
เอาล่ะ..10 เล่มของเฮีย กับ 3 เล่มของแด็ด ภายในอาทิตย์นึง เพื่อแลกกับรถโมเดล 3 ตัว เพราะฉะนั้น...เขาจะสู้!!
