บทที่10 หวานเจี๊ยบ
“เห็นแก่ที่วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวสุดที่รัก จะยอมเสียเวลาสักวันก็ได้”
ใบหน้ายังคงเรียบเฉย ดวงตาคมคายปราศจากความเจ้าเล่ห์แสนกล
ทั้งที่จริงแล้วพิชยะแทบจะรอจุมพิตจากมนต์มีนาไม่ไหว
อยากรู้ว่ารสจูบของเธอจะพัฒนาขึ้นจากคราวที่แล้วไหม
แม้จะมีบางส่วนอยากให้เธอปฏิเสธแต่พอได้ยินแบบนั้นต่างก็ส่งเสียงเชียร์ให้หญิงสาวรับคำท้า
มนต์มีนาใช้เวลาตรึกตรองครู่เดียวก็ผละมือตัวเองออกจากมือของพิชชาและขอให้เพื่อนเข้าใจเธอในการตัดสินใจครั้งนี้
ร่างบางระหงในชุดราตรีสั้นสีเงินเดินตรงไปหาเป้าหมายก่อนจะหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของศัลยแพทย์หนุ่ม
พิชยะละสายตาจากแก้ววิสกี้ในมือแล้วโฉบสายตาขึ้นไปจ้องใบหน้านวลเนียนนิ่ง ไม่ต่างจากสัตว์ป่าดุร้ายที่รอคอยเหยื่อมาแรมปี
ทว่ามนต์มีนากลับคาดเดาสายตาลุ่มลึกของอีกฝ่ายไม่ออก
หญิงสาวผ่อนลมหายใจเข้าลึกอยู่หลายหนในการเตรียมใจ
ไม่สิ ในการตระเตรียมริมฝีปากต่างหาก
เธอกำลังคิดว่าจูบของพวกเพื่อน ๆ หมายถึง…
แค่แตะริมฝีปากลงไป
หรือเธอต้องสอดลิ้นเข้าไปด้วยนะ???
แต่เอ๊ะ! กติกาก็ไม่ได้ระบุไว้สักหน่อยนี่ เอาเป็นว่าเธอแค่เอาปากค้างไว้ที่ปากของพิชยะก็น่าจะพอแล้ว
ใช่ เอาตามนี้แหละ เพื่อเงินสองหมื่นห้า เพื่อค่าเทอมเทอมสุดท้าย สู้เว้ยมีน!
ถกเถียงกับตัวเองจนกินเวลาไปทีเดียว มนต์มีนาก็บังคับสายตาหันไปมองใบหน้าของชายหนุ่ม ที่ยังนั่งนิ่งเป็นตอไม้ ท่าทีดูเป็นกันเอง
สายตาเรียบเฉยไม่เหมือนจอมวางแผนของคุณหมอทำให้ลดความประหม่าไปได้หลายส่วน
แต่เจ้ากวางน้อยอย่างมนต์มีนาคงไม่รู้ว่า…ก่อนที่เสือร้ายมันจะเข้าไปตะครุบเหยื่อ มันก็นิ่งรอจังหวะแบบนี้ทุกตัว
รวบรวมความกล้ามาไว้บนริมฝีปากจิ้มลิ้มของตัวเองได้แล้วเธอก็พูดขึ้นน้ำเสียงแทบจะเป็นการกระซิบ
“ขออนุญาตนะคะ” คนถูกขออนุญาตจ้องหญิงสาวครู่หนึ่งก็พยักหน้า ไม่ปรากฏท่าทีใด ๆ เป็นเสือที่ซ่อนเขี้ยวเล็บได้อย่างแยบยล...
ท่ามกลางความเงียบสนิทเสียงเพลงถูกกดหยุดไว้ชั่วคราว มนต์มีนาเป่าลมบางเบาออกจากปากสูดหายใจเข้าลึก ค่อย ๆ โน้มตัวลงไปหาชายหนุ่ม ดวงตาคู่สวยฉายความประหม่าออกมาชัดเจน
รับรู้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นรัวกระหน่ำ เธอหลับตาลงสองมือชื้นไปด้วยเหงื่อกอบกำเข้าหากันแน่น เผลอกลั้นลมหายใจในตอนที่ริมฝีปากฉ่ำวาวค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใกล้กับริมฝีปากของอีกฝ่าย
พลันหัวใจราวกับหยุดเต้นตอนที่ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับปากของเขา มนต์มีนาไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมองเจ้าของริมฝีปากระอุ เนื้อตัวชาวาบ รู้สึกวาบหวามขึ้นมาในใจ เกิดความสั่นน้อย ๆ ขึ้นที่สองมือแม้ว่าเธอไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปข้างในนั้น
ภาพที่ทุกคนเห็น พิชยะเพียงแต่นั่งนิ่ง ๆ ปล่อยให้เพื่อนของน้องสาวทำเรื่องอาจหาญเพื่อพิชิตเงินรางวัลก้อนโต
ทว่าภายใต้ความนิ่งเหมือนพระอิฐพระปูน ในใจแทบอยากดึงตัวมนต์มีนาลงมานั่งที่ตัก กวาดต้อนเอาความหวานหอมจากเรียวลิ้นอ่อนนุ่มให้หายจากอาการคอแห้ง
ทุกคนต่างพร้อมใจกันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บช็อตเด็ดและพร้อมจะอัพลงโซเชียล
เชอร์รีสาวสวยของคณะบริหารยืนมองมนต์มีนาจูบกับชายหนุ่มที่ตนหมายตาด้วยความเสียดายไม่หาย ในขณะที่คุณหมอธนากับอคิณต่างก็ไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อทั้งหมดเป็นเพียงแค่เกม
ผ่านไปกว่าหลายวินาทีมนต์มีนาถึงดึงตัวกลับขึ้นมายืน แต่อาการประหม่าก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป จังหวะที่หญิงสาวจะก้าวขาออกมา
ขาข้างหนึ่งก็เกิดไปสะดุดกับขาของเก้าอี้ ดีว่าพิชยะคว้าไว้ได้ทัน ท่อนแขนแข็งแรงประคองเอวคอดเอาไว้ได้อย่างนุ่มนวล
“จูบไม่ได้เรื่องแล้วยังจะซุ่มซ่ามอีก” น้ำเสียงพร่าแหบกระซิบข้างหูมนต์มีนามุมปากยกยิ้ม แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยมากกันกว่านี้เพราะพิชชาเดินเข้ามาก่อน พิชยะเลยจำต้องปล่อยร่างบางจากตนเอง
“เป็นอะไรไหมมีน”
“ม...ไม่เป็นไร” เธอฉีกยิ้มให้กับเพื่อนในขณะที่หัวใจยังเต้นรัวอยู่ในอก
“ทำอะไรเพื่อนฟินน์ป่ะเนี่ย” พิชชาหันไปมองพี่ชายตาขวาง
“เลอะเทอะ ฉันจะไปทำอะไรเพื่อนเธอได้” จบคำพูดชายหนุ่มก็กลับลงไปนั่งที่ หยิบเหล้ารสขมปร่าขึ้นมากรอกลงไปในคออึกใหญ่
ทำราวกับคนไม่มีความผิดติดตัว...
ทั้งที่เขาจ่ายเงินหนึ่งหมื่นบาทในการติดสินบนให้พนักงานโรงแรมเขียนชื่อของมนต์มีนาขึ้นมาอีกชุดแล้วใส่ลงไปในกล่อง
แน่นอนว่ากระดาษทุกใบเป็นชื่อของเธอทั้งหมดและก็มีอยู่เพียงกติกาเดียวเท่านั้น
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน พนักงานโรงแรมก็อาศัยช่วงที่ชุลมุนเปลี่ยนของเดิมกลับลงไป
เขาน่ะหรือเจ้าเล่ห์ เปล่าเลย... แต่ใครใช้ให้คืนนี้เธอแต่งตัวล่อแหลม ล่อเสือล่อตะเข้ขนาดนี้ล่ะ!
จริงว่าเขาไม่ใช่เจ้าของเธอ ไม่มีสิทธิ์หึงหวง แต่วันหน้า มันก็ไม่แน่
อย่างไรเสียเขาก็ไม่ยอมให้มนต์มีนาหลุดมือไปหรอก
พ่อจะกลืนกินไม่ให้หลงเหลือกลิ่นไปถึงคนอื่นเลยเชียว
พิชชาไม่ได้ติดใจรีบจูงมือมนต์มีนาไปเอาเงินรางวัล มนต์มีนาเองก็โล่งอกที่ภารกิจพิชิตเงินผ่านไปได้ด้วยดี แม้ว่าริมฝีปากระอุนั้นเกือบจะทำให้เธอเสียเรื่องแล้วก็ตาม
ทุกอย่างกลับสู่สถานการณ์ปกติ ปาร์ตี้วันเกิดยังคงดำเนินต่อไปด้วยความครึกครื้นเหมือนในตอนแรก
มนต์มีนานั่งดื่มอยู่กับพวกเพื่อน ๆ ของเธอจนกระทั่งรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ เลยอาศัยจังหวะหนึ่งปลีกตัวออกมา
เนื่องจากปาร์ตี้จัดขึ้นที่ริมสระ เธอจึงต้องมาทำธุระส่วนตัวในบ้าน พวกนางได้รับอนุญาตจากพิชยะให้วันนี้เลิกงานเร็วหนึ่งวัน
ทุกคนจึงใช้โอกาสนี้พักผ่อนตามอัธยาศัยอยู่ในบริเวณบ้านพักที่แยกออกมาจากตึกหลังใหญ่อย่างเป็นสัดส่วน มีเนื้อที่เพียงพอให้พวกเขานั่งพักยามว่างจากการงานและยังมีเนื้อที่ให้พวกเขาปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้กิน
ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยมนต์มีนาก็ตั้งใจจะกลับเข้าไปในงาน ทว่าสายตากลับสะดุดเข้ากับร่างสูงยืนพิงกำแพงในแสงไฟสลัวราง
เขามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ในใจสงสัยใคร่รู้หากก็ไม่คิดจะเอ่ยถามคนที่เธอเพิ่งจะอาจหาญทำเรื่องบ้า ๆ ลงไป
จูบเพื่อแลกกับเงิน แถมเธอยังใจกล้าบ้าบิ่นจูบพิชยะต่อหน้าเพื่อน ๆ ของเธอ
แกทำลงไปได้ไงนะมีนนน
พอนึกถึงสัมผัสบางเบาจากริมฝีปากของชายหนุ่ม เธอก็ลืมตัวเผลอเอามือขึ้นมาจับริมฝีปากตัวเอง
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”
---------
ฮั่นแน๊...คูมหมอมาดักรอน้องทำมายยย บี1คิดเหมือน บี2 มั้ยยย // ถ้าถึง 20 เม้นแบบอ้อนๆ หน่อย เดี๋ยวไรท์มาต่อให้เลยค่ะ ^^
