บท
ตั้งค่า

3

“พุทโธ่! คุณหลวงขึ้นฝั่งไปที่ไหน ทำไมไม่บอกผมครับ!?” เสียงตวาดว่าเสียใหญ่โตของหนุ่มร่างเล็กอ้อนแอ้น มือเท้าเอวมองชายในสูทหล่อเหลา วางตุ๊กตาจระเข้น่ารักและถังกลมลายซูเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตลงในฝั่งซ้ายและขวา

“ทำไมล่ะ? ไม่ใช่นักโทษซะหน่อย อยากไปไหนฉันก็ไป...”

“ขืนโดนจับไปผมจะทำยังไง ไถ่ถอนตัวออกมาจากสวนสัตว์ไม่ได้ง่าย ๆ นะครับ นี่... แล้วถ้าเจอคนไม่ดี...”

“ได้โดนถลกหนังไปทำกระเป๋าใช่ไหม? ฉันยังไม่เคยเห็นอะไรที่แกว่ามาสักอย่าง ยุคนี้มันศิวิไลซ์จะตายดูซี... มีทุกอย่าง มือถือ อินเทอร์เน็ต ฉันดูซีรีส์ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ” พูดพลางเคี้ยวป๊อปคอร์นกรุบกรอบรสชาติจืดสนิท นัยน์ตาสีแดงที่มีรูรับภาพแสงคมปลาบราวดวงตาของจระเข้ เหลือบมองหนุ่มร่างเล็กความสูงเพียงระดับบ่า เมื่อเจ้าตัวกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาตัวเดี่ยวข้างกัน ในสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

“คุณหลวงนี่พูดอย่างไร เดือนนู้นก็โดนลูกดอกยาสลบ ซมซานคลานมานอนอืดอยู่หน้าบ้าน ดีนะ กลายร่างเป็นคนเสียก่อนจะได้เป็นหนูทดลองที่ศูนย์วิจัย...”

“พิกลล่ะ ไอ้เข้เกเตอร์จะกลายเป็นหนูได้ยังไงกัน...”

หนุ่มใหญ่ส่งเสียงหัวเราะดัง หน้าโทรทัศน์ขนาดใหญ่กว่าห้าสิบนิ้วในห้องมืดสลัว ไฟจากจอแอลซีดีกะพริบตามการเคลื่อนไหวของนักแสดงในนั้น บ่าวเห็นเจ้านายหยิบโยนข้าวโพดคั่วเข้าปากไม่หยุดหย่อน ตาหลุบมองของบนโซฟาสีดำกำมะหยี่อย่างสงสัย

“แล้วตุ๊กตาอะไรนั่นครับ?”

“ของเด็กน้อย เก็บมาได้ ของฟรี” พูดพลางหัวเราะหึหึในลำคอ บ่าวจึงส่ายหน้าอย่างเอือมระอาปากว่า

“ดูเถอะครับ คุณหลวงไม่เคยฟังผมเลย มีเรื่องวิวาทมาทีไร ไอ้คล้าว ๆ ช่วยกูด้วยโว้ย!”

เลียนเสียงตะโกนแหกปากของเจ้านาย ที่เคยกลายร่างงอกออกมาแค่หาง วิ่งเดือดร้อนมาถึงหนุ่มวัยรุ่นอายุร้อยกว่า ๆ ต้องเข้าไปช่วยปกปิดความลับไม่ให้รั่วไหล

สรีระของนายจันสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร ร่างหนาใหญ่กำยำเท่าฝรั่งตัวโต ๆ ไปไหนมาไหนสาวน้อยใหญ่คอยแต่จะกรี๊ดกร๊าดชอบใจ แม้ว่าเวลากลางวันเขาต้องใส่คอนแทคเลนส์ปกปิดนัยน์ตาสีแดงสดสวยไว้ต่างจากนายคล้าว

บ่าวไม่ใช่ชายร่างสูงใหญ่แต่ก็ไม่อ้อนแอ้นมากนัก ความสูงแค่ประบ่าของนาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนธรรมชาติ กลายร่างแล้วยังเป็นจระเข้ขนาดทั่วไปคือราวสามเมตร

โดยทั่วไปของจระเข้และแอลลิเกเตอร์มีลำตัวประมาณนั้น มากที่สุดในโลกน้ำหนักเกินหนึ่งตันคงประมาณหกเมตรกว่า ซึ่งคงไม่แปลก พวกมันใหญ่ได้มากเท่ากับที่มันกิน ใหญ่ขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดอายุขัยของมัน

ยังมีโอกาสเป็นไปได้ว่าอาจมีตัวที่ใหญ่กว่าสถิติ เพราะว่ายังไม่ได้รับการค้นพบด้วยน้ำมือมนุษย์

คงไม่ต้องพูดถึงนายจันที่มีอายุขนาดนี้ด้วยอิทธิฤทธิ์ของมนตรา ถึงเขาจะไม่ใช่แอลลิเกเตอร์กินจุ ไม่บริโภคเนื้อมนุษย์แต่รับประทานเนื้อสัตว์ เนื้อวัว เนื้อปลา เป็นอาหารหลัก

เรียกว่าเป็นมังสะวิรัต... แอลลิเกเตอร์ไร้พิษภัยดี ๆ นี่เอง

“แกไม่รู้อะไร ฉันไปทัวร์แอมะซอน ตีขาเล่นในแม่น้ำสองสีอันแสนงดงาม ผู้คนแถวนั้นเขาอนุรักษ์สัตว์ ขนาดในน้ำมีปลาปิรันย่า งูอนาคอนด้า ไอ้เข้ตัวเท่าฉันว่ายน้ำข้างเรือนักท่องเที่ยวยังดูชิลล์ ๆ กรี๊ดกร๊าดถ่ายรูปกันสนุกจะตาย”

ตัวเขายังชอบเป็นดาราในน่านน้ำแอมะซอนเสียด้วย แต่นายคล้าวแค่นึกว่ามีแอลลิเกเตอร์ขนาดสิบเมตรมาว่ายน้ำข้างเรือก็เบิกตาอ้าปากค้าง! ขณะฝ่ามือหนาทั้งสองผายออกกว้าง

“ที่นี่... บราซิล!”

“คุณหลวง... ปะ... ไป... ถึงบราซิลเลยหรือครับ!?”

“อืม... ไว้คราวหน้าฉันจะพาแกไปว่ายน้ำเล่นด้วยกันนะ บรรยากาศดีมาก” คนพูดกระตุกยิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจ ขณะที่บ่าวยกมือขึ้นกดกุมขมับเพราะเป็นห่วง ไม่เข้าใจว่าทำไมพักหลังมานี้เจ้านายถึงเที่ยวเก่งเหลือเกิน

ผ่านอะไรมาก็มาก ‘คุณพระ’ นายคล้าวยังเคยเป็นมาแล้ว เฝ้าติดตามนายเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาร่วมร้อยปี ซึ่งตอนนั้นบ่าวคนสนิทของจระเข้ใหญ่คือบิดาของนายคล้าว

นิสัยของจระเข้บ่าวจะเก็บตัวมากกว่าเจ้านายช่างเที่ยว เจียมเนื้อเจียมตัวไม่สุงสิงกับใคร และเป็นเพราะว่าเป็นลูกน้องจระเข้ จึงได้รับอายุขัยเพียงเท่านี้ ไม่เกินสองร้อยถึงสองร้อยห้าสิบปี หากโชคไม่ดีสักหน่อยอาจอายุแค่ร้อยกว่าปีเท่ามนุษย์

“ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง แกคงไม่เคยไปที่ไกล ๆ อย่างคิวบา ออสเตรเลีย แถว Queenland เขาว่ายน้ำกับจระเข้ ถ่ายรูปเซลฟี่ไม่จับไปถลกหนังขายแน่”

“แต่ผมก็ห่วงอยู่ดีนะครับ ยุคนี้มันไม่เหมือนเมื่อร้อยห้าสิบปีที่แล้วนะคุณหลวง”

“ก็แล้วอย่างไรเล่า มันไม่เหมือนเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วด้วย ฉันแก่กว่าแกกี่ปี ฮึ...” ปลายเสียงระอาใจกับการโดนบ่น นายจันรู้สึกไม่ต่างจากว่าตัวเองเป็นเด็กในปกครอง นายคล้าวก็พยายามถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่เข้าไปนั่งข้างเจ้านายด้วยความเกรงใจและให้ความเคารพ หากว่าเป็นเมื่อก่อนบ่าวคงจะนั่งกับพื้นด้วยซ้ำ

“นี่แน่ะครับ... กินเนสบุ๊คส์บันทึกว่าเจ้าโลลองน่ะตัวใหญ่ที่สุดในโลกสักประมาณหกเมตร แต่คุณหลวงใหญ่กว่ามันสองเท่านะครับ ขืนใครมาพบเข้า รับรองว่าโดนจับไปอยู่ในตู้กระจกนู้น คุณหลวงจะโดนสำรวจทุกซอกมุมเชียว”

“จะเป็นไรไป ใจผู้ชายอย่าขี้แย”

“อาคม มนตราคงกระพันป้องกันร่างกายไม่ให้ถูกภยันตรายได้... แต่การแพทย์สมัยนี้ไปไกลนัก มันไม่กันลูกดอกยาสลบ รับรองครับ ทีเดียวหลับ”

“ชิชะ รุ่นนี้น่ะ สามเข็มขึ้น...”

หนุ่มใหญ่หัวเราะร่า เผลอพูดภาษาโบราณตามบ่าวมาสักพักทั้งที่เริ่มชินกับภาษาวัยรุ่นยุคใหม่ไปเสียแล้ว

“ฮึ! ยุ่งพิลึก ถ้าแกว่างนักลองไปนั่งเล่นสตาร์บัค ซึมซับรสนิยมเด็ก Gen-Y เสียบ้างนะ ขืนยังทำตัวโบร่ำโบราณอย่างนี้ คนเขาจะหาว่าแกบ้า! ระวังเถอะ รถโรงพยาบาลมารับไปโรงพยาบาลศรีธัญญา”

หนุ่มหน้าใสทำหน้ายุ่ง ขนาดว่าเขาไม่พูดขอรับหรือคำโบราณมาก ๆ แล้วมันทำไมยังไม่พอ...

“ผมพูดจาไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือครับ?” จากนั้นก็ส่ายหน้ากลับคำพูดอย่างไม่มั่นใจ “เดี๋ยวผมจะไปกรมที่ดินพอดี คงได้ออกไป...”

“ไปเถอะ ฝากจัดการธุระแทนฉันด้วย กลับมาให้ทันตะวันตกดินละกัน”

นายคล้าวได้ยินดังนั้น จึงยกมือไหว้ลาแล้วเดินเลี่ยงออกไป ปล่อยให้เจ้านายอยู่ตามลำพังในห้องทำงาน มินิโฮมเธียเตอร์ที่เจ้าตัวนั่งดูซีรีส์ได้ทั้งวี่ทั้งวัน

บ้านโบราณหลังใหญ่โตริมทางถนนชานเมืองกรุง ภายนอกตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียลขนมปังขิง ในยุคที่เจ้าของบ้านชื่นชอบมันเป็นที่สุด

จากระเบียงชั้นสองมองลงไปเห็นสวนหย่อม ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ มีไม้เลื้อยปกคลุมหน้าต่าง กระจกติดฟิล์มดำสนิททำให้พวกเขาสามารถสังเกตการณ์บุคคลภายนอก แต่มองจากข้างนอกเข้ามาจะไม่เห็นทรัพย์สินข้างในแม้สักชิ้น

ห้องนอนสองห้องอยู่คนละฝั่ง กั้นกลางด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เท่าสระมาตรฐานสองสระรวมกัน หมุนเวียนด้วยระบบน้ำเกลือ มีโคมไฟระย้ารูปทรงหยดน้ำบนเพดาน โดยรอบตกแต่งด้วยน้ำพุที่มีไฟสลับสีกันไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel