ตอนที่ 5 อ้อนแบบนี้...จะไม่รักได้ยังไง
“ทานอะไรมารึยัง?”
อคิราห์หันไปถามน้องสาวที่กำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองเธออยู่ไม่วางตา พร้อมรอยยิ้มที่ฉายชัดถึงความหลงใหล
“เอยทานข้าวมาแล้วค่ะ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตอบพี่ชายก่อนจะก้มกลับไปดูโทรศัพท์เหมือนเดิม
อคิราห์หันไปทางเพื่อนที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“แล้วมึงล่ะ ภูผา หิวรึยัง?”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ แต่ยังคงจ้องมองหญิงสาวอย่างเคลิ้ม ๆ ราวกับถูกสะกด
“ไอ้ภูผา!”
เสียงเรียกดังลั่นของอคิราห์ทำให้เจ้าตัวสะดุ้ง รีบหันมามองเพื่อน
“อะไรของมึงเนี่ย เรียกเสียงซะดัง”
ชายหนุ่มบ่นอุบ พลางยกหมอนขึ้นมากันตัวเองไว้เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะปาปากกาใส่
“กูเรียกตั้งนาน มึงเอาแต่นั่งเหม่ออยู่นั่นแหละ”
อคิราห์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ภูผานึกขึ้นได้ก็เพราะเขาเอาแต่นั่งมองใบหน้าอ่อนหวานของหญิงสาวจนลืมโลกไปเลย
“แล้วมึงเรียกกูทำไม?”
ชายหนุ่มถามเสียงห้วน ตาเหลือบมองไปที่หญิงสาวอีกครั้ง
“ถามว่ามึงหิวรึยัง กูกำลังจะชวนไปหาอะไรกิน”
“หิวดิ”
ภูผาตอบทันที ก่อนจะหันไปถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนลงจนคนฟังแอบขนลุก
“แล้วหนูเอยหิวรึยังคะ?”
คำว่า ‘คะ’ ทำเอาอคิราห์เกือบหักปากกาในมือตัวเอง
“เอยทานข้าวมาแล้วค่ะ...แต่เอยอยากกินขนมค่ะ”
เธอตอบพร้อมรอยยิ้มหวานที่เล่นเอาคนฟังใจสั่น
“งั้นไปครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
ภูผาลุกขึ้นและกำลังจะยื่นมือไปจับมือหญิงสาว ทว่า...
“หยุดเลยมึง อย่าเข้าใกล้น้องสาวกู”
อคิราห์รีบดึงแขนน้องสาวเข้าหาตัว กั้นไว้ด้านหลังราวกับประกาศเขตหวงห้ามอย่างชัดเจน
“เอ่อ... อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ”
เสียงหวานของเอยดังแทรกจากด้านหลัง ทำให้พี่ชายเริ่มใจเย็นลงเล็กน้อย
“เอยอยากกินขนมใช่มั้ย เดี๋ยวพี่พาไปเอง”
เขาหันมาพูดกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด
“กูไปด้วย”
ภูผาแทรกขึ้นมาทันที
“ไปกันหมดนี่แหละค่ะ”
หญิงสาวหันไปพูดกับชายหนุ่ม พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของภูผาเต้นแรงขึ้นอีกระดับ
“อืม… ก็ได้”
อคิราห์ตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
“งั้นไปกันเลยนะคะ เอยหิวแล้ว”เธอพูดพร้อมกับคว้าแขนพี่ชาย แล้วดึงให้เดินนำออกไปจากห้อง ส่วนภูผาก็รีบลุกตามหลังสองพี่น้องไปทันที
ณ ห้างสรรพสินค้า
“พี่โอบ~ เอยอยากกินอาหารทะเลจังเลยค่ะ”
หญิงสาวกอดแขนพี่ชายแน่น ทำหน้าออดอ้อน ดวงตากลมใสเป็นประกายคล้ายลูกแมวอ้อนของเล่นใหม่
“ไหนบอกว่าอยากกินขนมไง”
อคิราห์พูดพลางหยิกแก้มนุ่มของน้องสาวเบา ๆ เขาจำได้ว่าเมื่อกี้เธอบอกว่าทานข้าวมาแล้ว แต่อยากกินขนม เขาถึงได้พามาหาอะไรหวาน ๆ ทาน แต่พอมาถึงกลับเปลี่ยนใจอยากกินอาหารทะเลเฉยเลย
“ก็ตอนนั้นอยากกินขนม... แต่ตอนนี้อยากกินกุ้งตัวโต ๆ ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มกว้าง กุ้งคือของโปรดของเธอ กินได้ไม่มีเบื่อ
“ได้ครับ”
อคิราห์ตอบรับทันทีโดยไม่ลังเล
หญิงสาวดีใจจนเผลอกระโดดกอดแขนพี่ชายแน่น ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปหอมแก้มเขาเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มสดใส
“พี่โอบน่ารักจังเลย...ฟอด~”
จากนั้นเธอก็หันไปหาชายหนุ่มอีกคนที่เดินมาด้วยกัน
“เอ่อ... พี่ผากินอาหารทะเลได้ไหมคะ?”
เธอถามด้วยความเกรงใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะแพ้อาหารทะเล
“ได้ครับ”
ภูผายิ้มตอบ รอยยิ้มนั้นเล่นเอาหญิงสาวใจเต้นวูบวาบ เธอรีบเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน
“เอ่อ... งั้นเรารีบไปกันเถอะค่ะ เอยหิวมากแล้ว”
เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วเดินนำไปที่ร้านอาหารทะเลทันที
ภูผาหันไปมองเพื่อนด้วยแววตาอิจฉาเล็ก ๆ
“มึงนี่ก็ยอมน้องทุกอย่างเลยนะ”
เขาพูดเหมือนจะล้อ แต่ในใจก็อยากโดนอ้อนแบบนั้นบ้าง ยิ่งน้องสาวเพื่อนอ้อนเก่งแบบนี้ เขายอมให้ทั้งตัวและหัวใจเลย
“ก็น้องกูอ้อนซะขนาดนี้ เป็นมึง มึงจะใจแข็งลงเหรอ?”
‘ไม่ยอมก็บ้าแล้ว...’
ภูผาไม่ได้ตอบ แต่คิดในใจเต็มไปด้วยภาพหวาน ๆ ถ้าเธออยากได้อะไร เขาก็พร้อมหามาให้ทุกอย่าง ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสแบบนี้อีกก็พอแล้ว
“รีบเข้าไปเหอะ กูหิว”
อคิราห์พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินตามน้องสาวเข้าไปในร้าน
พอเดินเข้ามา ก็เห็นหญิงสาวนั่งสั่งอาหารอย่างรวดเร็วโดยไม่รอใคร
“สั่งไม่รอพี่เลยนะเรา”
อคิราห์เดินเข้ามาขยี้ผมน้องสาวด้วยความหมั่นเขี้ยว เห็นของกินแล้วลืมพี่ชายซะสนิท
“ฮ่า ๆ เอยลืมไปเลยว่าพี่มาด้วย”
เธอหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
ภูผาที่นั่งเงียบมองอยู่ ก็อดยิ้มตามไม่ได้ เด็กคนนี้สดใสน่ารักเกินไปจริง ๆ ดื้อเงียบด้วยนะ แต่เป็นความดื้อที่น่าเอ็นดู ไม่ใช่น่ารำคาญ
ถ้าเขาจีบเธอติด... ชีวิตเขาคงมีแต่สีสัน
เธอเป็นคนร่าเริง มีพลังบวก เหมือนแสงแดดอ่อน ๆ ที่ทำให้วันธรรมดาดูอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ
หรือเขาจะกำลังคลั่งเธอเกินไปแล้วจริง ๆ ก็ไม่รู้...
