บท
ตั้งค่า

1

ภาพไฟลุกท่วมรถยนต์สมรรถภาพเยี่ยมตรงหุบเขาเบื้องล่างสว่างวาบอยู่ตรงหน้านี่เอง ก่อนที่มันจะระเบิดตูมเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง น้ำตาที่ไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะมี ค่อย ๆ ไหลซึมออกจากดวงตาเย็นชาดุจพญาอินทรีย์ของนิรันดร์ อัศวหาญญ์วรกุล ชายหนุ่มยืนมองควันไฟที่พวยพุ่งจากต้นตอเชื้อเพลิงนิ่ง อย่างที่ทำอะไรลงไปมากกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว

คงทำได้เพียงแต่ภาวนา ขอให้คนในรถปลอดภัย และยังคงมีชีวิตอยู่ ขอให้ปาฏิหาริย์บนโลกนี้จงมีอยู่จริง

ภรรยาของเขาต้องไม่ตาย

แต่แล้วความจริงก็ฉายชัดขึ้น เมื่อเขายืนรออยู่อย่างนั้นจนเจ้าหน้าที่นำซากรถพร้อมกับซากของคนที่ติดอยู่ด้านในขึ้นมาได้สำเร็จ ทันทีที่เห็นร่างของภรรยาที่หลังพวงมาลัยดำหงิกจนแทบจำสภาพไม่ได้ นิรันดร์ได้แค่ครางเรียกชื่อเธอแผ่วเบาอย่างคนหมดเรี่ยวแรง กระนั้นเสียงนั่นก็ยังดังก้องไปทั่วทั้งหัวใจของเขา

“ปิ่น!”

นิรันดร์ได้ยินตัวเองตะโกนเรียกชื่อเล่นของภรรยาออกมาอีกคำ ก่อนสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ที่ตามหลอกหลอนมายาวนานถึงสิบสามปี

ขมับของเขาเต้นตุบๆ เป็นจังหวะหนักหน่วงเลยทีเดียว อีกทั้งเหงื่อกาฬยังไหลซึมไปทั่วทั้งศีรษะ คล้ายออกวิ่งมาราธอนเป็นระยะทางแสนไกล เหลือบดูเวลา เพิ่งผ่านเที่ยงคืนมาได้แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น และหากว่าฝันถึงอดีตภรรยาแบบนี้ เขาคงนอนไม่หลับอีกต่อไป

ค่อยลุกจากที่นอน นั่งสงบความคิดและลมหายใจของตัวเอง เดินไปเปิดม่าน มองฝ่าความมืดมิดแบบเดียวกับที่แฝงเร้นอยู่ในหัวใจของเขาออกดู ถึงได้พบเงาลาง ๆ ของม้านั่งตัวโปรดของเธอ ที่แม้จะเก่าจนแทบใช้การไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงให้มันตั้งที่เดิมไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าของเธอยังคงอยู่ที่เดิมอย่างนั้น...ไม่เคยเปลี่ยน

ความเงียบเหงาเกาะกินลึกเรื่อยเข้าไปในหัว จนนึกรังเกียจมัน

ผละหนีความรู้สึกพวกนั้น ตรงไปที่ประตูห้อง ลงไปยังชั้นล่างของบ้าน รินน้ำสีอำพันใส่เกือบเต็มแก้ว แล้วยกดื่มพรวดเดียวจนหมด เหล้าแรงร้อนผ่าวลวกผ่านหลอดอาหารเป็นทางยาวถึงในช่องท้องช่วยดับความรู้สึกเหงาและอ่อนแอในจิตใจได้บ้าง เมื่อนึกถึงภรรยาที่รักสุดหัวใจ

เดินเรียบเรื่อยเอื่อย ๆ ไปที่ห้องนอนของบุตรสาว เปิดประตูเบาๆ เข้าไปยืนมองแก้วตาดวงใจอีกดวงที่นอนพริ้มหลับสนิทบนเตียงนอนก็ให้คลายใจลงมาได้บ้าง แม้จะเสียภรรยาไป แต่เขายังมีบุตรสาวที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออยู่ครึ่งหนึ่งตรงหน้านี่

ดีที่ปลายฝนหน้าตาละม้ายเขามากกว่าจะไปทางแม่ของแก ดวงหน้าสวยคม คิ้วเข้มถอดแบบจากเขาแทบไม่ผิดเพี้ยน แล้วถอนใจเบาๆ เพราะแววตาของแกเหมือนกับอดีตภรรยาที่จากไปแล้วแทบเป็นคนเดียวกัน ดื้อเงียบ บางทีก็ดูเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการบ้าง ยิ้มขืนๆ เมื่อภาพของผู้เป็นภรรยาในอดีตแทรกผ่านเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง หัวตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นอีกแล้ว ยกนิ้วขึ้นบีบมันแน่นๆ แล้วยิ้มปนขำเมื่อแว่วเสียงงึมงำเบาๆ จากบุตรสาวที่หลับอยู่

นิรันดร์เดินเข้าไปมองใกล้ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน ยื่นมือลูบศีรษะบุตรสาว แล้วขยับผ้าห่มคลุมให้เบาๆ ผละจากมา

พาตัวเองออกจากห้องนอนของปลายฝนแล้ว อดไม่ได้ที่จะเข้าไปยังห้องที่เคยเป็นห้องหอของเขากับอดีตภรรยา หยุดยืนมองภาพวาดขนาดใหญ่กว่าตัวจริงเล็กน้อย จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนในภาพนิ่งนาน ความรู้สึกปวดร้าวเพราะการจากลาแปลบปลาบขึ้นในหัวใจของเขาพลันนั้นเอง พร้อมกับคำมั่นที่เขาพร่ำบอกเธอเสมอแว่วผ่านเข้ามาในหัวสมองของเขาอีกครั้ง

‘ผมจะรักคุณเพียงคนเดียว และจะดูแลคุณให้ดีที่สุด ตราบเท่าที่ผมจะมีลมหายใจ

“ใช่ๆแบบนั้นเลย ที่เคยเห็นเขาทำในคลิปอ่ะ ภูต้องดันเข้ามาอีกสิ ดันอีกนิด อ๊ะ! ทำไมมันเจ็บจังเลยล่ะภูผา” เสียงกำกับจากปากเล็กช่างจำนรรจาสีชมพูจางที่เบื้องล่างนั่น ทำเอาเด็กหนุ่มร่างหนากว่าที่คร่อมทับอยู่ด้านบนต้องหยุด ออกปากแย้งด้วยเสียงแตกพานตามวัย

“เราไม่ควรทำ...แบบนี้เลยฝน” พูดแล้วก็อายอยู่ไม่น้อย

“เถอะน่า ทำเร็วๆ เข้า ก่อนที่จะ...โอ๊ะ! โอย มันตึงมากเลยภู แล้วก็ แล้วก็เจ็บนิดๆ ด้วย” เด็กสาวร้องโอดโอย เขย่าเสียงเล็กน้อย พร้อมยิ้มทะเล้นใส่เด็กหนุ่มที่ใช้ร่างหนากว่าดันตนเองอยู่ เร่งให้อีกฝ่ายออกแรงโถมใส่มากขึ้นอีก ยิ่งเห็นใบหน้าอีกฝ่ายแดงจัด ก็ยิ่งสนุก

“ภูรีบดันเข้ามาอีกสิ ดันอีก ดันเข้ามาอีก อีกนิดภูผา อ๊ะ...”

ภูผามองใบหน้าน่ารักของเด็กสาวที่นอนหน้าแดงอยู่เบื้องล่างใต้เรือนกายของตนก็เรียกอย่างเป็นห่วง หน้าของเขาเองก็แดงไม่แพ้กัน

“ไหวแน่นะฝน”

“เถอะน่า ดันอีก อีกนิดเดียว”

“แต่ภูว่าเราทำแบบนี้...ไม่...”

“ไม่ต้องแต่ ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น ทำเถอะ เร็วๆ เข้า”

“ก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มอ้อมแอ้มบอก โหนกแก้มกลายเป็นสีแดงจัด ปลายฝนมองแล้วนึกชอบใจใหญ่ บอกต่ออีกนิด

“อืม...มันเจ็บ แต่รู้สึกดีมากเลยนะภู ถึงว่าคนเขาถึงชอบทำกัน”

เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนี ถามเสียงอ่อย “พอหรือยังครับ”

“อีกนิดสิคะภู อืม…ดีจังเลย เราน่าจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้วนะว่าไหม”

เด็กหนุ่มหันขวับมามอง ส่ายหน้า ทำตาดุใส่

“ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ต่อไปภูจะไม่ตามใจฝนแบบนี้อีกแล้วนะ”

“ทำไมพูดแบบนี้ ไหนตอนเราตกลงคบกัน ภูบอก จะตามใจฝนทุกอย่างไง”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ...” เสียงห้าวแหบแตกพานเอ่ยอย่างอ่อนใจ

“เงียบไปเลยภูผา พูดแบบนี้แสดงว่าจะเลิกคบกันใช่ไหม”

สิ้นเสียงถอนลมหายใจอย่างจนปัญญาของเด็กหนุ่ม

ประตูห้องนอนถูกไขกุญแจเปิดทันที พร้อมร่างสูงใหญ่ราวภูเขาเฉียดสองเมตรยืนจ้องเด็กวัยรุ่นชายหญิงสองคนบนพื้น

วินาทนั้นเองที่ใบหน้าของชายคนนั้นขรึมเข้ม แววตาดุดันเหมือนแผดเผาทุกสิ่งอย่างได้ด้วยประกายตาของตนเอง ก่อนที่ชายฉกรรจ์อีกสามคนจะโผล่พรวดตามหลังมา พอเห็นเหตุการณ์ในห้องแล้ว ก็ต่างพากันหลบไม่กล้ามองต่อ บางคนรีบหันไปทางอื่นทันที

เสียงเข้มถามดังขึ้น เมื่อเห็นร่างของบุตรสาวนอนหงายบนพื้นโดยมีเด็กหนุ่มไม่คุ้นหน้าคร่อมทับอยู่ด้านบน

“นั่น...ทำอะไรกัน”

เด็กหนุ่มขยับตัวออกราวกับร่างนุ่มนิ่มที่คร่อมเมื่อครู่คือของร้อนจัด ปลายฝนยังคงนอนหงาย เจ้าตัวยันศอกมองมาที่บิดา ถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด สีหน้าไม่พอใจอยู่พอสมควร

“คุณพ่อใช้กุญแจไขเข้ามาในห้องของลูกแบบนี้ได้ยังไงคะ คุณพ่อกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวอยู่นะคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel