Chapter 10 อย่าไล่ผมได้ไหม
*ร้านชนแก้ว
ในขณะที่คนเรากำลังเศร้ามากๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยนะ ว่าเหล้าคือทางออกอย่างหนึ่งจริงๆที่จะทำให้เราลืมเรื่องบางเรื่องไปได้ และนั่นแหละ ฉันถึงพาวีวี่มาที่นี่ ฉันพามันมากินเหล้า ถึงฉันจะยังแอบเคืองมันอยู่ แต่นาทีนี้ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันไปไหนต่อไหนตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ ฉันปล่อยมันไปแบบนั้นไม่ได้หรอก
และที่ๆฉันพามันมาคือร้านเหล้า เป็นร้านเหล้าแบบนั่งชิลล์ มีดนตรีสดและมีอาหารให้กิน ฉันไม่ได้พามันเข้าผับหรือบาร์อะไรหรอก เพราะสภาพมันไม่ได้ไง และที่ฉันเลือกมาที่นี่เพราะว่ามันมีห้องคาราโอเกะให้ด้วย วีวี่มันเพิ่งร้องไห้มาหมาดๆนะ สภาพหน้าไม่ได้โอเคเท่าไหร่ ฉันว่าที่นี่แหละดีสุดแล้ว ฉันเลือกพาวีวี่ไปที่ห้องคาราโอเกะของร้านที่มีความเป็นส่วนตัวและปล่อยให้มันได้เต็มที่กับความเสียใจของมันเพราะผู้ชายเฮงซวย
สวบ~
แต่เดี๋ยวนะ...
ขวับ~
"นายตามมาทำไมเนี่ย?"
ใช่ เรย์ตามฉันกับวีวี่มาทำไมเนี่ย ฉันคิดว่าเขาขับรถแยกกลับบ้านไปแล้วนะ
"ผมเป็นห่วง"
เขาตอบออกมา
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร และเพื่อนฉันคนเดียวฉันดูแลได้"
"ผมหิวด้วย"
"ห้ะ?"
"ก็ผมรีบตามพี่ออกมา เลยไม่ได้กินข้าว"
ฉันกรอกตาและถอนหายใจ เขานี่มัน!
"เดี๋ยวก่อนนะ"
ฉันหันไปมองวีวี่ที่ตอนนี้เช็ดคราบน้ำตาออกไปจนหมดแล้ว มันมองหน้าฉันกับเรย์สลับกัน
"ตอนนี้ฉันงงละนะ"
"..."
"น้องชื่อเรย์เจ้าของอู่รถที่ลิสเอาไปซ่อมใช่มั้ยคะ"
"อ่า ครับ"
"แล้วยังไงอ่ะ ทำไม..."
"เออ แกไม่ต้องถาม ฉันพามากินเหล้านะเว้ย หาไม่ได้แล้วนะโอกาศแบบนี้ แกเข้าไปนั่งรอข้างในเลย ฉันจะไปสั่งออเดอร์ก่อน"
ฉันพูดพลางดันวีวี่เข้าไปในห้องคาราโอเกะและเลื่อนประตูปิดพร้อมกับเงยหน้ามองเรย์
"ส่วนนาย ตามฉันมานี่"
พูดจบฉันก็เดินนำเขาออกมาเพื่อจะไปสั่งออเดอร์ให้ไปส่งที่ห้องคาราโอเกะและก็จะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง เพราะฉันรู้สึกว่าเขาตามติดฉันเกินไปแล้วนะ
หลังจากสั่งเหล้าและกับแกล้มเรียบร้อยแล้วฉันก็หันไปเพื่อจะพูดกับเขา
"นาย..."
"ผมไม่ชอบกินข้าวคนเดียว"
แต่เขากลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน
"มันเหงานะครับ"
"เพื่อนนายล่ะ นายก็มีเพื่อนนี่"
"ป่านนี้แล้ว พวกนั้นกลับบ้านกลับช่องไปหมดแล้วครับ มันมีครอบครัว มีแฟนกันหมด เหลือแต่ผมนี่แหละที่ไม่มีใคร"
"ก็ไม่หาสักคนเล่า"
"หาอยู่ต่างหากล่ะครับ"
เขาหลุบตาลงมองฉันพลางยกยิ้มนิดหน่อย ฉันเบนหน้าหนีเขา
"ก็ไปหาไกลๆ จะไปหาที่ไหนก็ไป"
"พี่อย่าไล่ผมแบบนี้ได้มั้ย"
"..."
"รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีใครต้องการเลย"
แล้วทำไมจะต้องมาพูดให้ตัวเองดูน่าสงสารขนาดนั้นด้วยเล่า ฉันไม่ใช่คนขี้สงสารนะ
"ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจหรือเปล่า"
"ก็ที่นายทำอยู่นี่ไง"
"..."
พอฉันพูดไปแบบนั้นเขาก็เงียบไปเลย เขาหลุบตาลงพลางพยักหน้าเบาๆ
"โอเคครับ เข้าใจแล้ว"
"..."
"งั้น...ผมไปก่อนนะ"
"..."
ฉันไม้ได้พูดอะไร สิ่งที่ทำคือแค่หันหลังในจังหวะที่เรย์ก็หันหลังไปอีกทางเช่นกัน ฉันก้าวขาเดินไปทางห้องคาราโอเกะโดยไม่ได้หันกลับไปมองแม้เสี้ยวเดียวว่าเรย์จะเดินไปอีกทางหรือยัง
ใช่ แบบนี้ถูกแล้ว เพราะมุกของเขาใช้กับฉันไม่ได้ผล ไม่ว่าเขาจะมาในรูปแบบไหนก็ตาม มันจะใช้กับฉันไม่ได้เลย
1 ชั่วโมงผ่านไป...
"ลลิสสส"
วีวี่เรียกฉันที่กำลังดื่มเหล้าเป็นเพื่อนมันขึ้น และแน่นอนว่าวีวี่เมามากแล้วในขณะที่ฉันก็กรึ่มๆเหมือนกัน วีวี่เมาเร็วมากก็เพราะมันเล่นกินไม่พักเลยนี่ และพอมันกินเข้าไปมันก็มีร้องไห้เสียใจและพร่ำเพ้อถึงไอ้เฮงซวยน็อตนั่นอยู่บ้าง วีวี่พูดออกมาทั้งหมด ซึ่งฉันก็เข้าใจ เพิ่งจะเลิกกับคนที่รักนี่นะ แถมยังถูกหลอกอีกด้วย
และหลังจากนี้ฉันตั้งใจจะพาวีวี่กลับไปพักที่บ้านของเฮียโจก่อน แล้วที่เหลือค่อยคิดกันต่อ
"ลิสสส อึก"
"อะไร แล้วแกจะร้องไห้ทำไม"
ฉันถามออกไปพลางมองยัยวีวี่ที่นั่งอยู่ข้างๆและเริ่มน้ำตาคลอ
"ขอโทษ ฮึก"
"..."
"ฉันขอโทษที่โกหก ขอโทษที่ไม่บอก เพราะฉันรรู้ ถ้าแกรู้ว่าฉันกลับไปคบกับมานนน แกต้องไม่พอใจเลยยย"
"แล้วที่ฉันมารู้ที่หลังล่ะ แกคิดว่าฉันโอเคหรือเปล่า"
วีวี่พูดถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้ฉันนอยต์มันขึ้นมาอีกแล้วล่ะ
"ขอโทษ ขอโทษจริงงง"
วีวี่เขย่าแขนฉันพลางเอนหัวมาซบไหล่ฉันอย่างออดอ้อน
"ต่อไปนี้ไม่มีแล้ว ต่อให้มันมากราบฉัน ฉันก็ไม่ไปปป"
"..."
"ยกโทษให้ฉันนะ ฉันมีแค่แกคนเดียว ฉันผิดไปแล้ว อึก"
เห้อ เคืองก็เคือง สงสารก็สงสาร ยัยเพื่อนบ้าเอ๊ย!
"ลิสจ๋าาา"
"เออ พอได้แล้ว"
"ไม่โกรธฉันแล้วจริงๆนะ อึก"
วีวี่ยืดตัวขึ้นพลางยกยิ้มทั้งน้ำตา ฉันเหลือบมองมันก่อนจะพูดต่อ
"อืม ก็อย่าทำอีกแล้วกัน ฉันรักแกนะถึงได้เตือน แกยังสามารถเจอผู้ชายดีๆได้อีกเยอะ อย่าเอาชีวิตไปตกต่ำกับคนพรรคนั้นเลย"
"อื้อ ไม่เอาแล้ว เจ็บจะตาย ไม่เอาแล้ว"
ฟลุ่บ~
ฉันดึงวีวี่มากอดพร้อมกับลูบแผ่นหลังมันอย่างปลอบโยน
"ต่อไปนี้ขอให้แกเจอคนดีๆนะ"
"แกก็เหมือนกันนน"
วีวี่กอดตอบฉัน
"พรุ่งนี้ฉันจะมูฟออน ฉันจะหาผัวใหม่"
"ไม่ต้องรีบก็ได้มั้ง"
"ฮิๆๆ~"
วีวี่หัวเราะออกมาทั้งคราบน้ำตาพลางหันไปกระดกเหล้าอีกรอบ ฉันส่ายหัวกับมันก่อนจะพูดขึ้น
"หมดขวดนี้กลับกันได้แล้วนะ เริ่มดึกแล้ว"
"เค๊"
"ฉันจะไปห้องน้ำ แกจะไปด้วยมั้ย"
"ม่าย จะร้องเพลง"
วีวี่ส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า ฉันพยักหน้าพลางจับไหล่มันให้หันมามองหน้า
"ห้ามเดินออกไปไหนนะ"
"เดินม่ายหวายแล้วเพื่อนนน ฉันลุกไม่ไหวแล้ว"
"เดี๋ยวฉันมา แป่บเดียว ห้ามไปไหนนะ เข้าใจนะ"
"โอออเค๊"
หลังจากสั่งห้ามวีวี่แล้วฉันก็รีบออกจากห้องไปเข้าห้องน้ำเพราะฉันปวดฉี่มาก อีกอย่างวีวี่มันเมามากแล้วฉันไม่ไว้ใจปล่อยมันไว้นานหรอ ดีที่ห้องน้ำก็อยู่ไม่ไกล แต่ยังไงซะฉันก็ต้องรีบไปรีบมาล่ะ
5 นาทีต่อมา...
หลังจากเข้าห้องน้ำเรียบร้อยฉันก็เดินกลับมาที่ห้องคาราโอเกะทันที
ครืด~
"วี่..."
กึก~
แต่ฉันก็ต้องชะงักเพราะว่าตอนนี้วีวี่ไม่ได้อยู่ในห้อง วีวี่มันหายไปไหนก็ไม่รู้!
ครืด~
ฉันวิ่งออกจากห้องทันทีเพื่อจะไปตามหาเพื่อน ฉันตรงดิ่งไปหาพนักงานของร้านในส่วนนี้เพื่อจะแจ้งกับเขาว่าเพื่อนฉันหายไป
และในขณะที่ฉันกำลังบอกลักษณะท่าทางของวีวี่กับพนักงานอยู่
ปึ้ก~
ทั้งฉันและพนักงานก็ต้องหันไปในโซนของห้องคาราโอเกะทันทีเพราะว่าห้องคาราโอเกะตรงข้ามกับฉันมีผู้ชายคนหนึ่งกระเด็นออกมาจากห้องไปกระแทกกับผนังอย่างแรง
"เกิดอะไรขึ้นครับ!?"
พนักงานรีบถลาเข้าไปถามทันที แต่คนที่นอนกองอยู่กับพื้นยังไม่ทันได้ตอบอะไร ฉันได้ยินเสียงของเพื่อนฉันที่ฟังจับใจความไม่ได้ดังออกมาจากห้องนั้น
"วีวี่"
ฉันรีบวิ่งเข้าไปทันที แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเพื่อนของฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งหิ้วปีกออกมา
"เรย์!"
เป็นเขาอีกแล้ว...
"ไอ้พวกนี้มันลากผู้หญิงเข้าไปในห้อง"
เรย์หันไปพูดกับพนักงาน ฉันที่เข้าไปประคองวีวี่หันไปมองในห้องของพวกนั้น เห็นว่ามีผู้ชายร่างผอมอยู่อีกสองคน ทั้งสองคนมีสภาพเหมือนคนเมาที่ถูกกระทืบ รวมถึงอีกคนที่กองอยู่ข้างผนังด้านนอกด้วย
อย่าบอกนะว่าเรย์เป็นคนจัดการพวกเขา
"จัดการด้วยนะครับ!"
เขาพูดอีกพลางกดสายตามองพวกนั้นแล้วหันมามองหน้าฉัน ฉันเองก็มองหน้าเขาเหมือนกัน ฉันคิดว่าเขากลับไปแล้ว ถือว่าเป็นโชคดีของวีวี่สินะ เพราะถ้าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้...
"ครับ ได้ครับ เราจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย"
"วี่ แกเป็นไรมั้ย"
ฉันถามวีวี่ที่ตอนนี้ฤทธิ์เหล้าทำให้มันเมามากจนแทบไม่มีสติแล้ว
วีวี่ส่ายหัวให้ฉันเบาๆพลางทิ้งตัวลงมาหาฉันทั้งตัว เล่นเอาฉันที่ยังไม่ทันตั้งตัวถึงกับเซ
ฟลุ่บ~
แต่เรย์ก็ตวัดเรียวแขนมารั้งเอวฉันเอาไว้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
"ผมช่วยครับ"
เขาบอกกับฉัน ก่อนจะคลายมือที่รั้งเอวฉันออกไป ฉันมองหน้าเขาและจำต้องพยักหน้ายอมรับการช่วยเหลือของเขาในครั้งนี้
