พิษสวาทมาเฟีย

87.0K · จบแล้ว
พิมพ์ชนก
56
บท
21.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ป๋านิค x หนูมายด์ร่างสวยเย้ายวน กลิ่นหอมละมุน ขยับหนีไปจนมุมตรงพนักโซฟา คนไล่ที่ต้องการกินไม่ละพยายามในการขยับตาม ยกแขนวางบนพนักพิง คล้ายโอบกอดคนขี้กลัว“ชื่ออะไร” เหมือนแกล้งถามทั้งที่รู้จักเธอจากปากผู้จัดการ แต่ก็อยากถาม อยากได้เสียงหวานๆ ตอบเขาด้วยปากเธอเอง“มะ...มายด์ค่ะ” นกน้อยตอบด้วยเสียงสั่นเครือ“มะ...มายด์ค่ะ ชื่อแปลกดีนะ” มาเฟียตัวใหญ่ยี่ยวนนิดๆ ชื่อน่ารักสมตัว พูดไปอย่างนั้นเองว่าชื่อแปลก มายด์ก็น่าจะหมายถึงใจ“เอ๋...ไม่ใช่ค่ะชื่อมายด์เฉยๆ เรียกมายด์ได้ค่ะ” ไม่ใช่มะ...มายด์ซะหน่อย“มายด์ก็พอ” เขาทวนชื่อมายด์ก็พอ“อีตาบ้า” ตวาดเขาเสียงขรม พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ในถ้ำเสือ ไม่ควรแสดงความเกรี้ยวกราด จึงลดเสียงแว๊ดลง “ฉันหมายถึงฉันชื่อมายด์ค่ะ” บอกชื่อตัวเองอีกหน ไม่ต้องอยากทราบชื่อจริงนะ แค่มายด์พอแล้ว เธอไม่ได้เตรียมชื่อเข้าวงการมา บอกผู้จัดการตามประวัติที่ยื่นสมัครงานมายด์เท่านั้น“อ้อ...นึกว่ามายด์ก็พอ” ยียวนผิดวิสัยในแบบเมนนิโคมาเฟียเถื่อน ไม่รู้สิอยากกวนเธอซะอย่างนั้น ตอนนี้เขานึกว่านั่งอยู่ข้างขนมปังกลิ่นวานิลลาเป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร นึกหิวขึ้นมาซะแล้วสิ รสชาติเป็นเป็นยังไงน๊า คนตัวใหญ่แอบคิดเหมือนเด็กหิวขนม

นิยายรักโรแมนติกนิยายแอคชั่นนิยายรักนิยายปัจจุบัน

ตอน 1

ท้องฟ้าฉาบทาด้วยสีม่วงเข้ม เพื่อเข้าสู่ชีวิตกลางคืน อีกคืนแล้วสินะสำหรับใครหลายคน ขณะเดียวกันนางสาวมธุรดา วิรากานต์กำลังตั้งหน้าตั้งตาบึ่งรถคันใหญ่ ไปขอยืมจากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ลำพังเธอเหรอไม่มีปัญญาขับรถหรูขนาดนี้แน่นอน อาศัยระบบขนส่งสาธารณะประจำ

ครั้นพอบึ่งรถมาถึงลานจอดรถท่าอากาศยานนานาชาติ มธุรดาสอดสายตามองหาที่จอดรถ วนอยู่สองสามรอบ จึงโชคดี รีบถอยเข้าไปจอดตรงซองพอดี ในรอบเดียวไม่ต้องขยับซ้ายขวาหน้าหลัง เหมือนอีกคันที่ขยับเข้าๆ ออกอยู่หลายครั้งกว่าจะตรงซอง เมื่อจอดรถนิ่งสนิท ร่างบางรัดรึงในกางเกงยีนสีซีดรัดรูป เข้ารูปร่างเย้ายวนเอวคอด สะโพกงอนงาม กับเสื้อยืดสีขาวคอกลม ก้าวลงจากห้องโดยสารอย่างคล่องแคล่ว

ก่อนถึงเวลาขอเข้าไปเติมกาเฟอินในร้านกาแฟสักหน่อย เมล็ดกาแฟสดอราบิก้าเตะจมูกโด่ง จนต้องย่นจมูกฟุดฟิด กลิ่นกาแฟส่งให้ชีพจรลงเท้า ก้าวเข้าไปยืนต่อแถวกับลูกค้าคนอื่น เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน เพราะกว่าจะได้นอนเกือบรุ่งสาง จากภารกิจท่านผู้ใหญ่ใจดีมอบหมายให้ไปจัดการ ยิ่งตอนนี้จำต้องถ่อสังขารทรุดโทรม มารับเพื่อนสนิทที่มันไม่ยอมใช้งานคนในครอบครัว เจาะจงต้องเป็นเธอเท่านั้น

“ขอคาปูชิโนแก้วหนึ่งค่ะ” เสียงหวานสั่งพนักงานเมื่อถึงคิว มีคิวก่อนหน้าเพียงคิวเดียวจึงรอไม่นาน ระหว่างยืนรอหันมองไปรอบร้าน ซึ่งตกแต่งห้อมล้อมไปด้วยกระจกบานใส มองเห็นรอบด้าน สายตาไปสะดุดกับบุรุษแต่งกายดีเยี่ยม สวมสูทสีดำภูมิฐาน สายตาวาววามจับจ้องกับทัศนียภาพเจริญตาไม่วางตา

ทีแรกสายตาซุกซน ช่างสังเกตจับจ้องสำรวจร่าง นอกกระจกบานใหญ่ของร้านกาแฟ โดยรวมๆ แต่เมื่อเห็นเครื่องหน้าคมเข้มล่ำสันชวนสะดุดตา กระตุ้นสายตาไล่สำรวจส่วนอื่น บนร่างสูงสง่านั้นถ้วนทั่ว สายตาซุกซนช่างสำรวจค่อยๆเลื่อนไปตามรูปร่างสูงใหญ่ หุ่นไซต์ยุโรปด้วยความเผลอไผล ปกติมธุรดาไม่ค่อยเผลอไปกับความทรงเสน่ห์ของบุรุษเพศ เพราะชีวิตเธอท่องไว้จนขึ้นใจ หาเงินและทำงานให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัว เมื่อไล่สายตาขึ้นไปเรื่อยๆ สายตาจอมซ่าจึงไปสะดุดกับไรเคราเขียวครึ้ม เหตุนี้จึงสะกดสายตามธุรดาให้จับจ้อง มองอยู่ตรงนั้นนิ่งนาน ราวกับค้นพบขุมทรัพย์มหาศาล

“คุณคะ คาปูชิโนได้แล้วค่ะ” เสียงพนักงานเรียกลูกค้า เมื่อออเดอร์ที่สั่งเรียบร้อย “คุณคะ” ยังเห็นว่าลูกค้าคนสวยยังคงนิ่งไม่ยอมหมุนมารับแก้วกาแฟ จึงเรียกซ้ำการเรียกครั้งที่สอง ลูกค้าคนสวยก็ยังนิ่ง เหมือนถูกสะกดจิตกับอะไรสักอย่าง

“ขา...ขาว่าไงคะ” เมื่อถูกพนักงานสะกิดมธุรดาสะดุ้ง กระพริบตาๆ ถี่ ไล่ภาพน่าหลงใหลนั้นทิ้ง อย่างน่าเสียดาย

“กาแฟได้แล้วค่ะ”

“อ้อ ขอบใจจ้ะ” มือบางยื่นไปหยิบแก้วกาแฟกระดาษกระดาษทรงสูง พิมพ์ลวดลายโลโก้ชื่อร้าน ที่หลายๆ คนคุ้นเคย ยื่นเงินค่ากาแฟให้พนักงานรอรับเงินทอน หมุนกายกลับมายังทัศนียภาพเจริญตาตามเดิม ทว่าภาพที่วาดหวังไว้จะได้แอบมองอีกครั้งกลับหายไป

มธุรดาได้แต่ส่ายสายตาหาเจ้าของร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมเข้มที่เห็นเพียงครั้งแรกสะดุด จนไม่อยากถอนสายตาจากภาพนั้นได้

“ให้ตายเถอะ คนอะไรหล่อชะมัด” เรียวปากชมพูวาวด้วยลิปกลอส ขยับพร่ำกับตัวเองเสียงแผ่ว หัวใจดวงน้อยแต่แกร่งกล้าเต้นโครมคราม ไม่ต่างกับวงดนตรีร็อก ระเบิดความมันอยู่ในอก เพียงแค่นึกมโนภาพใบหน้าอุดมไปด้วยความหล่อ ทั้งที่ยังเห็นไม่เต็มหน้า หญิงสาวยังพบว่าเจ้าของดวงหน้านั้น ช่างหล่อขาดบาดใจ กระชากสายตาที่ไม่เคยเผลอไปกับความหล่อผู้ชายใดง่ายๆ ครั้นครั้งนี้เผลอมองจนลืมกาแฟที่สั่งไว้ แถมตอนนี้ไม่ต้องพึ่งพาคาปูชิโนแก้วใดด้วยซ้ำ

ข้อมือยกขึ้นดูเวลา เอาล่ะคงถึงเวลาเดินไปรอ อีตาปาณัท ร่มธรรมแล้ว จึงสาวเท้าไปตรงที่รอผู้โดยสารขาเข้าในมือถือแก้วกาแฟปิดฝา ยังไม่ได้ดื่มสักหยด สาเหตุจากภาพผู้ชายคนนั้น ทำให้เธอตาว่างหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แต่เพราะความเหม่อลอยใบหน้าใครคนนั้น ติดอยู่ตรงม่านตาทำให้ไม่สนใจสิ่งต่างๆ รอบด้าน

“ว้าย !!!” เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจ ตามสัญชาตญาณหลุดจากปากหญิงสาว ยังไม่ทันได้มองสิ่งที่เธอชน แต่ก้มลงไปมองแก้วกาแฟ กระเด็ดกระดอนหล่นจากมือลงไปนอนแอ่งแม้งตรงพื้น น้ำสีน้ำตาลไหลออกจากรูที่เจาะหลอด เลอะพื้น

“คุณผู้หญิงระวังหน่อยสิครับ” เสียงทุ้มดุดันแทรกความตกอกตกใจของหญิงสาวขึ้น

ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งเติม เจ้าตัวไม่ค่อยชอบประโคมอะไรให้รกใบหน้า เงยขึ้นมองที่มาของเสียง ชายร่างสูงใหญ่ตระหง่านส่งแววตาตำหนิมายังเธอ เพราะความซุ่มซ่ามของเธอ หน้าตาคนตรงหน้าดุดันทำให้เจ้าของแก้วกาแฟรู้สึกหวาดผวา ทว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว ด้านหลังชายร่างยักษ์ มีผู้ชายอีกคนยืนซ้อนหลังอยู่ มธุรดาเอียงหน้าจากกำแพงใหญ่ที่ขวางกั้นระหว่างเธอกับคนด้านหลัง ดวงตารีสวยถึงกับเบิกกว้าง อาการแปลกๆ วิ่งแล่นในกายปัจจุบันทันด่วน